DIT เดินหน้ายกระดับมาตรฐานชั่งตวงวัด เปิดสำนักงานอุบลฯ–ลุยตรวจทั่วอีสาน

DIT เดินหน้ายกระดับมาตรฐานชั่งตวงวัด เปิดสำนักงานอุบลฯ–ลุยตรวจทั่วอีสาน

วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 15.12 น.

 นางสาวญาณี ศรีมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานพิธีเปิด สำนักงานชั่งตวงวัดสาขาเขต 2–4 จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมปล่อยขบวน “คาราวานสายตรวจเครื่องชั่งและเครื่องมือวัดสินค้าเกษตร” โดยเปิดเผยว่า “ภายใต้นโยบายของ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งสร้าง “ความเป็นธรรมทางการค้าและความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจฐานราก โดย กรมการค้าภายใน (DIT) มีภารกิจงานในการสร้างความเป็นธรรมในด้าน “ชั่งตวงวัด” ที่ขับเคลื่อนโดยกองชั่งตวงวัดส่วนกลางและส่วนภูมิภาคระดมตรวจสอบดูแลความเป็นธรรมให้กับพี่น้องเกษตรกรและประชาชน โดยวันนี้ได้มีการเปิดสำนักงานชั่งตวงวัดแห่งใหม่ ที่จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านมาตรวิทยาเชิงพาณิชย์ของประเทศ เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูผลผลิตของสินค้าเกษตรออกสู่ตลาด เช่น ข้าว ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานีเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นางสาวญาณี กล่าวว่า โดยในวันนี้ได้มีการปล่อยคาราวานสายตรวจเครื่องชั่งและเครื่องวัดสินค้าเกษตร ลงพื้นที่ตรวจสอบใน 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และยโสธร ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2568 โดยจัดทีมสายตรวจจำนวน 8 สาย ออกตรวจสถานที่รับซื้อสินค้าเกษตรไม่น้อยกว่า 400 แห่ง เพื่อกำกับให้การซื้อขายเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม

การตรวจสอบครั้งนี้ครอบคลุมเครื่องชั่งน้ำหนัก ทั้งประเภทเครื่องชั่งรถยนต์ เครื่องชั่งซื้อขายทั้งประเภทเครื่องชั่งสปริงและเครื่องชั่งดิจิตอล เครื่องวัดความชื้นข้าว และเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการซื้อขายพืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และ สินค้าเกษตรอีกหลายชนิด เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนฤดูเก็บเกี่ยวสินค้าเกษตรที่สำคัญ

“กรมฯ ขอให้เกษตรกรและประชาชนสังเกต สติ๊กเกอร์รูปครุฑของกรมการค้าภายใน ที่ติดบนเครื่องชั่งและเครื่องวัด ซึ่งแสดงว่าได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว โดยในปีงบประมาณ 2568 จะใช้สติ๊กเกอร์สีเทาเป็นเครื่องหมายที่ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องแล้วและขอให้ผู้ประกอบการทุกแห่งปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบการใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่ไม่ถูกต้องจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด” นางสาวญาณีกล่าว


ทั้งนี้ หากตรวจพบการใช้เครื่องมือชั่งตวงวัดที่ไม่ถูกต้อง หรือที่มีค่าความคลาดเคลื่อนเกินเกณฑ์ จะมีความผิดตาม มาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการดัดแปลงเครื่องมือวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม มาตรา 75 โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท

ในส่วนของผู้บริโภคและเกษตรกร หากพบปัญหาหรือสงสัยว่าได้รับความไม่เป็นธรรมจากการใช้เครื่องชั่งตวงวัด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน DIT 1569 หรือที่สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

สำหรับปีงบประมาณ 2568 ที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้ตรวจสอบเครื่องมือวัดทั่วประเทศแล้วกว่า 9 ล้านเครื่อง พบการกระทำผิดเพียง 455 ราย หรือไม่ถึงร้อยละ 0.2 โดยกรมฯ ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อให้ทุกการซื้อขายสินค้าเกษตรเป็นธรรม โปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและเกษตรกรทั่วประเทศ

นางสาวญาณี  กล่าวว่า กรมการค้าภายในจะเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการตรวจสอบชั่งตวงวัดของไทยให้เป็นมาตรฐานสากล เพราะงานชั่งตวงวัด เป็นกลไกสำคัญของในการคุ้มครองผู้บริโภคและสร้างความเที่ยงตรงในระบบการค้า เมื่อเครื่องชั่งและเครื่องวัดมีมาตรฐาน เกษตรกรก็มั่นใจได้ว่าจะได้รับราคาที่เป็นธรรม ผู้ประกอบการก็สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างโปร่งใส นี่คือหัวใจของนโยบายสร้างความเป็นธรรมทางการค้า เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแรง ขอให้พี่น้องเกษตรกรมั่นใจได้ว่า การขายผลผลิตของท่านจะได้รับเงินอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
 

-031

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top