พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เปิดเผยว่า CAAT ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 จากเจตนารมณ์ของประเทศในการยกระดับระบบกำกับดูแลความปลอดภัยการบินให้เทียบเคียงมาตรฐานสากล ภายใต้กฎหมายจัดตั้งเฉพาะและอำนาจหน้าที่ที่ชัดเจน นับแต่นั้น CAAT ได้ทำหน้าที่ Regulator ดูแลท้องฟ้าไทยให้ปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้โดยสารและผู้ประกอบการการบินอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม CAAT ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ โดยร่วมงานกับพันธมิตรสำคัญอย่าง EASA และ DGAC France ในการพัฒนากฎ มาตรฐาน และบุคลากร รวมถึงการทำงานกับ Airbus และ Boeing เพื่อผลักดันวิสัยทัศน์ Aviation Hub ของประเทศให้เป็นจริง ทำให้ไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางการบินและการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค
ทั้งนี้ CAAT ได้วางกรอบการดำเนินงานที่สำคัญ ซึ่งตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายสำคัญของรัฐ 4 เสาหลัก ได้แก่ 1.ความปลอดภัย (Safety) ยกระดับการกำกับดูแลแบบการบริหารความเสี่ยง risk-based oversight โดยใช้ดิจิทัลและข้อมูลเป็นเครื่องมือหลัก
2.ความยั่งยืน (Sustainability)ร่วมสร้างเศรษฐกิจที่ลดการปล่อยคาร์บอน ด้วยการส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงการบิน SAF พร้อมสนับสนุนการลงทุนในห่วงโซ่อุปทาน SAF ที่เชื่อมโยงเกษตร อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศตามมาตรการ CORSIA (Carbon Offsetting and Reduction Scheme for International Aviation) ของ ICAO
3.ความทันสมัยและนวัตกรรม (Innovation) นำปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาใช้ในการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นเพื่อลดเวลาการขออนุญาตต่าง ๆ โดยให้มีการติดตามสถานะแบบ real time พร้อมเตรียมใช้ระบบ Fast Track ในการออกใบอนุญาต การกำหนดหลักเกณฑ์และระบบขออนุญาตต่าง ๆ ให้มีความทันสมัย กระชับ ชัดเจน เช่น การขอขึ้นทะเบียน การขอขึ้นบิน การกำหนดเขตพื้นที่บิน มาตรการคุ้มครองความปลอดภัย ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองโลกอนาคตที่จะเข้าสู่ยุคอากาศยานไร้คนขับ (UAS) และอากาศยานขั้นสูง (AAM)
4.ศูนย์กลางการบินและระบบนิเวศอุตสาหกรรม (Aviation Hub & MRO) บูรณาการการทำงาน เพื่อผลักดันยุทธศาสตร์ Aviation Hub ร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชน โดยเน้นหลัก 4 แกน คือ ความจุสนามบิน และโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมต่อ ,ระบบอำนวยความสะดวกและมาตรฐานบริการผู้โดยสาร (service quality) ที่สอดคล้องกติกาสากล, การพัฒนาอุตสาหกรรมซ่อมบำรุงอากาศยานครบวงจร(MRO) และระบบนิเวศเพื่อการบิน ทั้งฮับซัพพลายเชน ช่างอากาศยาน และมาตรฐานชิ้นส่วนและเอกสาร ,การสนับสนุนการจัดตั้ง Training Center หรือศูนย์พัฒนาบุคลากรการบิน ซึ่งแผนดังกล่าวได้รับการขับเคลื่อนคู่ขนานกับการพัฒนาสนามบินหลัก โดย AOT และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“ความสำเร็จตลอด 10 ปีที่ผ่านมาของ CAAT เป็นผลจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานกำกับดูแล สนามบิน สายการบิน ผู้ให้บริการภาคพื้นดิน อุตสาหกรรมการผลิตและซ่อมบำรุง ตลอดจนประชาชนผู้ใช้บริการการบิน โดยขอขอบคุณทีมงาน CAAT ทุกคนที่ทุ่มเทอย่างต่อเนื่อง และประกาศเจตนารมณ์ว่า CAAT จะเดินหน้าตามหลักการสำคัญ 3 ประการ คือ การยึดความปลอดภัยเป็นลำดับแรก การทำงานในบทบาท Facilitator เพื่อให้อุตสาหกรรมเติบโตบนกติกาที่โปร่งใส และการสื่อสารตรงไปตรงมาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นร่วมกัน”พลอากาศเอก มนัท กล่าว
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี