DITP แนะผู้ประกอบการไทย เจาะตลาดรถยนต์พลังงานใหม่จีน

DITP แนะผู้ประกอบการไทย เจาะตลาดรถยนต์พลังงานใหม่จีน

วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เกาะติดแนวโน้มตลาดอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ในประเทศจีน พบมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ผลิตรายใหญ่เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ ใส่ระบบอัจฉริยะในราคาย่อมเยา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค DITP แนะให้ผู้ประกอบการไทยเกาะติด หาทางเข้าเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ในประเทศจีน

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้าและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบาย นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยล่าสุดได้รับรายงานจาก นางสาวสายพร ใบบริบาลกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงแนวโน้มตลาดอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicle : NEV) ของประเทศจีนปี 2025 และโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศจีน


โดยทูตพาณิชย์รายงานว่า ปี 2025 นี้ มีการคาดการณ์ว่ายอดขายรวมในประเทศและส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่(NEV) ของประเทศจีน จะสูงถึง 16.5 ล้านคัน เติบโต 30% ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 ที่ผ่านมา รถพลังงานใหม่(NEV) มีสัดส่วนการครองตลาดภายในประเทศถึง 55% และในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ผู้บริโภคที่เลือกใช้รถพลังงานใหม่(NEV) มีสัดส่วนเกิน 60%

ทั้งนี้ประเทศจีนยังคงเป็นตลาดหลักของรถยนต์พลังงานใหม่(NEV) โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 ประเทศจีนมีสัดส่วนตลาดถึง 63% ของยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่(NEV) ทั่วโลก โดยมีแบรนด์ชั้นนำ อาทิ BYD ครองแชมป์ด้วยส่วนแบ่งตลาด 22% ตามมาด้วย Geely อยู่ที่ 10% ขณะที่ Tesla ยอดขายลดลงเมื่อเทียบกับปี 2524 ถึง 13% และส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือ 8% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์ของประเทศจีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นบทบาทผู้นำในอุตสาหกรรมนี้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้จากข้อมูล พบว่าในปี 2023 ผู้บริโภคที่ซื้อรถใหม่มากกว่า 50% เห็นว่าการซื้อรถไม่ได้เป็นเพียงซื้อครั้งแรกเพื่อทดลองอีกต่อไป แต่เป็นการอัปเกรดคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานจริง และคาดว่าผู้บริโภคที่มีแนวคิดเช่นนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 80% ภายในปี 2030

สำหรับช่วงราคาของรถยนต์พลังงานใหม่(NEV) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอยู่ที่ 100,000-150,000 หยวน (456,000-600,000 บาท) ผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและการใช้งานจริง ทำให้ผู้ผลิตเร่งนำ เทคโนโลยีจากรุ่นราคาสูงมาใส่ในรุ่นราคาย่อมเยามากขึ้น โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้มีจำนวนกว่า 250 ล้านคน และมีกำลังซื้อรวมกว่า 5.97 ล้านล้านหยวน (27.08 ล้านล้านบาท) ทั้งนี้ผู้บริโภคกลุ่มนี้ถึง 70% เห็นว่าแบตเตอรี่สำหรับระยะทางขับขี่ 400-500 กิโลเมตร เพียงพอต่อการใช้งานประจำวัน และมีเพียงส่วนน้อยที่ต้องการให้แบตเตอรี่รองรับระยะขับขี่ 600 กิโลเมตร

นอกจากนี้ผู้บริโภคยังให้ความสนใจต่อรูปแบบการขับขี่อัจฉริยะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากเพียง 5% ในกลางปี 2023 สู่ 12% ในกลางปี 2024 ไม่เพียงแค่นั้น ในช่วงต้นปี 2025 บริษัทรถชั้นนำของประเทศจีน เช่น BYD, Changan และ Geely ได้ร่วมกันขับเคลื่อนกระแส “เทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะเพื่อทุกคน” (Smart Driving for All) ทำให้ในปัจจุบันรถที่ติดตั้งระบบช่วยขับบนทางด่วนมีราคาไม่ถึง 100,000 หยวน (456,000 บาท) และรถที่ติดตั้งระบบช่วยขับขี่ในเขตเมือง ราคาจะอยู่ในช่วงประมาณ 200,000 หยวน (912,000 บาท) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประเทศจีนกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ของการเข้าถึงเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ

“ตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ของประเทศจีนในปี 2025 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และแข่งขันอย่างเข้มข้น โดยผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น BYD, Geely และ Changan ยังคงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมหลายระดับราคา พร้อมนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับขี่อัจฉริยะมาใช้ในรถที่ราคาย่อมเยา ทำให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น โดยข้อมูลช่วงราคาที่ได้รับความนิยมสะท้อนว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่าและการใช้งานจริง”นางสาวสุนันทา กล่าว

โดยผู้ประกอบการไทยอาจใช้กลยุทธ์ของแบรนด์ต่างๆที่มีอัตราการเติบโตสูง อาทิ การให้ความสำคัญต่อการบูรณาการห่วงโซ่อุปทาน และการสร้างแบรนด์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตลาดต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการออกแบบด้านผลิตภัณฑ์ การกำหนดราคา รวมถึงการใช้เทคโนโลยีการผลิต เพื่อใช้ในการวางแผนการส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถแข่งขันและตอบสนองความต้องการของตลาดเป้าหมายได้อย่างเหมาะสม และอาจพิจารณาหาโอกาสในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าของประเทศจีน เพื่อขยายตลาดต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top