พาณิชย์-อุตสาหกรรม เดินหน้าขยายตลาด-เพิ่มมูลค่าสินค้าอาหารไทย

พาณิชย์-อุตสาหกรรม เดินหน้าขยายตลาด-เพิ่มมูลค่าสินค้าอาหารไทย

วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือผ่านระบบประชุมทางไกลกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ (นายกาน คิม ยอง) เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 เพื่อเดินหน้าขยายความร่วมมือการค้าการลงทุนไทย-สิงคโปร์ ผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรไทย เร่งสรุปข้อตกลงการค้าข้าว และผลักดันการเจรจาความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน(DEFA) ให้สำเร็จตามเป้าหมาย เพื่อเสริมบทบาทภูมิภาคในเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งการหารือครั้งนี้ได้เน้นย้ำความพร้อมของไทยในการขยายความร่วมมือกับสิงคโปร์ให้มากขึ้น โดยเฉพาะการค้าระหว่างกัน ซึ่งไทยมีศักยภาพในการขยายการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร ที่ไม่เพียงตอบโจทย์รองรับความต้องการของตลาดสิงคโปร์ แต่ยังเป็นช่องทางขยายสู่ตลาดประเทศอื่นๆด้วย โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมจัดทำข้อตกลงความร่วมมือด้านการค้าข้าว ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการค้าข้าวของไทยและความมั่นคงทางอาหารของสองประเทศ โดยคาดว่าข้อตกลงค้าข้าวจะเห็นผลเป็นรูปธรรมภายในเดือนพฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้ภาพรวมการค้าระหว่างไทยกับสิงคโปร์ในปี 2567 มีมูลค่า 17,758.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไทยส่งออก 10,363.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนำเข้า 7,395.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไทยได้ดุลการค้า 2,968.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในช่วง 8 เดือนของปี 2568 (มกราคม-สิงหาคม) มีมูลค่ารวม 12,135 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวขึ้น 6.25% ไทยส่งออก 7,212 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวขึ้น 12.57% ขณะที่การนำเข้าจากสิงคโปร์มีมูลค่า 4,923 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 1.81%


ขณะเดียวกัน นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) กล่าวว่า ดีพร้อมได้หารือแนวทางความร่วมมือกับ นางสาวไปยดา หาญชัยสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร ในการขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรมฮาลาล และเกษตรอุตสาหกรรมของประเทศ โดยดีพร้อมได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล และเกษตรอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นวาระสำคัญที่ต้องเร่งผลักดันให้เกิดการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม โดยการขับเคลื่อนนโยบายฮาลาลของประเทศ ดีพร้อมได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการร่วมกับ 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) สถาบันอาหาร สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งในการปฏิบัติงานยังคงมีข้อจำกัดในหลายด้าน ทั้งในส่วนของโครงสร้างบุคลากรและการขอรับงบประมาณ  โดยยังคงต้องการแรงสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายในการร่วมขับเคลื่อนการจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลให้เป็นรูปธรรมต่อไป

ขณะที่การพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม ดีพร้อมมุ่งเน้นการขับเคลื่อนใน 3 มิติ ได้แก่ มิติเชิงพื้นที่ มิติระดับฐานราก และมิติการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและเห็นว่าสถาบันอาหารสามารถเข้ามามีส่วนในการสนับสนุนเรื่องของการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารและชีวภาพ (Bio) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติเชิงพื้นที่ ร่วมกับการดึงกลไกต่าง ๆ ของดีพร้อมเข้ามาส่งเสริม อาทิ ซอฟต์พาวเวอร์ บรรจุภัณฑ์ ระบบโลจิสติกส์ ห่วงโซ่อุปทาน และความยั่งยืน พร้อมส่งต่อผู้ประกอบการไปยังหน่วยงานเครือข่ายในภูมิภาค อาทิ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อร่วมกันผลักดันให้ผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปที่มีมาตรฐาน สามารถเข้าสู่ตลาดใหม่ในโมเดิร์นเทรดต่างๆได้

นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงแนวทางการเร่งผลักดัน ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (Industry Transformation Center: ITC) ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคทั้ง 11 แห่ง ให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP รวมถึงการยกระดับและแบ่งปันฐานข้อมูลผู้ประกอบการระหว่างสองหน่วยงาน เพื่อร่วมกันทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ผ่านศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Thai-IDC) ที่มีความปลอดภัยได้มาตรฐาน ตลอดจนมีความสะดวก ความสวยงาม สร้างความน่าสนใจ และช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายได้อีกทางหนึ่งด้วย

นางสาวณัฏฐิญา กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางดีพร้อมได้ดำเนินการสร้างร้านอาหารชุมชน (Hidden Gems) ผ่าน “โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นอาหารไทย (Local Chef Restaurant) (ภาคกลางและภาคตะวันออก)“ จำนวน 31 ร้าน โดยการเพิ่มทักษะในด้านต่าง ๆ อาทิ การคำนวณต้นทุน การบริหารจัดการของเสีย เทคนิคการประกอบอาหาร และสร้างสรรค์เมนูใหม่เพื่อนักท่องเที่ยว (เมนูอาหารถิ่น (Amazing Thai Taste)) รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการทำธุรกิจร้านอาหารและต่อยอดสู่ธุรกิจอื่น ๆ แบบมืออาชีพ พร้อมรังสรรค์เมนูอาหารจากพลังสร้างสรรค์ จำนวน 93 เมนู และได้คัดเลือกร้านอาหารชุมชน จำนวน 9 ร้าน เพื่อเป็นต้นแบบของการพัฒนาอย่างยั่งยืนอีกด้วย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top