นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเข้ารับตำแหน่ง ว่า ได้วางภารกิจเร่งด่วน 8 ด้าน เพื่อยกระดับงานให้บริการและพัฒนาผู้ประกอบการอย่างรอบด้าน ประกอบไปด้วย 1.การยกระดับบริการดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยขณะนี้กรมฯ มีความพร้อมให้บริการจดทะเบียนและบริการข้อมูลธุรกิจในรูปแบบออนไลน์ 100% แต่เราจะยังไม่หยุดพัฒนารูปแบบการใช้งานและปรับปรุงฟังก์ชันต่างๆ ให้ง่ายยิ่งขึ้น

2.การเชื่อมโยงข้อมูลธุรกิจให้ทุกภาคส่วนเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเป็นปัจจุบัน ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของภาคธุรกิจ

3.การส่งเสริมศักยภาพ SME ให้ตรงตามความต้องการ โดยเฉพาะธุรกิจกลุ่มค้าส่ง-ค้าปลีก ร้านอาหาร สุขภาพและความงาม ธุรกิจครอบครัว และบริการผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่สอดรับกับนโยบายเร่งด่วนของ รมว.พาณิชย์ (นางศุภจี สุธรรมพันธุ์) โดยจะเร่งพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้ทันต่อสภาพตลาด

4.การเพิ่มรายได้ผู้ประกอบการผ่านการค้าออนไลน์ โดยเพิ่มช่องทางและโอกาสทางการค้าผ่านอีคอมเมิร์ซทั้งไทยและต่างชาติสร้างโอกาสให้ผู้ค้ารายเล็กได้มีช่องทางการตลาดที่หลากหลายมากขึ้น

5.ดูแลผู้ทำบัญชีเพื่อส่งเสริมธุรกิจให้มีธรรมาภิบาล การจัดทำบัญชีที่มีมาตรฐานและถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาลจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน 

6.อำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติที่ประกอบธุรกิจในไทยอย่างถูกกฎหมาย การลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติถือเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากการดึงเม็ดเงินให้เข้ามาลงทุนแล้วยังมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้กับธุรกิจไทยด้วย

7.การป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด กรมฯ จะบังคับใช้กฎหมายในความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างระบบธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการไทย พร้อมป้องกันและปราบปรามธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเข้มข้น โดยเอาผิดกับการใช้บุคคลต่างชาติแอบอ้างถือหุ้นแทน (นอมินี) บัญชีม้านิติบุคคล และการปลอมแปลงเอกสารนิติบุคคล เป็นต้น

8.การแก้ไข กฎ ระเบียบให้ทันสมัยเอื้อต่อภาคธุรกิจ เพื่อปรับปรุงงานให้บริการที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมธุรกิจยุคใหม่ ลดความซ้ำซ้อนและความยุ่งยาก เพื่อปลดล็อกศักยภาพของประเทศและเพื่อให้กฎหมายธุรกิจของไทยมีความทันสมัย โปร่งใส และแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ