วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นายสุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น. ซี. ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดเผยว่า ศูนย์’สิริกิติ์ ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด (SCIeco) โดย SCG ยกระดับระบบการจัดการขยะภายในศูนย์ฯสิริกิติ์ ไปสู่โมเดล “Waste-to-Value” ผ่านเทคโนโลยีการแปรรูปขยะทั่วไป (General Waste) ให้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน (Refuse-Derived Fuel: RDF) ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะที่จะเข้าสู่หลุมฝังกลบ พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050
โดยความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนวันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อตอกย้ำบทบาทของศูนย์ฯสิริกิติ์ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ไทย โดยศูนย์ฯสิริกิติ์ จะเป็นศูนย์ประชุมแห่งแรกของประเทศไทยที่นำระบบแปรรูปขยะทั่วไป เป็นพลังงานแบบ RDF มาใช้จริง สร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม และผลักดันแนวคิดความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมไมซ์อย่างแท้จริง
ในการสร้างความยั่งยืนของอุตสาหกรรมไมซ์ ต้องเริ่มจากฐานโครงสร้างการบริหารจัดการ ไม่ใช่เพียงการรณรงค์ในระดับกิจกรรม ความร่วมมือครั้งนี้คือก้าวสำคัญในการปรับระบบตั้งแต่ต้นทางของการจัดการขยะ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างมั่นคง
ทั้งนี้ศูนย์ฯสิริกิติ์จึงเลือกพาร์ทเนอร์อย่าง SCIeco โดย SCG ซึ่งเป็นองค์กรต้นแบบที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ตามหลักบรรษัทภิบาล และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการของเสียครบวงจร (Total Waste Management) รวมถึงการแปรรูปขยะทั่วไป (General -Waste) ให้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน (Refuse-Derived Fuel: RDF) ที่ได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ ด้วยศักยภาพด้านเทคโนโลยี การบริหารจัดการ และระบบรายงานข้อมูลที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ศูนย์ฯสิริกิติ์จึงมั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงช่วยยกระดับการจัดการขยะภายในศูนย์ฯสิริกิติ์สู่มาตรฐานสากลเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นแบบในการนำของเสียกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตพลังงานหมุนเวียน และสนับสนุนเป้าหมายเศรษฐกิจหมุนเวียนของประเทศไทยในระยะยาว
นายสุรพล กล่าวว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ฯสิริกิติ์ได้พัฒนามาตรการด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำระบบมาตรฐานสากล ISO 14064-1 และ Carbon Footprint for Organization (CFO) ซึ่งล้วนเป็นมาตรฐานสำหรับการวัดปริมาณและการรายงานการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร การร่วมมือกับองค์กรภายนอกในการนำอาหารส่วนเกินกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ (Zero Food Waste Initiative) ไปจนถึงการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของอิเวนต์ (Carbon Footprint of Event-CFE) ด้วยการนำแดชบอร์ดคำนวณคาร์บอนแบบเรียลไทม์ หรือ Real-Time Carbon Footprint Tracking Dashboard มาใช้ในงานไมซ์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของศูนย์ประชุมในประเทศไทย
โดยความทุ่มเทดังกล่าว ทำให้ศูนย์ฯสิริกิติ์ได้รับรางวัลด้านความยั่งยืนทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ผลักดันองค์กรสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 อย่างเป็นรูปธรรม
นายฉลอง ลิ่มสุนทรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด (SCIeco) กล่าวว่า บริษัทมองว่าขยะไม่ใช่ภาระ แต่เป็นทรัพยากรที่ยังมีคุณค่าซ่อนอยู่ การแปรรูปขยะทั่วไปให้เป็นพลังงานทดแทน คือการคืนคุณค่าให้ทรัพยากรกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งศูนย์ฯสิริกิติ์เป็นศูนย์การประชุมแรกในประเทศไทยที่บริษัทร่วมมือด้วย เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพในการพัฒนาระบบจัดการขยะในระดับปฏิบัติการจริง ตั้งแต่ขั้นตอนคัดแยก รวบรวมจัดเก็บ ไปจนถึงการส่งต่อ เพื่อแปรรูปเป็นพลังงานอย่างครบวงจร
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นต้นแบบสำคัญให้อุตสาหกรรมไมซ์ ในการยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนประเทศไทย สู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน อีกทั้งความร่วมมือนี้สะท้อนเจตนารมณ์ร่วมของทั้ง 2 องค์กรในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่วัดผลได้จริง และเป็นอีกก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ในการผลักดันประเทศไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี