จับกระแสพลังงาน : 28 ตุลาคม 2568

จับกระแสพลังงาน : 28 ตุลาคม 2568

วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.

** บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (27 ต.ค. – 31 ต.ค. 68)...โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มผันผวนจากความไม่แน่นอนของสงครามรัสเซีย-ยูเครนเนื่องจากแผนพบปะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่จะถูกจัดขึ้นที่กรุงบูดาเปสต์ ฮังการีถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด พร้อมกับการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป เพื่อที่จะตัดรายได้ของรัสเซีย และกดดันให้รัสเซียเข้าสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพ ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในปี 68 หลังจากมีการปรับลดครั้งแรกของปี 68 ในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ (Government Shutdown) ที่ยืดเยื้อยาวนานมามากกว่า 20 วัน ที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและการลงทุน…ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…

**  บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ...และ บริษัท อาร์ซีแอล จำกัด (มหาชน) (RCL) จ่ายน้ำมัน B24 VLSFO (Very Low Sulphur Fuel Oil) ให้แก่เรือ PIYA BHUM ในกองเรือของ RCL เป็นครั้งแรก ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี...**  กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กระทรวงพลังงาน กำลังเร่งดำเนินการโยบายที่สำคัญ 2 นโยบาย ได้แก่ 1. นโยบาย Net Zero Emission โดยการจัดทำมาตรฐานคุณภาพของเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) การจัดทำกฎหมายเพื่อรองรับการใช้งานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนและแอมโมเนีย การส่งเสริมการขนส่งน้ำมันทางท่อ และการส่งเสริมการติดตั้ง EV Charger ในสถานีบริการชาร์จ EV  2. นโยบาย Ease of Doing Business โดยเร่งยกระดับการให้บริการของกรมธุรกิจพลังงานสู่ระบบ e-Service การเชื่อมโยงข้อมูลการสำรองน้ำมันระหว่างภาครัฐและเอกชน (API Gateway) และการอนุญาตจัดตั้งสถานที่เก็บรักษาน้ำมันและคลังน้ำมันใน Data Center…นอกจากนี้ ธพ. จะเร่งดำเนินงานในเรื่องอื่นๆอีกเช่น   การยกเลิกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 การปรับเปลี่ยนตราสัญลักษณ์เลขทะเบียนน้ำมันหล่อลื่น ธพ. การปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง (ศปนม.) การดำเนินงานของสำนักงานพลังงานจังหวัดตามภารกิจที่ได้รับมอบอำนาจจาก ธพ. และการปฏิบัติงานภายใต้ พ.ร.บ. ทั้งสองฉบับของ ธพ. ฯลฯ....


** ความคืบหน้าล่าสุด “มาตรการยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ” กระทรวงพลังงานยืนยันเดินหน้าตาม พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ที่กำหนดให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องหยุดการนำเงินไปชดเชยราคาน้ำมันที่มีส่วนผสมจากพืชพลังงาน ทั้งน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์และน้ำมันกลุ่มไบโอดีเซล ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 2569 เป็นต้นไป...โดยปัจจุบันกระทรวงพลังงานไม่มีการนำเงินเข้าไปชดเชยราคาน้ำมันทุกชนิดและปล่อยให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการและประชาชนได้ปรับตัวก่อนที่กฎหมายดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ปี 2569 นี้

ทั้งนี้ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ยังมีรายรับจากการเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันแต่ละชนิดในอัตราที่แตกต่างกันเพื่อส่งเข้ากองทุนฯ ด้วย…ดังนั้นเมื่อถึงกำหนด 24 ก.ย. 2569 กระทรวงพลังงานจะไม่ขอขยายเวลาหรือแก้ไขกฎหมายเพื่อนำเงินกลับมาชดเชยราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซลอย่างแน่นอน…อย่างไรก็ตามหากราคาน้ำมันโลกผันผวนหนักจนส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศ ซึ่งถือว่าเข้าข่ายการเกิดวิกฤติราคาพลังงาน ก็สามารถนำเงินกองทุนฯ มาพยุงราคาน้ำมันในประเทศได้ โดยหลักเกณฑ์เบื้องต้นที่ชี้ว่าเกิดวิกฤติราคาพลังงาน เช่น ราคาน้ำมันโลกปรับเพิ่มขึ้นเกิน 5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อสัปดาห์ และราคาน้ำมันขายปลีกขยับขึ้นเกิน 1 บาทต่อสัปดาห์ เป็นต้น…

สำหรับ พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ได้กำหนดให้กองทุนน้ำมันฯ ต้องยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ ทั้งกลุ่มน้ำมันแก๊สโซฮอล์ต่างๆ และน้ำมันดีเซล B7 และดีเซล B20 มาตั้งแต่ปี 2565 แต่กฎหมายเปิดโอกาสให้ขอยืดเวลาการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวได้ 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 2 ปี ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ขอขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวไปแล้ว 2 ครั้งและไม่สามารถขอผ่อนผันได้อีก…ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ไม่ได้ชดเชยราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์มานานแล้ว และในส่วนของน้ำมันดีเซลก็ยกเลิกการชดเชยมาตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันโลกปรับลดลง และกองทุนฯ ได้หันมาเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันดีเซลเพื่อส่งเข้ากองทุนฯ ด้วย…โดยล่าสุด (ณ วันที่ 20 ต.ค. 2568)  คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้กำหนดอัตราเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันทุกชนิดส่งเข้ากองทุนฯ ดังนี้ ผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ส่งเข้ากองทุนฯ 2.70 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งเข้า 1.60 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งเข้า 2.70 บาทต่อลิตร และน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ส่งเข้า 9.30 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซล แบ่งเป็นน้ำมันดีเซล และไบโอดีเซล B20 ส่งเข้ากองทุนฯ 1 บาทต่อลิตร และดีเซลเกรดพรีเมียมส่งเข้า 2.50 บาทต่อลิตร…**

 

** กระบองเพชร**

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top