นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ เดินหน้าตามแผนปฏิบัติการเร่งด่วนปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยว ย่านการค้าสำคัญและคลังเก็บสินค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น ศูนย์การค้าแถวปทุมวัน โกดังแถวสมุทรสาคร โดยได้ตรวจค้นจับกุมแหล่งจำหน่าย โกดัง สถานที่เก็บสินค้าปลอมแบรนด์เนมที่มีชื่อเสียง พบสินค้า เช่น นาฬิกา แว่นตา เสื้อผ้า และเครื่องประดับ ที่จะนำไปจำหน่ายทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์
ทั้งนี้เพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา และปกป้องผู้บริโภคจากอันตรายของสินค้าปลอมและการถูกหลอกลวงให้ซื้อสินค้าปลอมแบรนด์ดังและสินค้าด้อยคุณภาพรวมทั้งป้องกันความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีของประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลเชิงบวกต่อการประเมินสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยในเวทีสากล และส่งผลต่อเนื่องถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่สนใจขยายฐานการผลิตและการวิจัยพัฒนามายังไทย
นางอรมน กล่าวว่า สถิติการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในช่วง 8 เดือนแรก (มกราคม – สิงหาคม) ปี 2568 โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 628 คดี ของกลาง 1,652,753 ชิ้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ 6 คดี ของกลาง 922,567 ชิ้น และกรมศุลกากร 229 คดี ของกลาง 393,773 ชิ้น รวมทั้งสิ้น 863 คดี ของกลาง 2,969,093 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 ที่มีการจับกุมสินค้าละเมิดฯ 934 คดี ของกลาง 2,335,861 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 388 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าปี 2568 มีการจับกุมดำเนินคดีลดลง 7.6% แต่มีจำนวนของกลางเพิ่มสูงขึ้น 27.11% เนื่องจากกรมฯ และหน่วยงานพันธมิตรมุ่งดำเนินมาตรการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาตั้งแต่ต้นน้ำ โดยมีการเฝ้าระวังและจับกุมดำเนินคดีกับผู้ค้ารายใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งต้นตอของสินค้าละเมิดฯ เหล่านี้ ซึ่งสินค้าที่จับกุมได้ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีอันตรายต่อสุขภาพและชีวิต เช่น อาหาร เครื่องสำอาง น้ำมันเครื่อง อะไหล่รถยนต์ ตลอดจนสินค้าแบรนด์เนมปลอม จำพวกนาฬิกา เครื่องประดับ และเสื้อผ้า
ทั้งนี้กรมฯ ได้วางแผนบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด และเร่งรัดปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่แหล่งจำหน่ายสินค้าที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในรายงานตลาดที่มีสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูง (Notorious Markets) ของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (United States Trade Representative: USTR)
นอกจากการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในท้องตลาดแล้ว กรมฯ ได้จัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาบนอินเทอร์เน็ตกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวม 44 ราย ร่วมเฝ้าระวังและป้องกันการจำหน่ายสินค้าละเมิดฯ บนแพลตฟอร์ม e-Commerce อาทิ แพลตฟอร์ม Lazada Shopee TikTok Shop Nex Gen Commerce รวมถึง NocNoc นำมาตรการ Notice and Takedown มาใช้ คือแพลตฟอร์มจะเร่งนำสินค้าที่ได้รับแจ้งว่าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาออกจากแพลตฟอร์มโดยเร็ว ส่งผลให้สามารถระงับการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนแพลตฟอร์มดังกล่าวตามคำร้องได้ทั้งหมด จำนวน 2,361 รายการ ทั้งนี้ กรมฯ จะเดินหน้าขยายความร่วมมือนี้ไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ยังไม่มี MOU กับกรมฯ เพิ่มเติม เพื่อสร้างแนวร่วมในการป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไป
นางอรมน กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ และภาคประชาชน ถือเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาการร่วมกันรณรงค์ไม่ซื้อ ไม่ใช้ และไม่สนับสนุนสินค้าละเมิดฯ การตระหนักรู้และมีจิตสำนึกในการเคารพสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาหรือผลงานสร้างสรรค์ของผู้อื่น ส่งเสริมการใช้สินค้าที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และถูกกฎหมาย เป็นการส่งเสริมครีเอเตอร์และงานสร้างสรรค์ และสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการค้าการลงทุน ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้เข้มแข็ง แข่งขันได้ ท่ามกลางภาวะสงครามการค้าที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน
ทั้งนี้ หากท่านใดพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสมายัง กองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 02-547-4702 หรือสายด่วน 1368 หรือเว็บไซต์ www.ipthailand.go.th
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี