นายต่อพงศ์ เสลานนท์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าว เปิดการประชุม NBTC Symposium 2025 ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 10 ตุลาคม 2568 โดยสำนักวิชาการต่างประเทศ สายงานวิชาการสำนักงาน กสทช. โดยในการนี ผู้เข้าร่วมการประชุมฯ ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตและคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ผู้แทนหน่วยงานภายใต้องค์การสหประชาชาติ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา สมาคมหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย รวมถึงผู้บริหารและพนักงาน กสทช. การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Bridging Today & Tomorrow, Connecting People - Inspiring Futures" โดยมีเป้าหมายให้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และวิสัยทัศน์ระหว่างผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับการประชุมครอบคลุมหัวข้อสำคัญแห่งอนาคต อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เทคโนโลยีสีเขียวเพื่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ความมั่นคงปลอดภัยสำหรับโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ การสื่อสารผ่านดาวเทียมยุคใหม่ (IMT-NTN) รวมถึงทิศทางและศักยภาพของประเทศไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจอวกาศ (Space Economy) เพื่อให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันกำหนดทิศทางนโยบายที่ยั่งยืนและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก โดยรูปแบบการประชุมเป็นแบบ Hybrid รองรับทั้งการประชุม Onsite และ Online พร้อมจัดให้มีระบบการบรรยายแทนเสียงแบบสด (Live Captioning) เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงองค์ความรู้ที่ทั่วถึงแก่ประชากรทุกกลุ่ม
อย่างไรก็ตามภายในการประชุมฯ ได้รับเกียรติจาก Mr. Amandeep Singh Gill, Under-Secretary-General and Special Envoy for Digital and Emerging Technologies, United Nations Office for Digital and Emerging Technologies ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษผ่านวีดิโอ ในหัวข้อ “Navigating the Converging Future: Global Visions & Shared Challenges” โดย Mr. Gill ได้นำเสนอวิสัยทัศน์และมุมมองในระดับโลกต่อการรับมือกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนจากเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์และกรอบความร่วมมือซึ่งริเริ่มภายใต้กรอบสหประชาชาติเพื่อสร้างความตระหนักรู้และจริยธรรมด้านปัญญา ประดิษฐ์ การปรับตัวของภาคส่วนต่างๆ ในพลวัตทางภูมิรัฐศาสตร์ และการแข่งขันในเศรษฐกิจอวกาศเพื่อเป็นแนวทางการกำหนดนโยบายและเตรียมความพร้อมของประเทศสู่อนาคต
นายสมิทธ์ พนมยงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ฯ กล่าวว่า บทบาทสำคัญของ “พลังงาน” ในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI และเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ พร้อมย้ำถึงความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงของระบบพลังงาน ความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม และต้นทุนที่แข่งขันได้ โดย Gulf มุ่งพัฒนาพลังงานที่สะอาด มีประสิทธิภาพ และมั่นคง เพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยในระยะยาว เนื่องจากพลังงานคือรากฐานของทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โทรคมนาคม หรือ Data Center ให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง
นายกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร,Chief Innovation Officer บริษัท SCB X และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท SCB 10X กล่าวว่าแนวคิดการเปลี่ยนผ่านของธนาคารสู่ยุคดิจิทัล โดยเน้นการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับประสิทธิภาพองค์กรและประสบการณ์ลูกค้า พร้อมนำเสนอกรณีศึกษาจริงจาก SCB Group โดยมุ่งสู่เป้าหมาย “First Banking” ที่ให้ AI มีบทบาทในทุกมิติขององค์กร เพื่อสร้างระบบการเงินที่ยั่งยืนและตอบโจทย์
นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่นฯ บรรยายในหัวข้อ “การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและโอกาสของประเทศไทยในยุค AI” ว่า ความจำเป็นของการเร่งปรับตัวสู่ดิจิทัล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ทั้งระบบคอมพิวเตอร์ การเชื่อมต่อ และการจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศ เพื่อสร้างความพร้อมของไทยในเศรษฐกิจยุคใหม่ พร้อมผลักดันให้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการสร้างความเท่าเทียมทางดิจิทัลและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในทุกพื้นที่
นายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่กลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสจำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่าโครงข่ายโทรคมนาคมได้เปลี่ยนบทบาทจากบริการพื้นฐานสู่การเป็นรากฐานสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่รองรับบริการหลากหลายตั้งแต่การชำระเงินออนไลน์จนถึงการแพทย์ทางไกล พร้อมเน้นความสำคัญของความมั่นคงยืดหยุ่นของโครงข่าย การใช้ AI เพื่อต่อสู้ภัยไซเบอร์ การจัดการพลังงานและขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนการผลักดันให้ทุกคนเข้าถึงบริการดิจิทัลอย่างเท่าเทียมภายใต้แนวคิด “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
รองศาสตราจารย์ ดร. สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กสทช กล่าวว่า ทิศทางของระบบโทรคมนาคมโลกและบทบาทของประเทศไทยในการก้าวสู่ยุค 6G และ Non-Terrestrial Network (NTN) โดยเน้นความสำคัญว่าโลกยังมีประชากร ที่อยู่ในพื้นที่มีสัญญาณแต่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งเทคโนโลยี NTN และ D2D (Direct-to-Device) จะช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้ ประเทศไทยได้รับการยอมรับระดับนานาชาติในด้านคุณภาพโครงข่าย ในขณะที่ความต้องการใช้คลื่นความถี่จะเพิ่มขึ้นภายในปี ๒๕๗๐ เนื่องจากโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุค AI Centric ที่ AI จะเป็นหัวใจสำคัญของการกำกับดูแลและการให้บริการ ล่าสุดสำนักงาน กสทช. อยู่ระหว่างจัดทำแนวทางกำกับดูแลดาวเทียม GSO/NGSO และการศึกษาการใช้การสื่อสารแบบ NTN โดยเน้นกลยุทธ์การพัฒนาที่ให้ความสำคัญกับหลายมิติ ทั้งในเชิง Data Centric, Spectrum Centric, Regulatory Centric, AI Centric และ People Centric เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี