วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
นายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม แถลงข่าวชี้แจงถึงข้อเท็จจริงกรณี สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ถอนอายัดเหล็กจาก บริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด ว่ายืนยันการถอนอายัดดังกล่าว เกิดขึ้นก่อนที่จะได้รับการโปรดเกล้าให้เป็น รมว.อุตสาหกรรม และเกิดขึ้นก่อนที่ตนเองได้ปฎิบัติหน้าที่รัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้ต้องชี้แจงให้ชัด เนื่องจากกระแสข่าวที่ออกไปไม่เป็นความจริง ว่าการถอนอายัดนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่ตนเองได้รับตำแหน่ง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด
“การถอนอายัดดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2568 ซึ่งตนตนเองได้รับการโปรดเกล้าฯในวันที่ 19 ก.ย.และเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณวันที่ 24 ก.ย. จึงหมายความว่าตนเองสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ใน 14 ก.ย. เพราะฉะนั้นส่วนนี้จึงต้องออกมาขอความเป็นธรรม”
ส่วนประเด็นที่สอง กรณีของเหล็กที่ถูกถอนอายัดนั้น นายธนกร ชี้แจงว่าไม่ใช่เหล็กที่อยู่ในเหตุการณ์ตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม เมื่อเดือนมี.ค.2568 ตามที่เป็นข่าว แต่เป็นการอายัดมามาจากเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2567 ซึ่งมีการเข้าเก็บตัวอย่างหลังเกิดเหตุ ดังนั้นเหล็กที่ถอนอายัดไม่ใช่เหล็กที่เกิดขึ้นในเหตุตึก สตง.ถล่มอย่างแน่นอน
โดยเหล็กที่ได้อายัดจากเหตุไฟไหม้วันที่ 19 ธ.ค.2567 แบ่งเป็น 2 กอง คือ กองที่ 1 อายัดเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2568 จำนวน 2,690 เส้น ซึ่งไม่ได้มีการถอนอายัดในส่วนนี้ พร้อมกับดำเนินคดีต่อตามกฎหมาย เนื่องจากผลการทดสอบพบว่ามีส่วนประกอบทางเคมีที่ไม่ตรงตามมาตรฐาน การควบคุมคุณภาพเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และไม่มีเตาปรุง
ส่วนกองที่ 2 อายัดเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2568 จำนวน 41,635 เส้น และแบ่งการตรวจสอบออกเป็นอีกสองกองย่อย คือ กองที่มีจำนวน 16,950 เส้น ผลการตรวจสอบคุณภาพพบว่าผ่านมาตรฐาน จึงมีการอนุมัติให้ถอนอายัดเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2568
และกองที่มีจำนวน 24,685 เส้น ผลการตรวจสอบคุณภาพพบว่าผ่านมาตรฐานเช่นเดียวกัน จึงอนุมัติให้ถอนอายัดเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2568 ซึ่งขอยืนยันว่ากระบวนการดังกล่าวเป็นไปตามการตรวจสอบของ สมอ.
นายเอกนิติ รมยานนท์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า ยอมรับว่า มีการถอนอายัด และคืนเหล็กของหลางของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด จริง ซึ่งเป็นไปตามกฏระเบีบยบของรัฐ อย่างไรก็ดี เหล็กบางส่วนที่ไม่ได้มาตรฐาน สมอ. ก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
“ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เวลาที่ สมอ. อายัดของกลาง ซึ่งกรณีดังกล่าวคือเหล็กอาจจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนหากปล่อยให้มีการจำหน่ายออกไปในตลาด หลังจากนั้นก็นำเหล็กไปทดสอบ หากได้มาตรฐานก็คืนของกลางไปตามกฏระเบียบ หากไม่ได้มาตรฐานก็ดำเนินคดีต่อไป”
นางอุทุมพร แก้วน้ำดี ผู้อำนวยการกองมาตรฐาน 1 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า เหล็กที่ตกมาตรฐานจากการตรวจสอบของบ.ซิน เคอ หยวน มีอยู่ทั้งหมด 2690 เส้น โดยเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กข้ออ้อย ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 24-2559 ซึ่งสมอ.ยังอายัดและดำเนินคดีต่อไปตามกฎหมาย ส่วนเหล็กที่ผ่านมาตรฐานมีอยู่ทั้งหมด 41635 เส้น อย่างไรก็ดี ล่าสุด สมอ. ทำหนังสือบันทึกการถอนอายัดและการดำเนินการกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เลขที่ กต16-13/68 และหนังสือเลขที่ กต16-15/68
โดยมีรายละเอียดสำคัญคือ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 ได้ถอนอายัดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต :เหล็กข้ออ้อยของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัดจำนวน 116 รายการ รวม 41,635 เส้น และ 62 รายการ จำนวน 24,685 เส้น ที่ได้อายัดไว้เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 และวันที่ 15 กันยายน 2568 ตามลำดับ คืนให้กับ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล เนื่องจากปรากฏผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ตัวอย่างค่าเป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งนี้ ได้ทำการตรวจสอบโดยหน่วยงาน สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
ที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรม รายงานว่า มีการตรวจสอบโรงงานผลิตของบริษัทซิน เคอ หยวน จำกัด หลังถูกเพิกถอน BOI และดำเนินคดีในเรื่องอื่นที่สำคัญไม่น้อยกว่าตัวเหล็ก เช่น เรื่องฝุ่น ที่มีครอบครองเกือบ 60,000 ตัน โดยที่ไม่ได้มีการแจ้ง และการขนย้ายที่เข้าข่ายผิดกฏหมาย ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดตั้งข้อหากับ ซิน เคอ หยวน และบริษัทที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งให้ DSI ดำเนินคดี ทั้งหมด 1,016 ข้อหา
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี