คลังเติมเงิน-กระตุ้นบริโภค ประคองเศรษฐกิจช่วงรอเลือกตั้งใหม่

คลังเติมเงิน-กระตุ้นบริโภค ประคองเศรษฐกิจช่วงรอเลือกตั้งใหม่

วันอังคาร ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในระหว่างการยุบสภาฯ รัฐบาลยังต้องประคองเศรษฐกิจ รองรับนโยบาย "Quick Big Win" ผ่าน 5 เสาหลัก และ 1 ฐานราก หลังได้ขับเคลื่อนผ่านไปแล้วถึง 99  % เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2568 นี้ กระทรวงคลังคาดว่าจีดีพีไตรมาส 4 ขยายตัว 1 % ตลอดทั้งปี 2568 เติบโตไม่ต่ำกว่า 2 % เพื่อให้มีแรงส่งต่อไปยังปี 2569 โดยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ยังต้องหวังแรงผลักดันจากการบริโภคในประเทศผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส ขณะนี้มีเม็ดเงินกระจายออกไปหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจ 74,900 ล้านบาท มองว่าได้ทำให้ธุรกิจรายย่อย ในตลาดและร้านค้าต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดคึกคักมากขึ้น รัฐบาลยังหวังผลระยะยาว ด้วยการเพิ่มทักษะ (Reskill) ด้านการเงินและทักษะการขายของออนไลน์ให้กับพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย จนทำให้ขายของออนไลน์มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 5-6 เท่า

“ในช่วงสุญญากาศการเมือง รัฐบาลยังต้องเดินหน้าแก้หนี้ครัวเรือน และเติมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถดำเนินกิจการได้อย่างต่อเนื่อง ยอมรับเสียดายโครงการกระตุ้นการออม ผ่านบัญชีการออมส่วนบุคคล TISA และโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 และบัตรสวัสดิการฯ ส่วนคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ต้องรอนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี หารือกับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าดำเนินการได้หรือไม่” นายเอกนิติ กล่าว


ทั้งนี้ในช่วงบริหารราชการของรัฐบาลรักษาการ ยังต้องผลักดันการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งเป็นความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย เพื่อช่วยลดปัญหาหนี้ให้กับชาวบ้าน ภาระหนี้ต่ำกว่า 100,000 บาท การเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เม็ดเงินรวม 320,000 ล้านบาท ผ่านแบงก์รัฐและธนาคารพาณิชย์ การคืนภาษีให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อให้เงินหมุนเวียนในระบบ 60,000 ล้านบาท

ภายในเดือนธันวาคมนี้ ขณะเดียวกันสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) และการค้ำประกันผ่าน บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) วงเงิน 267,000 ล้านบาท ยังต้องขับเคลื่อนเพื่อเติมสภาพคล่อง และรัฐบาลยังผลักดันการลงทุนเพื่ออนาคตผ่านโครงการ Fast Pass มูลค่า 470,000 ล้านบาท เพื่อทำให้เกิดการลงทุนต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569 หลังได้อนุมัติโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท ก่อนการยุบสภาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อประคองเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top