โครงสร้างพื้นฐานไอที...หัวใจสำคัญภาคการเงิน ดันไทยสู่เศรษฐกิจยุค AI

โครงสร้างพื้นฐานไอที...หัวใจสำคัญภาคการเงิน ดันไทยสู่เศรษฐกิจยุค AI

วันอังคาร ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568, 10.44 น.

นางสาวบุศรินทร์ ประดิษฐยนต์ Country Head ของบริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ STT GDC Thailand กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ STT GDC ได้จัดการประชุม Practical Insights ครั้งที่ 4 ขึ้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้กล่าวเปิดการประชุมนี้ที่ได้รวมเหล่าผู้นำอุตสาหกรรมต่าง ๆ มาพูดคุยถึงศักยภาพของ AI ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในหลากหลายมุม ตั้งแต่การสร้างบุคลากรที่มีความพร้อมสำหรับ AI การปฏิรูปบริการทางการเงิน การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ไปจนถึงการส่งเสริมความร่วมมือกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ

ตลาด AI ของไทยมีความพร้อมที่จะเติบโตและขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว แต่คำถามสำคัญ คือ เรามีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งพอที่จะนำประเทศเข้าสู่เวทีแข่งขันนี้หรือไม่?


ตอนนี้เราอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในทศวรรษหน้า ข้อมูลจาก Statista Market Insights¹ คาดว่าในปีนี้ (2568) มูลค่าการเติบโตตลาดปัญญาประดิษฐ์ของประเทศไทยจะสูงถึง 1.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 26.24% ไปจนถึงปี 2574 ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้วัดกันที่ตัวเลขเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อ 'พลังการประมวลผล' ในโครงสร้างพื้นฐาน ไปสู่การเป็น 'พลังสำคัญที่สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเชิงกลยุทธ์'

ในส่วนของภาคธุรกิจการเงิน การธนาคาร และการประกันภัย (หรือ BFSI) ความเร่งด่วนในการลงมือปฏิบัติเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ เพราะ AI ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นความจำเป็นของวันนี้ที่จะเข้ามาพลิกโฉมการบริหารความเสี่ยง การมีส่วนร่วมของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน จากการคาดการณ์ล่าสุดของอุตสาหกรรม ระบุว่าในปี 2568 ธนาคารประมาณ 75% ที่มีมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ วางแผนนำกลยุทธ์ AI มาปรับใช้อย่างเต็มรูปแบบ² หมายความว่า สถาบันการเงินที่ยังลังเลหรือปรับตัวไม่ทันจะกลายเป็นผู้ตามไปโดยปริยาย ทั้งในแง่การแข่งขันและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ดังนั้น คำถามสำคัญคือ "เราจะนำ AI มาใช้เพื่อยกระดับบริการให้ทำงานเร็วขึ้นและดีขึ้นได้อย่างไร" มากกว่า "เราควรใช้ AI หรือไม่"

ข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้าน BFSI ในงาน Practical Insights ยังเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอนาคตของการปล่อยสินเชื่อที่ขับเคลื่อนด้วย AI ถึง 3 ประการสำคัญ ประกอบด้วย การยกระดับการปรับแต่งบริการเฉพาะบุคคล (Increased Personalisation) ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลและปรับเปลี่ยนได้เรียลไทม์ตามพฤติกรรมทางการเงิน การผสานรวมบริการทางการเงิน (Embedded Finance) เพื่อช่วยให้การบูรณาการ AI ทำงานเข้ากับแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่ทางการเงินเป็นไปอย่างราบรื่น อาทิ การมอบสินเชื่อแบบทันทีในเวลาที่ลูกค้าต้องการ และ การเพิ่มความโปร่งใส (Enhanced Transparency) ผ่านการปรับปรุงความสามารถในการอธิบายของ AI และกรอบจริยธรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มหรือขยายความเชื่อมั่น โดยนวัตกรรมทั้งหมดนี้ต้องการความสามารถดาต้าเซ็นเตอร์ที่พร้อมสำหรับการทำงานของ AI เพื่อรองรับการประมวลผลเรียลไทม์สำหรับลูกค้าหลายล้านราย

ลดความเหลื่อมล้ำดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานเป็น Game Changer สร้างความเสมอภาค โอกาสที่ใหญ่ที่สุดคือการทำให้ทุกคนทั่วทั้งระบบนิเวศทางธุรกิจเข้าถึงความสามารถด้าน AI ได้ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ที่คิดเป็น 99.5% ของธุรกิจไทยและ 70% ของการจ้างงาน ⁵ แต่ยังเข้าไปไม่ถึงโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีระดับองค์กรมาเป็นเวลานาน

AI เข้ามาเปลี่ยนแปลงสมการนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ จากแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถใช้ร่วมกัน ผู้ผลิตไทยรายเล็ก ๆ สามารถเข้าถึงพลังการประมวลผลในระดับเดียวกับบริษัทรายใหญ่ข้ามชาติ ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ได้อย่างครอบคลุมตั้งแต่แรกเริ่ม ทั้งการควบคุมคุณภาพ, การคาดการณ์การบำรุงรักษา และการเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

ภาคการเกษตรที่เป็นอุตสาหกรรมดั้งเดิมของประเทศสามารถใช้ AI วางแผนทำการเกษตรที่แม่นยำ (Precision Farming) พยากรณ์อากาศ และการเพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิตได้ ผู้ผลิตสิ่งทอไทยใช้ AI ออกแบบและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ รวมถึงสตาร์ทอัพฟินเทคในประเทศสามารถเสนอบริการทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่มีความซับซ้อนและแข่งขันกับสถาบันการเงินรายใหญ่ ๆ ระดับโลกได้

เมื่อทุกภาคส่วนเข้าถึงและใช้งาน AI ได้จะทำให้ประเทศไทยเกิดการปรับพลวัตพื้นฐานการแข่งขันของประเทศ ดังนั้นความรู้และทักษะด้าน AI ที่ครอบคลุมจะกลายเป็นความได้เปรียบด้านการแข่งขันในเวทีระดับชาติ เช่นเดียวกับความสำเร็จด้านฟินเทคของสิงคโปร์และรัฐบาลอิเลคทรอนิคส์ (e-Government) ของเอสโตเนีย

STT GDC มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่า 100 แห่งใน 12 ประเทศ เราเห็นว่าความพร้อมในโครงสร้างพื้นฐานมีความสัมพันธ์โดยตรงกับโอกาสทางเศรษฐกิจ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมสำหรับ AI ของสิงคโปร์ยุคแรกเริ่มดึงดูดสตาร์ทอัพ AI ชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่เวียดนามให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ช่วยให้ประเทศสามารถสร้างความได้เปรียบในอุตสาหกรรมการผลิตแบบดั้งเดิมผ่านประสิทธิภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI ดังนั้นประเทศไทยต้องเป็นผู้ส่งออก AI ไม่ใช่แค่ผู้นำเข้า ก่อนที่โอกาสทองนี้จะหลุดมือไป

- 030 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top