นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้แทนในการหารือร่วมกับอัครราชทูตฝ่ายการพาณิชย์ของเมียนมา และ สปป.ลาว ประจำประเทศไทย เพื่อทำความเข้าใจมาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปลอดการเผาของไทย รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมในการแต่งตั้งหน่วยงานที่มีอำนาจ (Competent Authority)และการออกหนังสือรับรองกระบวนการปลูกที่ปลอดการเผาของแต่ละประเทศ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนและส่งเสริมการค้าเกษตรยั่งยืน ซึ่งมาตรการดังกล่าวฯ จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 มกราคม 2569
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ยังได้เข้าร่วมงาน “Announcement of Success and Certificate Presentation Ceremony for the Verification of the Traceability System on Deforestation and No Burning (VTDF) for Animal Feed Corn in Myanmar” ซึ่งจัดขึ้น ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยตนได้ร่วมกล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ “แนวทางการกำหนดมาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลอดการเผาของไทย” ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้ได้รับทราบในการพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability System) สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลอดการตัดไม้ทำลายป่าและปลอดการเผาในเมียนมา โดยมีหน่วยงานภาครัฐของไทย สปป. ลาว และภาคเอกชนของเมียนมาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศมีภารกิจสำคัญในการบริหารจัดการการนำเข้า–ส่งออกสินค้า โดยเน้นการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ ทั้งนี้ สินค้าเกษตรถือเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจประเทศไทย โดยมีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นหนึ่งในสินค้าเกษตรที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งและเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลายในห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูก พ่อค้าคนกลาง ผู้นำเข้าผู้ส่งออก ไปจนถึงผู้ผลิตอาหารสัตว์ อย่างไรก็ดี รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดนซึ่งมีสาเหตุจากการเผาพื้นที่เกษตรกรรม โดยเฉพาะในภาคการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลอดการเผาของไทยจึงถูกกำหนดขึ้น เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพทางสุขภาพของคนไทยตลอดจนส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ที่ทั้งโลกและไทยให้ความสำคัญ
ขณะเดียวกัน สินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นสินค้านำเข้าสำคัญของไทย เนื่องจากผลผลิตภายในประเทศมีเพียงประมาณ 4 ล้านตันต่อปี ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ที่มีสูงถึง 9 ล้านตันต่อปี โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์ ที่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นวัตถุดิบสำคัญที่สุด ซึ่งต้องมีการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา เป็นจำนวนมาก กรมการค้าต่างประเทศอยากให้ทุกภาคส่วนเห็นว่า มาตรการและกฎหมายว่าด้วยการปลอดการเผามีเจตนาที่ดีในการส่งเสริมสิ่งแวดล้อมของภูมิภาคให้ดีขึ้น และผลักดันการทำการเกษตรอย่างยั่งยืน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และสนับสนุนเป้าหมายร่วมของนานาชาติในการรักษาสิ่งแวดล้อม การจัดงานในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของประเทศในภูมิภาคอาเซียนในการยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับหลักการค้าอย่างยั่งยืน และเป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างไทย เมียนมา และ สปป.ลาวในการลดปัญหามลพิษข้ามพรมแดน เพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีของประชาชนในภูมิภาค
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี