ต้องอย่างนี้ครับว่าสังคมไทยต้องช่วยกันจับตาดูพฤติกรรมของกระทรวงอุตสาหกรรมแบบตาไม่กะพริบเลยครับ...เพราะขณะนี้มีโรงงานเหล็กที่ถูก นายเอกนัฎ พร้อมพันธ์ุ อดีต รมว.อุตสาหกรรม สั่งระงับกิจการชั่วคราว....พยายามอย่างมากที่จะใช้“กำลังภายใน” วิ่งเต้นเพื่อขอให้ กระทรวงอุตสาหกรรมในยุคนี้อนุญาตให้เปิดดำเนินการอีกครั้ง....เศรษฐศาสตร์วันหยุด...ต้องย้ำกับสังคมอย่างนี้ว่า...โรงงานเหล็กบางรายที่ถูกสั่งระงับกิจการชั่วคราวไปนั้นมีพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วงมากจริงๆ นะครับ...และจะขอไล่เลียงมาเป็นข้อๆ ให้สังคมได้รับรู้ดังนี้ครับ

1.ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย สิ่งแวดล้อมบริษัทยังไม่ได้แก้ไขปรับปรุงมาตรการความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม ให้เป็นไปตามกฎหมาย จากกรณีเหตุระเบิดและเพลิงไหม้จากการรั่วไหลของถังก๊าซ LPG ขนาด 110,000 ลิตร เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย สาเหตุเกิดจากการเคลื่อนย้ายถังก๊าซ LPG โดยไม่แจ้งขออนุญาตจากสำนักงานพลังงานจังหวัดระยอง 2.ผลิตสินค้าเหล็กเส้นไม่เป็นไปตาม มอก. โดยพบว่ากระบวนการผลิตไม่มีเตาปรุงน้ำเหล็ก ตามที่จดแจ้งไว้ตั้งแต่เริ่มขอใบรับรอง มอก. รวมถึงกรณีการตรวจสอบ คุณภาพเหล็กจากเหตุการณ์ ตึก สตง.ถล่ม พบว่าเหล็กของบริษัทตกเกณฑ์เรื่องมวลต่อเมตรและแรงดึงไม่เป็นไปตามมาตรฐาน

3.การลักลอบครอบครองและจัดการ “ฝุ่นแดง” ซึ่งเป็นกากอุตสาหกรรมอันตรายโดยก่อนหน้าตรวจพบการจัดเก็บฝุ่นแดงซึ่งเป็นกากอุตสาหกรรมอันตรายในปริมาณกว่า 60,000 ตัน มากกว่าที่เคยรายงานต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งการลักลอบนำเข้าฝุ่นแดงจากต่างประเทศ 4.คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) มีมติให้เพิกถอนการใช้สิทธิประโยชน์เป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรมฯ และ พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมฯ 5.บริษัทถูกสรรพากร กล่าวโทษต่อ DSI ให้ดำเนินคดีอาญากับบริษัท กรณีตรวจพบใช้ใบกำกับภาษีปลอมกว่า 7,000 รายการ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ระหว่างปี 2558 -2560 จำนวน 7,426 ฉบับ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาทมาใช้ในการเครดิตภาษี 6.พฤติกรรมการขายตัดราคา โดยคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาแสวงหาข้อเท็จจริง เกี่ยวกับพฤติกรรมของบริษัทว่าอาจเข้าข่ายการกระทำผิด พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า ที่มีการขายสินค้าราคาต่ำแต่ไม่ได้คุณภาพ

หนึ่งในโรงงานเหล็กที่ถูกสั่งระงับกิจการชั่วคราว...กระทรวงอุตสาหกรรม (ในสมัยที่มีนายเอกนัฏ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตฯ) ได้เข้าไปตรวจสอบและเชื่อหรือไม่ว่าพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายในหลายกรณี...และได้ดำเนินการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแล้วส่งให้ DSI...ตั้งข้อหาและดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว...ทั้งหมด 1,016 ข้อหา

อยากรู้เหมือนกันว่า...รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม...คนปัจจุบัน...จะทำเป็น “หูหนวก ตาบอด”...ปล่อยให้โรงงานเหล็กแบบนี้มาเปิดดำเนินการได้จริงหรือ???....คนไทยกินข้าวนะครับไม่ได้กินหญ้ากินฟาง

พงษ์พันธุ์