CKPower เผย 9 เดือนกำไรกว่า 1.6 พันล้านรับอานิสงส์บวกจากปัจจัยฤดูกาล

CKPower เผย 9 เดือนกำไรกว่า 1.6 พันล้านรับอานิสงส์บวกจากปัจจัยฤดูกาล

วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 10.54 น.

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาสที่ 3/2568 และงวด 9 เดือนของปี 2568 ว่า CKPower มีผลการดำเนินที่แข็งแกร่งและเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกของปี โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (Core Net Profit) ในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน จำนวน 1,227 ล้านบาท และ 1,643 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 641 ล้านบาท และ 1,151 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 110 และ ร้อยละ 234 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงาน คือ ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี อยู่ในระดับที่เหมาะสม สามารถผลิตไฟฟ้าได้โดยไม่มีการหยุดเดินเครื่องตลอดช่วง 9 เดือนปี 2568 ทำให้ปริมาณการขายไฟฟ้าของ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) ในช่วง 9 เดือนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผนวกกับต้นทุนทางการเงินของ XPCL ลดลงตามแนวโน้มดอกเบี้ยโลก บริษัทจึงรับรู้ส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากการดำเนินงานของ XPCL ในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือน จำนวน 904 ล้านบาท และ 1,125 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 536 ล้านบาท และ 1,110 ล้านบาท ประกอบกับรายได้จากการขายไฟฟ้าของ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด (NN2) เพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำในช่วง 9 เดือนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคม 2568 ที่มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ทำให้มีปริมาณการขายไฟฟ้ามากกว่าปีก่อนร้อยละ 26


"NN2 ได้รับประโยชน์จากปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำที่ค่อนข้างมากโดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” ส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำอยู่ในระดับสูง โดยคาดว่าระดับน้ำจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริหารจัดการการผลิตไฟฟ้าในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2569 นอกจากนี้ จากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินและหนุนผลการดำเนินงานของ CKPower ต่อเนื่องไปในปี 2569 ได้ ขณะที่โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ หลวงพระบาง มีความคืบหน้าการก่อสร้าง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ร้อยละ 59 ซึ่งเป็นไปตามแผน" นายธนวัฒน์ กล่าว

สำหรับฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากสิ้นปี 2567 สาเหตุหลักมาจากเงินสดรับจากการออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งที่ 1/2568 ของบริษัท เงินสดจากการดำเนินงาน ซึ่งใช้ในการลงทุนเพิ่มเติมใน บริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ จำกัด (LPCL) รวมถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ XPCL ในช่วง 9 เดือนปี 2568 พร้อมกันนี้บริษัทยังมีความสามารถในการชำระหนี้ที่แข็งแกร่งจากอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมอยู่ในระดับต่ำที่ 0.53 เท่า และอัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ยที่ 6.50 เท่า ตอกย้ำถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และการบริหารสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทจะยังคงติดตามการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยและบริหารจัดการหนี้สินระยะยาวให้มีสัดส่วนที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า CKPower ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตผ่านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พัฒนาโครงสร้างทางพลังงานที่มั่นคงและมีเสถียรภาพ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมการเพื่อลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า ตลอดจนสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานตลอดห่วงโซ่คุณค่าขององค์กร เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

 

-031

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top