วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กกพ. ครั้งที่ 42/2568 (ครั้งที่ 984) เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 มีมติให้เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร(ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับงวดมกราคม-เมษายน2569 เป็น 2 กรณี โดยเรียกเก็บที่ 4.58 บาทต่อหน่วย และ 3.94 บาทต่อหน่วย
“ต้นทุนหลักทั้งราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกลดลงประกอบกับการแข็งค่าของเงินบาทเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐส่งผลดีเชิงบวกต่อค่าไฟแนวโน้มค่าไฟจึงเข้าสู่ภาวะขาลงทำให้กกพ.มีช่องว่างโอกาสและทางเลือกในการบริหารความสมดุลระหว่างการลดลงของต้นทุนค่าไฟกับการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบพลังงานได้พร้อมกัน การทบทวนค่าไฟในงวดต้นปีหน้าจึงยังสามารถตรึงค่าไฟให้อยู่ในระดับเดิมได้ อีกทั้งยังมีช่องทางในการเร่งลดภาระทางการเงินด้านเชื้อเพลิงล่วงหน้าให้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บริษัทปตท. ได้เพิ่มเติม”
กกพ.ได้ทยอยชำระคืนภาระหนี้ค่าเชื้อเพลิงจากต้นทุนคงค้าง (AF) ให้แก่ กฟผ. และปตท. อย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 กกพ. มีมติให้นำเงินเรียกคืนส่วนเกินรายได้ของการไฟฟ้ามาช่วยลดค่าไฟฟ้า12,200 ล้านบาท และเห็นชอบให้ทยอยคืนค่า AFGas รวม 6 งวด โดยเริ่มคืนงวดแรกช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม2568 ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2568 ยอดคงค้างของค่า AF ลดเหลือ 47,058 ล้านบาท และต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติคงค้างของรัฐวิสาหกิจลดเหลือประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งแม้จะลดลงมากแต่ยังเป็นปัจจัยลบที่กดดันค่าเอฟทีจนกว่าจะชำระภาระค่าเชื้อเพลิงคงค้างทั้งหมด
สาเหตุที่ กกพ. ยังไม่สามารถประกาศปรับลดค่าเอฟทีและค่าไฟให้สอดคล้องกับต้นทุนที่ลดลงได้เต็มที่เนื่องจากยังจำเป็นต้องทยอยชำระคืนค่าAF ที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. และ ปตท. เพื่อให้ทั้งสองหน่วยงานสามารถฟื้นเสถียรภาพทางการเงินและรักษาความมั่นคงของระบบพลังงานโดยรวมได้ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในการประชุม กกพ. ครั้งที่ 42/2568 (ครั้งที่ 984) เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 กกพ. ได้พิจารณาตามหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าบริการในมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 และมาตรา 67 ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาต คือ กฟผ. เป็นผู้เสนออัตราค่าบริการให้กกพ.พิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยกระบวนการดังกล่าวมีขั้นตอนที่ชัดเจน โปร่งใส และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียตามที่กฎหมายกำหนด จึงมีมติให้สำนักงาน กกพ. ดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2569 แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 1: ผลการคำนวณตามสูตรการปรับค่า Ft (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. ทั้งหมด) ค่า Ft ขายปลีกเท่ากับ 79.75 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะเป็นการเรียกเก็บตามผลการคำนวณตามสูตรการปรับค่า Ft ที่สะท้อนแนวโน้ม (1) ต้นทุนเดือนมกราคม - เมษายน 2569 จำนวน 6.11 สตางค์ต่อหน่วย และ (2) เงินเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2568 จำนวน 47,058 ล้านบาท หรือคิดเป็น 73.64 สตางค์ต่อหน่วย โดย กฟผ. จะได้รับเงินที่รับภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้าแทนประชาชนตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 – เมษายน 2568 ในช่วงสภาวะวิกฤตของราคาพลังงานที่ผ่านมา คืนทั้งหมดภายในเดือนเมษายน 2569 เพื่อนำไปชำระหนี้เงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้มีสถานะทางการเงินคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว เมื่อรวมค่า Ft ขายปลีกที่คำนวณได้กับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มเป็น 4.58 บาทต่อหน่วย โดยค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้น 16% จากระดับ 3.94 บาทต่อหน่วย ในงวดปัจจุบัน
กรณีที่ 2: กรณีตรึงค่า Ft เท่ากับงวดปัจจุบัน (ข้อเสนอ กฟผ.) ค่า Ft ขายปลีก เท่ากับ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะสะท้อนแนวโน้มต้นทุนเดือนมกราคม - เมษายน 2569 จำนวน 6.11 สตางค์ต่อหน่วย และทยอยชำระคืนภาระต้นทุน AF คงค้างสะสมได้ 6,141 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.61 สตางค์ต่อหน่วย เพื่อนำไปพิจารณาทยอยคืนภาระค่า AF บางส่วนให้แก่ กฟผ. ซึ่งเมื่อรวมค่า Ft ขายปลีกกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) คงที่เท่ากับ 3.94 บาทต่อหน่วย เช่นเดียวกับปัจจุบัน
กกพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์สำนักงานกกพ. ตั้งแต่วันที่ 10 - 23 พฤศจิกายน 2568 ก่อนที่จะสรุป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี