กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ร่วมกับสำนักเลขาธิการอาเซียน (ASEAN Secretariat) องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) และโครงการ Global Initiative on the Future of the Internet (GIFI) ภายใต้ สถาบัน European University Institute (EUI) เปิดเวทีการประชุม ‘ASEAN–UNESCO Multistakeholder Forum on the Governance of Digital Platforms’ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม 2568 ณ กรุงเทพฯ เวทีดังกล่าวถือเป็น ความร่วมมือครั้งสำคัญระดับภูมิภาคอาเซียน ที่รวมพลังจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม นักวิชาการ และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์และหารือแนวทางพัฒนาเชิงนโยบายว่าด้วย “การกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง มีธรรมาภิบาล โปร่งใส และเป็นธรรม” โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน ความปลอดภัย และความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วน ตามกรอบแนวทางสากล
นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประธานในพิธีเปิดการประชุมฯ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการขับเคลื่อนธรรมาภิบาลดิจิทัลให้สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาลที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมทั้งคงไว้ซึ่งความเชื่อมโยงกับบริบทของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับมิติทางสังคมของการใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซ เกมออนไลน์ แพลตฟอร์มคอนเทนต์ และชุมชนออนไลน์ ซึ่งได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวันของประชาชน ไม่เพียงในฐานะเครื่องมือสื่อสาร แต่ยังเป็นช่องทางในการทำธุรกรรมออนไลน์และสร้างรายได้อีกด้วย
ขณะเดียวกัน การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ขยายวงกว้างขึ้นก็ได้นำมาซึ่งความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ ทั้งในระดับบุคคล ระดับประเทศ และระดับภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเนื้อหาผิดกฎหมาย การฉ้อโกงและหลอกลวงออนไลน์ การบิดเบือนข้อมูล ความเสี่ยงต่อเด็กและเยาวชน รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับการรู้เท่าทันสื่อและข้อมูล ซึ่งล้วนเป็นประเด็นซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน ดังนั้น การเร่งพัฒนา 'กรอบธรรมาภิบาลดิจิทัล' ที่เข้มแข็ง และสร้าง 'กลไกการกำกับดูแลแพลตฟอร์มอย่างมีธรรมาภิบาล' ที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการมีส่วนร่วมอย่างครอบคลุมจากทุกภาคส่วน ภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน ความโปร่งใส และความรับผิดชอบร่วมกัน จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ไม่เพียงแต่ดำเนินการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังได้พัฒนากรอบแนวทางและกลไกสำคัญเพื่อส่งเสริมการกำกับดูแลดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบ หนึ่งในมาตรการสำคัญคือ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความโปร่งใสและการแข่งขันที่เป็นธรรมในตลาดแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยใช้กลไกการกำกับดูแลตนเองที่เปิดโอกาสให้หลายภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมการให้บริการอย่างเป็นธรรม โปร่งใส และมีความรับผิดชอบ
นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีผ่านพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 หรือ ที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ “พระราชกำหนดบัญชีม้า (Emergency Decree on Mule Accounts)” ซึ่งกำหนดให้ ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ต้องระงับหรือลบข้อมูลเท็จหรือข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเป็นการเสริมหลัก “ความรับผิดชอบในการดูแล” (Duty of Care) ของแพลตฟอร์มดิจิทัล ในขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ยังเร่งผลักดันในการแก้ปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ (Online Scam) พร้อมส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีพื้นฐานอย่างเสมอภาค ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ตหรือปัญญาประดิษฐ์ (AI)
พร้อมทั้งยกระดับทักษะด้านการรู้เท่าทันดิจิทัล (Digital Literacy) และ การรู้เท่าทันสื่อและข้อมูล (Media and Information Literacy – MIL) เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย รอบคอบและมีความรับผิดชอบ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ประเทศไทยมุ่งพัฒนาและกำกับดูแลระบบนิเวศแพลตฟอร์มดิจิทัลให้มีความสมดุล ซึ่งนโยบายเหล่านี้ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อ ธรรมาภิบาลดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ความปลอดภัยสาธารณะ และความเชื่อมั่นของประชาชน สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงฯ ที่มุ่งเน้นผลลัพธ์เชิงรูปธรรมในระยะสั้น เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมที่สำคัญตามกรอบนโยบายของรัฐบาล
“โลกดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีและข้อมูลได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของ การเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนโครงสร้างของสังคมไปในเวลาเดียวกัน ดังนั้น การพัฒนา ‘กรอบธรรมาภิบาล’ สำหรับบริการดิจิทัลจึงจำเป็นต้องรักษาสมดุลระหว่างการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้และ การส่งเสริมนวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ การประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ ในการแลกเปลี่ยนมุมมองและร่วมออกแบบแนวทางการกำกับดูแลที่เข้มแข็ง โปร่งใส และยั่งยืนสำหรับบริการดิจิทัลและแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนจิตวิญญาณของ 'พหุภาคี (Multistakeholder Spirit) ที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของและร่วมรับผิดชอบต่อการกำหนดทิศทางของระบบนิเวศดิจิทัล ประเทศไทยพร้อมทำงานเคียงข้างกับประเทศสมาชิกอาเซียนและพันธมิตรระดับโลก เพื่อขับเคลื่อนแนวทางร่วมของอาเซียนในการกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างมีธรรมาภิบาล มุ่งสู่การสร้างตลาดดิจิทัลที่ยั่งยืน น่าเชื่อถือ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากลในระดับภูมิภาค”
Maki Katsuno-Hayashikawa, Director of the UNESCO Liaison Office to ASEAN and the Regional Office in Jakarta กล่าวว่า UNESCO รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับประเทศไทย สำนักงานเลขาธิการอาเซียนและสถาบัน European University Institute (EUI) ในการจัดการประชุมครั้งสำคัญนี้ โดยสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของภูมิภาคในการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่เปิดกว้าง ปลอดภัย และยึดหลักสิทธิมนุษยชน เธออธิบายว่า บทบาทเชิงเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์มดิจิทัลในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ดีแพลตฟอร์มเดียวกันที่เปิดโอกาสให้ผู้คนเข้าถึงความรู้และวัฒนธรรมอย่างเท่าเทียมและเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลก ได้กลายมาเป็นพื้นที่ที่มีการแพร่กระจายของข้อมูลบิดเบือน ความแตกต่างทางขั้วความคิด และการกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง การเลือกปฏิบัติ และความเกลียดชัง ดังนั้น การกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องยึดแนวทางที่อ้างอิงสิทธิมนุษยชนและพหุภาคี (Human Rights-Based and Multistakeholder Approach) เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีบทบาทในการร่วมออกแบบแนวทางแก้ไขร่วมกันในการขับเคลื่อน 'Internet for Trust' ซึ่งแนวทางแบบพหุภาคีนี้ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและ การเข้าถึงข้อมูลอีกด้วย
“UNESCO พร้อมให้การสนับสนุนความร่วมมือนี้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนก้าวสู่การเป็นต้นแบบของการกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างมีธรรมาภิบาล ที่สอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และส่งเสริมความถูกต้องน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสาร”
H.E. Sujiro Seam, Ambassador of the European Union to ASEAN กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่าง ASEAN โดยมีประเทศไทยเป็นผู้นำและองค์การ UNESCO เพื่อร่วมกันกำหนดอนาคตของธรรมาภิบาลแพลตฟอร์มดิจิทัลบนพื้นฐานของค่านิยมร่วม ไม่ว่าจะเป็น ความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และความเชื่อมั่นในข้อมูลดิจิทัล พร้อมเน้นย้ำว่า ความท้าทายของโลกดิจิทัลในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่เพียงภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง การสร้างความร่วมมือระหว่างภูมิภาคจึงมีความสำคัญ เพื่อวางกติกาที่ทันสมัยและเป็นธรรมสำหรับทุกภาคส่วน
การประชุม ASEAN–UNESCO Multistakeholder Forum on the Governance of Digital Platforms จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 20–22 ตุลาคม 2568 โดยรวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก องค์กรระหว่างประเทศ และตัวแทนจากหลายภาคส่วน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์เชิงเปรียบเทียบในการขับเคลื่อนแนวคิด “Digital Governance for a Trusted Future” ตลอดระยะเวลาการประชุม ผู้เข้าร่วมจะได้มีส่วนร่วมใน การอภิปรายเชิงลึกในประเด็นสำคัญหลากหลายด้าน อาทิ กรอบความร่วมมือระดับโลกและระดับภูมิภาคด้าน ธรรมาภิบาลดิจิทัล การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและการแข่งขันทางการตลาดอย่างเป็นธรรม รวมถึงความโปร่งใสและความรับผิดชอบของแพลตฟอร์มดิจิทัล ความปลอดภัยออนไลน์และการคุ้มครองเด็ก การกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์เชิงกำเนิด (Generative AI) และเทคโนโลยีเกิดใหม่ การเสริมพลังให้ผู้ใช้และการรู้เท่าทันสื่อและข้อมูล ตลอดจนความร่วมมือของภาคประชาสังคมและระดับภูมิภาคเพื่อส่งเสริมสิทธิดิจิทัล
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) สำนักเลขาธิการอาเซียน (ASEAN Secretariat) องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) และ สถาบัน European University Institute (EUI) ได้ร่วมกันยืนยันความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนแนวทาง การกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัลบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน (multistakeholder approach) และการเคารพสิทธิมนุษยชน โดยความร่วมมือดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมความถูกต้องน่าเชื่อถือของข้อมูล การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในโลกออนไลน์ และการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่โปร่งใสและน่าเชื่อถือ
ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ การประชุมได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการประสานความร่วมมือระดับภูมิภาคและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านแนวปฏิบัติที่ดีรวมถึงประสบการณ์ในระดับนานาชาติ การอภิปรายภายในเวทีครั้งนี้ยังมีส่วนช่วยขับเคลื่อนพัฒนา ร่างข้อเสนอแนะการกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัลในอาเซียนอย่างมีธรรมาภิบาล (Draft Recommendations on Digital Platform Governance in ASEAN) สะท้อนถึงเจตนารมณ์ร่วมกันในการเสริมสร้างกรอบความร่วมมือของภูมิภาคให้มีความรับผิดชอบ โปร่งใส และเปิดกว้าง เพื่อธรรมาภิบาลดิจิทัลที่ครอบคลุมและยั่งยืน
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี