“เที่ยวดีมีคืน”ช่วยโรงแรม สร้างเม็ดเงินเพิ่มกว่า5.9พันล้าน

“เที่ยวดีมีคืน”ช่วยโรงแรม สร้างเม็ดเงินเพิ่มกว่า5.9พันล้าน

วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบีหรือ ttb analytics คาดมาตรการ “เที่ยวดีมีคืน 2568” จะช่วยผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในระยะสั้นตามที่เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ผ่าน 5 มาตรการย่อย โดยเฉพาะ 3 มาตรการที่ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภาคการโรงแรมของไทยอันประกอบด้วย

1. มาตรการภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยให้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุดคนละ 20,000 บาท เมื่อใช้จ่ายในเมืองรองใช้สิทธิลดหย่อนได้เพิ่มเติมเป็น 1.5 เท่า สำหรับเมืองหลักได้ 1 เท่า


2. มาตรการภาษีสำหรับนิติบุคคลเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ เพื่อนำมาหักรายจ่ายได้ 2 เท่าสำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในจังหวัดเมืองรอง หากไม่ใช่เมืองรองหักได้1.5 เท่า ทั้งสองมาตรการนี้เริ่มตั้งแต่ 29 ตุลาคม-15 ธันวาคม 2568

3. มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนาของภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (Front Load)  กำหนดให้เร่งรัดเบิกจ่ายไม่น้อยกว่า 60% นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 - 31 มกราคม 2569 ซึ่งทั้ง 3 มาตรการกระตุ้นฝั่งอุปสงค์ได้ตรงจุด

ttb analytics คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นภาคโรงแรมและท่องเที่ยวไทยได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น

สืบเนื่องจากปี 2568 ภาคท่องเที่ยวไทยอยู่ภายใต้แรงกดดันจากทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หดตัวเป็นครั้งแรกนับจากปี 2557 (ไม่นับช่วงโควิด-19)โดยเฉพาะแรงกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเคยเป็นแรงหนุนสำคัญหดตัวเมื่อเทียบกับจุดสูงสุดกว่า 60% (คาดนักท่องเที่ยวจีนปีนี้จะอยู่ที่ 4.6 ล้านคนจากสูงสุดปี 2562 ที่มี 11.1 ล้านคน) อีกทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศที่แม้ยังมีโมเมนตัมการเติบโตแต่เริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 2567 ที่นักท่องเที่ยวไทยโต 6.8% และในปี 2568 เติบโต 4.7% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำเมื่อเทียบกับปี 2566 ที่เติบโตถึง 24.4%

การชะลอตัวในภาคท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคอุปสงค์ของกลุ่มธุรกิจโรงแรมจึงกดดันให้ปี 2568 ธุรกิจโรงแรมอาจหดตัวเป็นครั้งแรกนับจากผ่านช่วงสถานการณ์โควิด-19ที่ราว0.4% ที่มูลค่า 3.59 แสนล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะหดตัว 2.1% ที่รายได้ 1.90 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.94 แสนล้านบาท เนื่องด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หดตัวและมีแนวโน้มรุนแรงกว่าที่คาดขณะที่โรงแรมขนาดเล็กยังได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวในประเทศยังมีการขยายตัวแม้จะชะลอตัวอยู่บ้างแต่ยังรักษาการเติบโตที่รายได้ในปี2568ราว 1.69 แสนล้านบาท ขยับเพิ่มจากปีก่อนที่ 1.5%

ภาพรวมที่ชะลอตัวส่งผลให้ภาครัฐมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวผ่านนโยบาย “เที่ยวดีมีคืน 2568” ซึ่ง ttb analytics มองทั้ง 3 มาตรการที่ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ของภาคการโรงแรมคาดสร้างเม็ดเงินเพิ่มกว่า 5,900 ล้านบาท แบ่งเป็นเม็ดเงินจากฝั่งเอกชนซึ่งประกอบด้วย รายได้จากการท่องเที่ยว จากการให้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดารวมถึงสิทธิหักเป็นรายจ่ายสำหรับภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ หากมีผู้ใช้สิทธิ์เต็มคาดจะสร้างรายได้ 3,100 ล้านบาท และรายได้จากหน่วยงานภาครัฐที่เร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนาของภาครัฐอีกกว่า 2,800 ล้านบาท

เม็ดเงินเหล่านี้คาดว่าจะส่งผลให้รายได้โรงแรมในปี 2568 จากเดิมที่คาดหดตัว 0.4% มีโอกาสกลับมาขยายตัว1.6% โดยเฉพาะปัจจุบันพื้นที่เมืองรองมีสัดส่วนถึง 28% ของรายได้รวม คาดว่า SMEs ธุรกิจโรงแรมที่กระจายในเมืองรองมากกว่าเมืองหลัก จะเป็นกลุ่มได้รับอานิสงส์จากสิทธิประโยชน์ที่ผู้ใช้บริการได้รับเพิ่มเติมคาดรายได้อาจเพิ่มถึง 3.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ttb analytics คาดมาตรการ “เที่ยวดีมีคืน 2568” จะสร้างรายได้ผ่านกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายของปี ช่วยพลิกฟื้นภาคโรงแรมจากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวให้กลับมามีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่ด้วยมาตรการดังกล่าวจะเน้นกระตุ้นฝั่งอุปสงค์ในระยะสั้น แม้ว่าครอบคลุมมาตรการดูแลฝั่งอุปทาน จากมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมและที่พักเสริมศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะ SMEs ในจังหวัดเมืองรอง

เมื่อมองแนวโน้มภาคการท่องเที่ยวไทยในปี 2569 ที่ชะลอตัว จึงเสนอแนะภาครัฐให้ออกมาตรการสนับสนุนกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่อง  รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนส่วนกลางและในพื้นที่เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มการประชาสัมพันธ์ และพัฒนาเส้นทางรวมถึงรูปแบบการท่องเที่ยวให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวคนไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแบบวันเดียวหรือแบบพักแรม ซึ่งจะช่วยทำให้มีเม็ดเงินเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำในระดับภูมิภาคได้มากขึ้น

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top