วิสาหกิจชุมชนชีววิถีเกษตรอินทรีย์บ้านควน และกิจการเพื่อสังคมชีววิถีบ้านคลองท่อมใต้ จังหวัดกระบี่

วิสาหกิจชุมชนชีววิถีเกษตรอินทรีย์บ้านควน และกิจการเพื่อสังคมชีววิถีบ้านคลองท่อมใต้ จังหวัดกระบี่

วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ความเป็นมา

• ชุมชนบ้านควนในอดีตประกอบอาชีพทำสวนปาล์มและยางพาราโดยพึ่งพาปุ๋ยเคมีเป็นหลัก


• การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เข้ามาสนับสนุนโครงการ “ชีววิถี” เพื่อส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2560 มีจำนวนสมาชิก 11 คน นำโดย คุณจุรีย์ กันหกุล ในฐานะประธานกลุ่ม มุ่งเน้นการสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะครัวเรือนที่เปราะบาง อาทิ ครอบครัวที่มีผู้พิการหรือผู้ป่วยติดเตียง โดยจ้างงาน ซึ่งมีการถือหุ้น แบ่งปันผลกำไร และนำรายได้ส่วนเกินไปเป็นกองทุนการศึกษาแก่เยาวชนในชุมชน

• กฟผ. ได้ร่วมมือกับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกระบี่ ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิตโบกาฉิ (สารปรับปรุงดิน) เพื่อให้ชุมชนมีผลผลิตที่ดีขึ้น โดยได้สนับสนุนเงินทุน โรงเรือน และเครื่องจักรในการผลิต

• ผลสำเร็จและความก้าวหน้า

วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ ชีววิถีบ้านควน อ.คลองท่อม จ.กระบี่

• เดิมทีการผลิตโบกาฉิทำได้เพียงรอบละ 10 กระสอบ แต่เมื่อได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรจาก กฟผ. กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 50–60 ตันต่อปี

• ปัจจุบัน บ้านควนเป็นผู้ผลิตโบกาฉิรายเดียวของพื้นที่ โดยใช้หัวเชื้อ EM ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กฟผ. มาผสมมูลสัตว์ รำละเอียด กากน้ำตาล และน้ำสะอาด ใช้เวลาหมักเพียง 7 วัน เมื่อนำไปใช้จะเห็นผลภายใน 15 วัน ราคาจำหน่ายโบกาฉิอยู่ที่ 10 บาท/กก.

• การใช้โบกาฉิช่วยลดต้นทุนจาก 30,000 บาท/รอบเพาะปลูก เหลือเพียง 5,000 บาท/รอบเพาะปลูก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มผลผลิตได้มากถึง 70%

• ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น เหมาะแก่การเพาะปลูกพืชหลากหลายชนิดในสวนยาง สวนปาล์ม เช่น กล้วยหอมทอง ซึ่งได้รับรางวัลจากงานเกษตรระดับจังหวัด

• ชุมชนสามารถลดค่าใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภค เนื่องจากมีแหล่งอาหารในครัวเรือนเพิ่มขึ้น

สวนปาล์มคุณสุภานีย์ อ.คลองท่อม จ.กระบี่

การขยายผล

• จากความสำเร็จของกล้วยหอมทอง ได้มีการนำโบกาฉิไปใช้กับการปลูกกาแฟโรบัสต้าที่ตำบลคลองท่อมใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่มีชื่อเสียงด้านกาแฟ พบว่าคุณภาพกาแฟดีขึ้น ราคาจำหน่ายเพิ่มจาก 70–80 บาท/กก. เป็น 200–300 บาท/กก. โดยมีบริษัทชั้นนำ เช่น OR และพันธุ์ไทย เข้ามารับซื้อ

• คุณสุภานีย์ ศรีสุขสมวงศ์ เจ้าของสวนกาแฟ ประธานแปลงใหญ่กาแฟคลองท่อม และเจ้าของ Yak Space Café ร้านกาแฟชื่อดังในอำเภอคลองท่อม เปิดเผยว่า การใช้โบกาฉิไม่เพียงช่วยเพิ่มคุณภาพกาแฟ แต่ยังฟื้นฟูสวนปาล์มที่เคยเสื่อมโทรมให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ภายในเวลาเพียง 3–4 เดือน ผลผลิตปาล์มเพิ่มขึ้นจากเดิม 35–40 กก. เป็น 60 กก. ต่อรอบ และช่วยลดต้นทุนปุ๋ยเคมีลงกว่าครึ่ง ซึ่งในสวนปาล์มและสวนยาง ยังสามารถทำการเกษตรแบบผสมผสานได้หลากหลาย ไม่เพียงแต่การปลูกกาแฟและกล้วยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น โกโก้ อีกทั้งยังสามารถเลี้ยงผึ้งควบคู่ไปได้ เนื่องจากพื้นที่มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์และเอื้อต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด

Yak Space Café และสวนหลังร้าน ใน อ.คลองท่อม จ.กระบี่

• เมื่อดินอุดมสมบูรณ์ สามารถปลูกพืชได้หลายชนิด คุณสุภานีย์จึงได้จ้างชาวบ้านในชุมชนที่ขาดรายได้ให้มาช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิต อันเป็นการสร้างโอกาสและกระจายรายได้กลับสู่ครัวเรือนในชุมชน

• ผลสำเร็จของการใช้โบกาฉิยังขยายผลสู่สวนทุเรียนในจังหวัดตรังและสุราษฎร์ธานี โดยวิสาหกิจฯ ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ผลิตหลัก อีกทั้งยังเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ในพื้นที่ รวมถึงงานอีเวนท์ต่าง ๆ ด้วย

• รายได้จากการจำหน่ายโบกาฉิมีมูลค่าสูงกว่ารายได้จากสวนปาล์มและยางพารา และยังช่วยสร้างหลักประกันทางเศรษฐกิจแก่ครัวเรือนในยามที่ราคาพืชผลตกต่ำ เนื่องจากโบกาฉิสามารถจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี

การต่อยอดในอนาคต

• มีแผนพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อสร้างแบรนด์ที่เป็นที่จดจำในตลาด สร้างความน่าเชื่อถือแก่ผู้บริโภค นำไปสู่การเพิ่มมูลค่า และสามารถขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังห้างสรรพสินค้าและงาน OTOP ได้

• ตั้งเป้าขยายการใช้โบกาฉิสู่สวนทุเรียนอย่างน้อยปีละ 5 แห่ง พร้อมทั้งทดลองใช้กับพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น ผักสลัดและพริก

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top