จับกระแสพลังงาน : 7 ตุลาคม 2568

จับกระแสพลังงาน : 7 ตุลาคม 2568

วันอังคาร ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

** บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (6-10 ต.ค.2568)...โดยระบุว่า ราคาน้ำดิบยังคงผันผวนจากแรงกดดันด้านอุปทานและความไม่แน่นอนของความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ  เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกพลัสอาจปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มเติมในเดือน พ.ย.-ธ.ค.2568 หลังจากกลุ่มโอเปกพลัสเริ่มยกเลิกการปรับลดกำลังการผลิตปริมาณ 1.65 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยทยอยปรับเพิ่ม 137,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน ต.ค.2568 รวมถึงราคาน้ำมันปรับตัวลงชั่วคราว และอุปสงค์น้ำมันดิบอาจลดลงจากเหตุการณ์รัฐบาลสหรัฐฯ ปิดทำการชั่วคราว (Government shutdown) เนื่องจากสภาคองเกรสไม่สามารถตกลงร่างงบประมาณชั่วคราวได้ นอกจากนี้ตลาดยังคงจับตาการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปที่มีหัวข้อการประชุมเกี่ยวกับมาตรการของยุโรปต่อรัสเซีย เพื่อกดดันให้รัสเซียเข้าสู่การเจรจายุติสงคราม ในขณะที่ตลาดจับตาท่าทีของรัสเซียว่าจะยอมเข้าสู่โต๊ะเจรจาหรือทวีความรุนแรงขึ้นจากความไม่พอใจต่อมาตรการต่างๆของสหภาพยุโรป ทั้งนี้สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากแผนสันติภาพ 20 ข้อเพื่อยุติสงครามในฉนวนกาซามีแนวโน้มที่จะสามารถบรรลุข้อตกลงได้…ไทยออยล์....คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล…ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 62-72 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล...** บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจในช่วงปี 2568-2572...โดยวางกรอบการดำเนินธุรกิจให้ตอบสนองกับทิศทางพลังงานในอนาคตและสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจและมูลค่าได้อย่างต่อเนื่อง โดยยังคงมุ่งเน้นที่ธุรกิจผลิตไฟฟ้า ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และพลังงาน ทั้งนี้กลยุทธ์หลัก (5S) ที่กำหนดไว้ครอบคลุมหลักการ ดังนี้ (S1) การบริหารพอร์ตสินทรัพย์ โดยจะเน้นการปรับปรุงศักยภาพและประสิทธิภาพในการทำกำไร (S2) การลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าตามแผนกำลังผลิตไฟฟ้าของแต่ละประเทศ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ (S3) การลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านพลังงาน (S4) การพัฒนาโรงไฟฟ้าที่หมดอายุให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (S5) ลงทุนรูปแบบ Corporate Venture Capital (CVC) ในธุรกิจสตาร์ทอัพด้านพลังงานรูปแบบใหม่ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง บริษัทฯเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ดังกล่าวนี้จะเสริมสร้างความมั่นคงและแข็งแกร่งทางการเงิน ความเป็นเลิศในการดำเนินงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม และการเติบโตอย่างยั่งยืน...นอกเหนือจากประเทศไทย บริษัทฯยังตั้งใจจะขยายธุรกิจในประเทศที่เป็นฐานการลงทุนปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย สปป. ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เป็นต้น อีกทั้งยังตั้งเป้าจะแสวงหาโอกาสการลงทุนในพื้นที่ใหม่ๆที่มีการพัฒนาและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานนอกเหนือจากออสเตรเลีย อาทิ ประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันตก และญี่ปุ่น ด้วยปัจจุบันในออสเตรเลีย บริษัทฯมีบริษัทย่อย คือ บริษัท ราช ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (RAC) เป็นแกนหลักในการขยายธุรกิจและสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ โดยครึ่งแรกของปีนี้มีสัดส่วนรายได้ ร้อยละ 19 ของรายได้รวมบริษัทฯ คิดเป็นจำนวนเงิน 2,948 ล้านบาท และคาดว่ารายได้จะเพิ่มมากขึ้นหากโครงการที่อยู่ในมือสามารถพัฒนาและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จตามเป้าหมาย...** นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดแคมเปญ “กินพี่…แล้วหมีหนาว” โดยมีผู้บริหารระดับสูงจาก 5 บริษัทผู้ค้าน้ำมัน ได้แก่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และบริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารกระทรวงพลังงาน และวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมงาน...โดยแกนหลักสำคัญของโครงการนี้คือ...นำผลิตภัณฑ์ชุมชนมาวางจำหน่ายในร้านค้าของผู้บริการปั๊มน้ำมันต่างๆ...โดยสินค้านั้นจะต้องมีตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์ลดใช้พลังงาน...ซึ่งมีเกณฑ์การพิจารณาที่เข้มข้น 4 ด้าน ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในประเทศ เช่น อย. OTOP หรือ GMP 2) มีการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับสินค้าแต่ละชนิด 3) มีกระบวนการผลิตที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในช่วงที่กำหนด และ 4) มีการนำของเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์นี้แล้ว 14 หมวดผลิตภัณฑ์…ปัจจุบันในช่วงนำร่องโครงการ มีผลิตภัณฑ์ชุมชนกว่า 20 รายการ อาทิ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แคบหมู ข้าวแต๋น กล้วยตากพลังงานแสงอาทิตย์ ข้าวฮางงอก ผลไม้กวน และลำไยอบแห้ง เริ่มวางจำหน่ายแล้วในสถานีบริการน้ำมันและร้านค้าในเครือ ได้แก่ ร้านไทยเด็ดและร้าน Jiffy ในเครือ PTTOR 176 สาขา ร้าน PT Maxmart และร้านกาแฟพันธุ์ไทย ในเครือ PTG กว่า 100 สาขา ร้าน Shell Café 5 สาขาในกรุงเทพมหานคร สถานีบริการน้ำมัน CALTEX สาขาที่เข้าร่วมโครงการในจังหวัดอุดรธานี และสถานีบริการน้ำมัน SUSCO ในจังหวัดระยองและภูเก็ต…**

** กระบองเพชร **


โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top