ต่างชาติมั่นใจเศรษฐกิจไทยแห่ลงทุนกว่า 1.18 แสนล้านบาท

ต่างชาติมั่นใจเศรษฐกิจไทยแห่ลงทุนกว่า 1.18 แสนล้านบาท

วันพุธ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 14.57 น.

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของ   คนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (เฉพาะธุรกิจที่กำหนดให้ต้องขออนุญาต) ในช่วง 9 เดือนของปี 2568 (มกราคม-กันยายน) มีจำนวน 770 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 201 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 569 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 253,116 ล้านบาท

โดยการอนุญาตฯ ในช่วง 9 เดือนของปี 2568 (มกราคม-กันยายน) มีจำนวนเพิ่มขึ้นจำนวน 134 ราย (21%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 (636 ราย) และมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 118,311 ล้านบาท (88%)    เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 (134,805 ล้านบาท) ประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ญี่ปุ่น 142 ราย คิดเป็น 18% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 76,397 ล้านบาท 2) สหรัฐอเมริกา 116 ราย คิดเป็น 15% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 4,368 ล้านบาท 3) สิงคโปร์ 108 ราย คิดเป็น 14% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 86,550 ล้านบาท 4) จีน 99 ราย คิดเป็น 13% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 21,925 ล้านบาท 5) ฮ่องกง 82 ราย คิดเป็น 11% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 12,624 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ 223 ราย คิดเป็น 29% ของธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 51,252 ล้านบาท


เดือนกันยายน 2568 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย 83 ราย เป็นการลงทุนผ่าน   ช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 20 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 63 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 27,580 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจาก ญี่ปุ่น  สิงคโปร์ และจีน ตามลำดับ

นายพูนพงษ์ กล่าวว่า การลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ช่วง 9 เดือนของปี 2568 (มกราคม-กันยายน) ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มีจำนวน 222 ราย คิดเป็น 29% ของนักลงทุนต่างชาติในไทย เพิ่มขึ้น 15 ราย จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 คิดเป็น 7% มูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 82,264 ล้านบาท คิดเป็น 33% ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากประเทศจีน 55 ราย เงินลงทุน 15,665 ล้านบาท ญี่ปุ่น 52 ราย เงินลงทุน 28,919 ล้านบาท สิงคโปร์ 26 ราย เงินลงทุน 15,853 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ 89 ราย เงินลงทุน 21,827 ล้านบาท

-031

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top