นางสาวบุศรินทร์ ประดิษฐยนต์ Country Head ของบริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ STT GDC Thailand กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ STT GDC ได้จัดการประชุม Practical Insights ครั้งที่ 4 ขึ้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้กล่าวเปิดการประชุมนี้ที่ได้รวมเหล่าผู้นำอุตสาหกรรมต่าง ๆ มาพูดคุยถึงศักยภาพของ AI ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในหลากหลายมุม ตั้งแต่การสร้างบุคลากรที่มีความพร้อมสำหรับ AI การปฏิรูปบริการทางการเงิน การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ไปจนถึงการส่งเสริมความร่วมมือกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ
ตลาด AI ของไทยมีความพร้อมที่จะเติบโตและขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว แต่คำถามสำคัญ คือ เรามีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งพอที่จะนำประเทศเข้าสู่เวทีแข่งขันนี้หรือไม่?
ตอนนี้เราอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในทศวรรษหน้า ข้อมูลจาก Statista Market Insights¹ คาดว่าในปีนี้ (2568) มูลค่าการเติบโตตลาดปัญญาประดิษฐ์ของประเทศไทยจะสูงถึง 1.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 26.24% ไปจนถึงปี 2574 ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้วัดกันที่ตัวเลขเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อ 'พลังการประมวลผล' ในโครงสร้างพื้นฐาน ไปสู่การเป็น 'พลังสำคัญที่สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเชิงกลยุทธ์'
ในส่วนของภาคธุรกิจการเงิน การธนาคาร และการประกันภัย (หรือ BFSI) ความเร่งด่วนในการลงมือปฏิบัติเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ เพราะ AI ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นความจำเป็นของวันนี้ที่จะเข้ามาพลิกโฉมการบริหารความเสี่ยง การมีส่วนร่วมของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน จากการคาดการณ์ล่าสุดของอุตสาหกรรม ระบุว่าในปี 2568 ธนาคารประมาณ 75% ที่มีมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ วางแผนนำกลยุทธ์ AI มาปรับใช้อย่างเต็มรูปแบบ² หมายความว่า สถาบันการเงินที่ยังลังเลหรือปรับตัวไม่ทันจะกลายเป็นผู้ตามไปโดยปริยาย ทั้งในแง่การแข่งขันและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ดังนั้น คำถามสำคัญคือ "เราจะนำ AI มาใช้เพื่อยกระดับบริการให้ทำงานเร็วขึ้นและดีขึ้นได้อย่างไร" มากกว่า "เราควรใช้ AI หรือไม่"
ข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้าน BFSI ในงาน Practical Insights ยังเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอนาคตของการปล่อยสินเชื่อที่ขับเคลื่อนด้วย AI ถึง 3 ประการสำคัญ ประกอบด้วย การยกระดับการปรับแต่งบริการเฉพาะบุคคล (Increased Personalisation) ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลและปรับเปลี่ยนได้เรียลไทม์ตามพฤติกรรมทางการเงิน การผสานรวมบริการทางการเงิน (Embedded Finance) เพื่อช่วยให้การบูรณาการ AI ทำงานเข้ากับแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่ทางการเงินเป็นไปอย่างราบรื่น อาทิ การมอบสินเชื่อแบบทันทีในเวลาที่ลูกค้าต้องการ และ การเพิ่มความโปร่งใส (Enhanced Transparency) ผ่านการปรับปรุงความสามารถในการอธิบายของ AI และกรอบจริยธรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มหรือขยายความเชื่อมั่น โดยนวัตกรรมทั้งหมดนี้ต้องการความสามารถดาต้าเซ็นเตอร์ที่พร้อมสำหรับการทำงานของ AI เพื่อรองรับการประมวลผลเรียลไทม์สำหรับลูกค้าหลายล้านราย
ลดความเหลื่อมล้ำดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานเป็น Game Changer สร้างความเสมอภาค โอกาสที่ใหญ่ที่สุดคือการทำให้ทุกคนทั่วทั้งระบบนิเวศทางธุรกิจเข้าถึงความสามารถด้าน AI ได้ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ที่คิดเป็น 99.5% ของธุรกิจไทยและ 70% ของการจ้างงาน ⁵ แต่ยังเข้าไปไม่ถึงโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีระดับองค์กรมาเป็นเวลานาน
AI เข้ามาเปลี่ยนแปลงสมการนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ จากแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถใช้ร่วมกัน ผู้ผลิตไทยรายเล็ก ๆ สามารถเข้าถึงพลังการประมวลผลในระดับเดียวกับบริษัทรายใหญ่ข้ามชาติ ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ได้อย่างครอบคลุมตั้งแต่แรกเริ่ม ทั้งการควบคุมคุณภาพ, การคาดการณ์การบำรุงรักษา และการเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
ภาคการเกษตรที่เป็นอุตสาหกรรมดั้งเดิมของประเทศสามารถใช้ AI วางแผนทำการเกษตรที่แม่นยำ (Precision Farming) พยากรณ์อากาศ และการเพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิตได้ ผู้ผลิตสิ่งทอไทยใช้ AI ออกแบบและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ รวมถึงสตาร์ทอัพฟินเทคในประเทศสามารถเสนอบริการทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่มีความซับซ้อนและแข่งขันกับสถาบันการเงินรายใหญ่ ๆ ระดับโลกได้
เมื่อทุกภาคส่วนเข้าถึงและใช้งาน AI ได้จะทำให้ประเทศไทยเกิดการปรับพลวัตพื้นฐานการแข่งขันของประเทศ ดังนั้นความรู้และทักษะด้าน AI ที่ครอบคลุมจะกลายเป็นความได้เปรียบด้านการแข่งขันในเวทีระดับชาติ เช่นเดียวกับความสำเร็จด้านฟินเทคของสิงคโปร์และรัฐบาลอิเลคทรอนิคส์ (e-Government) ของเอสโตเนีย
STT GDC มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่า 100 แห่งใน 12 ประเทศ เราเห็นว่าความพร้อมในโครงสร้างพื้นฐานมีความสัมพันธ์โดยตรงกับโอกาสทางเศรษฐกิจ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมสำหรับ AI ของสิงคโปร์ยุคแรกเริ่มดึงดูดสตาร์ทอัพ AI ชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่เวียดนามให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ช่วยให้ประเทศสามารถสร้างความได้เปรียบในอุตสาหกรรมการผลิตแบบดั้งเดิมผ่านประสิทธิภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI ดังนั้นประเทศไทยต้องเป็นผู้ส่งออก AI ไม่ใช่แค่ผู้นำเข้า ก่อนที่โอกาสทองนี้จะหลุดมือไป
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี