นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทยเดือนกันยายน2568 เท่ากับ 100.11 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2567 ซึ่งเท่ากับ 100.84 ลดลง 0.72%ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 สาเหตุหลักมาจากราคาสินค้ากลุ่มพลังงานลดลง ทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงตามนโยบายของรัฐ และราคาพลังงานตลาดโลกที่ปรับลดลง และราคาสินค้ากลุ่มอาหารยังคงลดลง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะไข่ไก่ ผักสด และผลไม้สด ส่วนราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก และรวมเงินเฟ้อ 9 เดือนของปี 2568 (มกราคม-กันยายน) เพิ่มขึ้น 0.01%
“การที่เงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 6 เดือน ไม่มีสัญญาณเงินฝืด เพราะสาเหตุหลักมาจากกลุ่มพลังงานและอาหารสด ที่ปรับลดลงเป็นตัวฉุด แต่เมื่อดูเงินเฟ้อพื้นฐาน ยังไม่ลด แสดงว่าความต้องการยังมีอยู่ ส่วนการจ้างงานก็คงที่ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจยังทรงตัว ขณะนี้ พูดได้ว่าเป็นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เงินเฟ้อต่ำ แต่ยืนยันไม่ใช่ภาวะเงินฝืด”
สำหรับเงินเฟ้อเดือนกันยายน2568 ที่ลดลง 0.72% มาจากการลดลงของหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม 0.99% จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน (แก๊สโซฮอล์ ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน) ของใช้ส่วนบุคคล (แชมพู สบู่ถูตัว ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว กระดาษชำระ น้ำยาระงับกลิ่นกาย โฟมล้างหน้า) ค่าโดยสารเครื่องบิน เสื้อผ้า (เสื้อยืดบุรุษและสตรี เสื้อเชิ้ตบุรุษและสตรี กางเกงขายาวบุรุษ) และสิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (น้ำยารีดผ้า น้ำยาถูพื้น ผลิตภัณฑ์ฟอกผ้าขาว/น้ำยาซักผ้าขาว ผลิตภัณฑ์ซักผ้า) ส่วนสินค้าสำคัญหลายรายการที่ราคาสูงขึ้น อาทิ ค่าเช่าบ้าน ค่าแต่งผมบุรุษและสตรี และอาหารสัตว์เลี้ยง
หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.24% จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผักสด กลุ่มผลไม้สด ไข่ไก่ ข้าวสารเหนียว และไก่สด ส่วนสินค้าหลายรายการที่ราคาสูงขึ้น อาทิ กลุ่มอาหารสำเร็จรูป กลุ่มปลาและสัตว์น้ำ กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร และกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล
ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานออก เพิ่มขึ้น 0.65% ชะลอลงจากเดือนสิงหาคม2568 ที่เพิ่มขึ้น 0.81% รวม 9 เดือน เพิ่มขึ้น 0.90%
แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 คาดว่าจะอยู่ใกล้ระดับ 0% โดยมีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง คือ ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนหน้าเนื่องจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิตภาครัฐได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือนกันยายน-ธันวาคม2568 มาอยู่ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย ทำอัตราค่ากระแสไฟฟ้าลดเหลือ 3.94 บาทต่อหน่วย ราคาผักสดและผลไม้สดต่ำกว่าปีก่อนเนื่องจากผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก รวมทั้งฐานของราคาผักสดในปีก่อนหน้าที่อยู่ระดับสูง และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันที่สูงขึ้น
ปัจจัยที่จะสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ได้แก่ ราคาสินค้าเกษตรบางชนิดและเครื่องประกอบอาหารมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อน เช่น เนื้อสุกร มะขามเปียก กะทิสำเร็จรูป กาแฟ เกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น รวมไปถึงการเร่งใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ที่จะมีส่วนกดดันเงินเฟ้อ ส่วนโครงการคนละครึ่ง ที่จะเริ่มในเดือนตุลาคม2568 มองว่า มีผลกดดันเงินเฟ้อไม่มาก แต่ช่วยเพิ่มกำลังซื้อและความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2568 จากเดิมที่อยู่ระหว่าง 0.0–1.0% (ค่ากลาง 0.5%) มาอยู่ที่ 0.0% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2568 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในระดับต่ำ ราคาผักสดและผลไม้สดยังต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมากภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี