จับกระแสพลังงาน : 18 พฤศจิกายน 2568

จับกระแสพลังงาน : 18 พฤศจิกายน 2568

วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

 

** บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (17 – 21 พ.ย. 68)…โดยระบุว่า ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำเนื่องจากคณะรัฐบาลสหรัฐฯลงมติเห็นชอบรับร่างงบประมาณชั่วคราว ภายหลังการปิดทำการชั่วคราวที่ถูกยืดเยื้อมามากว่า 40 วัน ทางด้านสถานการณ์ระหว่างเวเนซุเอลาและสหรัฐฯ เริ่มมีความตึงเครียดมากขึ้น หลังจากกองทัพเวเนซุเอลาเตรียมความพร้อมเพื่อตอบโต้สหรัฐฯ หากสหรัฐฯ ทำการโจมตีเวเนซุเอลา ภายหลังสหรัฐฯ เพิ่มกำลังพลทหารและยุทโธปกรณ์เข้ามาในภูมิภาคเพื่อปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติด แม้ต่อมาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีการพิจารณาโจมตีพื้นที่เวเนซุเอลาก็ตาม ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และซีเรียมีแนวโน้มดีขึ้น   จากการพบปะของผู้นำทั้งสอง ณ กรุงวอชิงตัน ซึ่งอาจนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายตามที่ทั้งสองประเทศตั้งเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดจับตามองการดำเนินการของสหรัฐฯ ต่อมาตรการคว่ำบาตรต่อบริษัท Rosneft และ Lukoil ของรัสเซียที่ใกล้ถึงเส้นตายที่สหรัฐฯ ได้กำหนดไว้ในวันที่ 21 พ.ย.  นอกจากนี้ ตลาดยังคงดูท่าทีของกลุ่มโอเปกพลัส หลังจากรายงานของ     กลุ่มโอเปกพลัสสะท้อนให้เห็นถึงอุปทานน้ำมันดิบที่ยังคงล้นตลาด ….ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…** บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2568 กำไรโตขึ้น 21.2 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่  19,784 ล้านบาท โดยมาจาก EBITDA ที่เพิ่มขึ้นและมีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 64,632 ล้านบาท ลดลง 20%  ซึ่งมาจากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจการกลั่นและปิโตรเคมี ที่มีผลการดำเนินงานลดลงจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง…** บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM …เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (NNP) – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 414 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 48.8% และ EBITDA 3,533 ล้านบาท ลดลง 15.5% ขณะที่งวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (NNP) – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 1,638 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 13.7% และ EBITDA อยู่ที่ 10,990 ล้านบาท ลดลง 6.3% สาเหตุหลักมาจากผลกระทบจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงที่บันทึกในส่วนแบ่งการขาดทุนจากบริษัทร่วมและการร่วมค้า รวมถึงการลดลงของรายได้จากการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการ…** สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ได้ลงนามเมื่อวันที่  10 พ.ย. 2568 ประกาศ “การกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน อัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุน และอัตราเงินชดเชยคืนกองทุนสำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)” โดยกำหนดเปลี่ยนแปลงเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในบัญชี LPG ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 2568 เป็นต้นไป…สำหรับประกาศดังกล่าวได้กำหนดให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ผลิตในประเทศเพื่อจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิง ในอัตรา 2.8831 บาทต่อกิโลกรัม โดยปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้ 2.3804  บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ไม่รวมถึง LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร และ LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) อ.กงไกรลาศ จ. สุโขทัย..อย่างไรก็ตามให้ บริษัท ยูเอซี โกลบอลฯ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตรา 1.4829 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 0.7729 บาทต่อกิโลกรัม…พร้อมกันนี้ได้ปรับเงินชดเชยราคา LPG ลดลงเป็น 1.5350 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมชดเชยอยู่ 1.8772 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ไม่รวม LPG จากการแยกก๊าซฯ ที่ซื้อหรือได้จากรัฐ ผู้รับสัมปทาน หรือผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) โดยโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ.สยาม จำกัด โดยราคาขายปลีก LPG ยังคงเท่าเดิมที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ถึง 31 ธ.ค. 2568 หลังจากนั้นต้องรอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาต่อไป…ส่วนเงินส่งเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ซื้อหรือได้มาจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.4049 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมเก็บอยู่ 5.0371 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ LPG ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปต่างประเทศ ตาม พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 และได้รับเงินชดเชยจากกองทุนฯ แล้ว ให้ส่งเงินชดเชยคืนกองทุนฯ 1.5350 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 1.8772  บาทต่อกิโลกรัมสำหรับบัญชี LPG ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด ณ วันที่  9 พ.ย. 2568 ภาพรวมยังติดลบอยู่ -41,020 ล้านบาท...**  บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC…รายงานผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 392,763 ล้านบาท และ Adjusted EBITDA 16,606 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 3 ปี 2568 มีรายได้รวม 126,836 ล้านบาท ลดลง 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ Adjusted EBITDA อยู่ที่ 5,147 ล้านบาท ลดลง 15% จากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนภาวะตลาดที่ผันผวน...**


** กระบองเพชร**

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top