พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัเให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคมฯ ครั้งที่ 8/2568 โดยมี พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. เป็นประธาน พล.ต.ต. กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พร้อมผู้แทนหน่วยที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตร. สอท. ปปง. DSI CIB ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสมาคมธนาคารไทย เพื่อติดตามการดำเนินงาน ตามมาตรการที่ กสทช. กำหนดให้ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ดำเนินการ ในการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ โดยมีการพิจารณาเรื่องสำคัญๆ เช่น มาตรการควบคุมการส่งข้อความจากแอปพลิเคชันถึงบุคคลทั่วไป โดยแยก SMS ที่ส่งจากต่างประเทศออกจาก SMS ทั่วไป พร้อมกำหนดให้ผู้ให้บริการทุกเครือข่ายใช้เทคโนโลยีในการคัดกรองเนื้อหา (SMS Firewall) หากต้องสงสัยให้ระงับการส่งต่อ หรือให้ขึ้นเครื่องหมายแจ้งเตือนประชาชนผู้รับข้อความ
ผลจากที่ กสทช. ได้เริ่มบังคับใช้ 8 มาตรการสำคัญ ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ไปเมื่อวันที่ 30 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา ประกอบกับหลายประเทศให้ความสำคัญกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ เช่น สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ที่มีการขึ้นบัญชีดำองค์กรและบุคคล ตลอดจนมีการยึดอายัดทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายแก๊งอาชญากรรม และประเทศเกาหลีใต้ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการในประเทศเพื่อนบ้าน พบว่าสถิติการโทรหลอกลวงประชาชนมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยยะ แต่กลับมี SMS หลอกลวงมาจากต่างประเทศ เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.2568 เป็นต้นมา ซึ่งได้มีการระงับไม่ส่งต่อ SMS ต้องสงสัยมากกว่า 1 ล้านข้อความต่อวัน
ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าว กสทช. ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ให้ความสำคัญ โดยในที่ประชุมวันนี้ ได้มีการหารือมาตรการควบคุมการส่งข้อความจากแอปพลิเคชันถึงบุคคลทั่วไปในรูปแบบ Application-to-Person หรือ A2P โดยมีแนวทางที่สำคัญ ดังนี้
1. ผู้ให้บริการจะต้องจัดแบ่งกลุ่มผู้ส่ง SMS โดยแยกระหว่าง ผู้ส่ง SMS จากต่างประเทศ และผู้ส่ง SMS ในประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ให้บริการได้ให้ความร่วมมือกับ กสทช. ในการคัดกรอง SMS และลิงก์ ซึ่งในบางกรณี เช่น การส่ง SMS ข้ามเครือข่าย อาจต้องใช้เวลามากขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ระบบการยืนยันตัวตนแบบครั้งเดียว (OTP) เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ จึงต้องมีการจัดแบ่งกลุ่ม เพื่อให้การคัดกรอง SMS มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น
2. ผู้ให้บริการจะต้องมีระบบการลงทะเบียนผู้ใช้งานในประเทศ ที่ต้องการส่ง SMS ในรูปแบบ A2P จะต้องมีการยืนยันตัวตน KYC โดยกำหนดให้ผู้ส่ง SMS ในส่วนนี้ ที่ผ่านการคัดกรองมาในระดับหนึ่งเป็น White List และมีการแยกออกจากกลุ่มผู้ส่งจากต่างประเทศอย่างชัดเจน
3. ผู้ให้บริการทุกเครือข่าย ต้องมีระบบตรวจสอบคัดกรองเนื้อหา SMS Firewall เพื่อตรวจสอบคัดกรองเนื้อหาที่มีความเสี่ยงไม่ให้ส่งไปยังผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะเน้นหนักไปที่ SMS ที่ส่งมาจากต่างประเทศ และถ้าผ่านการตรวจคัดกรองเบื้องต้นแล้ว ผู้ให้บริการยังจะต้องติดสัญลักษณ์ไว้หน้าข้อความ เพื่อให้ผู้ใช้บริการรับรู้ว่าเป็น SMS ที่ส่งมาจากต่างประเทศควรต้องระวัง เช่น เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) และต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ โดยมาตรการดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการทันที
4.การขึ้นทะเบียน Simbox จะเริ่มดำเนินการในเดือน พ.ย.2568 และเฉพาะ Simbox ที่มีการขึ้นทะเบียนเท่านั้นที่จะสามารถใช้งานได้ ส่วนที่เหลือจะไม่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่โครงข่ายโทรคมนาคมของผู้ประกอบการได้ อันจะส่งผลให้ Simbox ที่อยู่ในความครอบครองของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้ไปโดยปริยาย
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี