วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายของ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บุกตลาดใหม่ โดยให้เร่งขยายตลาดข้าวไปยังตลาดที่มีความต้องการและมีศักยภาพโดยเฉพาะภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น อิรัก และซาอุดีอาระเบีย
ทั้งนี้ซึ่งถือเป็นตลาดศักยภาพที่ไทยจะสามารถขยายปริมาณการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น โดยกรมฯ ได้จัดคณะผู้แทนฯ เข้าร่วมงานแสดงสินค้า FOODEX SAUDI 2025 ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 3 – 6 พฤศจิกายน 2568 ณ Jeddah Center for Exhibitions and Events ณ เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติที่สำคัญที่สุดงานหนึ่งของซาอุดีอาระเบีย และจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
สำหรับเพื่อเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลกได้มาพบปะ เจรจาธุรกิจ และสร้างเครือข่ายทางการค้า เพื่อขยายโอกาสสู่ตลาดซาอุดีอาระเบียและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ในปีนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ กรมฯ ได้เข้าร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในงานดังกล่าว โดยภายในคูหาของกรมฯ ได้จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับความหลากหลายของข้าวไทยควบคู่กับเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย การจัดแสดงตัวอย่างข้าวไทยชนิดต่างๆ เช่น ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวนึ่ง ข้าวขาว ข้าวเหนียว ข้าวเพื่อสุขภาพและข้าวคุณลักษณะพิเศษที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสังข์หยด และข้าวหอมนิล ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ตอบข้อซักถามจากผู้เข้าชมคูหา
ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งผู้บริโภค ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้จัดจำหน่าย และผู้นำเข้าขาว ตลอดจนผู้เข้าชมจากนานาประเทศ โดยมีผู้เยี่ยมชมคูหาข้าวไทยกว่า 1,000 คน จากประเทศต่าง ๆ อาทิ ซาอุดีอาระเบีย อินเดีย บังกลาเทศ ญี่ปุ่น จีน ซูดาน ไนจีเรีย และเซเนกัล ตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 4 วัน โดยผู้เข้าร่วมงานให้ความสนใจและชื่นชอบในข้าวคุณลักษณะพิเศษต่างๆ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล และข้าวสังข์หยด
ที่มีสีสันแปลกตาและโดดเด่น ซึ่งผู้แทนกรมฯ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้าวคุณลักษณะพิเศษดังกล่าวว่าเป็นข้าวที่มีสีสันสวยงามตามธรรมชาติอีกทั้งยังโดดเด่นด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง อาทิ แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) และโพลีฟีนอล (Polyphenol) ในปริมาณที่มากกว่าข้าวขาวทั่วไป นอกจากนี้ ข้าวเหล่านี้ยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร วิตามินบี และธาตุเหล็ก ซึ่งช่วยในการบำรุงโลหิตและดีต่อระบบขับถ่าย คุณสมบัติเหล่านี้จึงสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก แต่ไม่สามารถผลิตข้าวในประเทศได้จึงต้องการพึ่งพาการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศทั้งหมด โดยส่วนใหญ่นิยมบริโภคข้าวบาสมาติจากอินเดีย ซึ่งในแต่ละปีซาอุดีอาระเบียมีความต้องการบริโภคข้าวภายในประเทศประมาณ 1.7 ล้านตัน นำเข้าจากต่างประเทศประมาณ 1.8 ล้านตันต่อ ปี โดยแนวโน้มความต้องการบริโภคข้าวของซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้น เนื่องจากจำนวนแรงงานและนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในแต่ละปี สำหรับการส่งออกข้าวไทยไปซาอุดีอาระเบีย แต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปซาอุดีอาระเบียประมาณ 14,000 – 30,000 ตัน/ปี คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดข้าวในซาอุดีอาระเบียร้อยละ 12 รองจากประเทศอินเดีย สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และเวียดนาม ซึ่งส่วนใหญ่ส่งออกเป็นข้าวหอมมะลิไทยร้อยละ 40 รองลงมา ได้แก่ ข้าวนึ่งร้อยละ 25 และข้าวหอมไทยร้อยละ 20 การเข้าร่วมงาน FOODEX SAUDI 2025 จึงถือเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และความโดดเด่นของข้าวไทยให้ผู้นำเข้าข้าวรับรู้ในความหลากหลายและเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการข้าวไทยและขยายส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในซาอุดีอาระเบียและภูมิภาคตะวันออกกลางให้เพิ่มขึ้น
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี