นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน (DIT) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” หนึ่งในมาตรการ “Quick Big Win” ตามนโยบายของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า ขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศแล้วกว่า 327 แห่ง และตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดลงทะเบียนร้านยาเพื่อเข้าร่วมโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” เพียง 2 วัน (เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2568) มีร้านยาที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วทั้งสิ้น 2,382 ร้าน ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการช่วยลดค่าครองชีพ และสร้างระบบสุขภาพที่ยกระดับและเข้าถึงได้สำหรับประชาชนทุกคน
โดยความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่าง DIT กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยสามารถนำใบสั่งยาจากโรงพยาบาลไปซื้อยาจากร้านยาภายนอกได้ในราคาที่เป็นธรรม โดยร้านยาที่เข้าร่วมจะต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. และมีเภสัชกรประจำร้านทุกแห่ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่ายาที่จำหน่ายมีคุณภาพ ปลอดภัย และเป็นไปตามใบสั่งแพทย์
นายวิทยากร กล่าวต่อว่า DIT อยู่ระหว่างเตรียมการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับ 3 หน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนระบบ “เปิดเผยราคายาและเปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกซื้อยาได้เอง” ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจสอบ เปรียบเทียบราคาได้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำทางการเข้าถึงยาและค่ารักษาพยาบาล พร้อมทั้งเตรียมพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ “ร้านยาสุขกาย สบายกระเป๋า” เพื่อให้ประชาชนสามารถค้นหาร้านยาในพื้นที่ใกล้เคียงที่เข้าร่วมโครงการได้สะดวกและรวดเร็ว
สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านบริการทางการแพทย์ของประเทศ มีโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำจำนวนมากให้ความร่วมมือเข้าร่วมโครงการแล้ว รวมกว่า 100 แห่ง อาทิ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น โรงพยาบาลพญาไท 2 โรงพยาบาลวิชัยเวช โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลรามคำแหง และโรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน เป็นต้น และยังมีโรงพยาบาลเอกชนในต่างจังหวัดอีกกว่า 200 แห่งทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งทุกโรงพยาบาลต่างมีเจตนารมณ์ร่วมสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในการให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาคุณภาพในราคายุติธรรมมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของร้านยา DIT ได้บูรณาการข้อมูลร่วมกับ อย. และสภาเภสัชกรรม ในการเตรียมความพร้อมร้านยาสำหรับรองรับการใช้บริการของประชาชน โดยประชาชนสามารถค้นหาร้านยาที่เข้าร่วมได้จากแอปพลิเคชันได้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการสร้างความสะดวกและมีโอกาสเลือกซื้อยาในร้านยาใกล้บ้านได้ ซึ่งขณะนี้ร้านยากว่า 2,382 แห่งที่ มีการลงทะเบียนเข้ามาในระบบเพียง 2 วันแรก และคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก จนครอบคลุมทุกพื้นที่บริการ
“โครงการสุขกาย สบายกระเป๋า ไม่ได้เป็นเพียงมาตรการลดค่าครองชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับสิทธิของผู้ป่วยให้มีทางเลือกในการรักษา และเข้าถึงยาคุณภาพในราคาที่เป็นธรรม ความร่วมมือจากโรงพยาบาลเอกชนและร้านยาทั่วประเทศ แสดงให้เห็นถึงพลังความตั้งใจร่วมกันของทุกฝ่าย ที่ต้องการให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบสุขภาพของไทย”นายวิทยากร กล่าว
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี