“DITP” ชี้เป้าขายผลิตภัณฑ์ความงามชาวเวียดนาม ชูคุณภาพ เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม

“DITP” ชี้เป้าขายผลิตภัณฑ์ความงามชาวเวียดนาม ชูคุณภาพ เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม

วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 12.08 น.
Tag :

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวธนียา ฟูเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ถึงแนวโน้มใหม่ในตลาดผลิตภัณฑ์ความงามในเวียดนาม ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน และโอกาสในการส่งออกสินค้าความงามของไทยเข้าไปจำหน่าย

โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า ข้อมูลของ Fortune Business Insights คาดการณ์ว่า ตลาดความงามในเวียดนามจะมีมูลค่า 631,940 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2575 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 6.69 ต่อปี โดยให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมและยั่งยืน และรายงานจาก Vogue Business Beauty Index ระบุว่า ผู้บริโภคที่ตอบแบบสอบถามร้อยละ 76 ให้ความสำคัญกับการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของตน และยังมีข้อมูลอีกว่าผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย กำลังกลายเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด มีการเติบโตแซงหน้าตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว โดยหลายแบรนด์ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเซรั่มหรือครีมบำรุงผิวหน้า ครีมบำรุงผิวกาย ฟื้นฟูและต่อต้านริ้วรอย


นอกจากนี้ ในเวียดนาม ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึง 2,740 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2568 ขณะที่ผู้บริโภคให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจเวียดนามเติบโต ทำให้มาตรฐานค่าครองชีพและรายได้ประชาชนดีขึ้น กำลังซื้อเพิ่มขึ้น จึงยินดีจ่ายเพื่อเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางคุณภาพดี มีแหล่งที่มาชัดเจน ปลอดภัยต่อร่างกาย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาจากธรรมชาติ และเหมาะสมกับความต้องการส่วนบุคคล

ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม ระบุว่า เวียดนามกำลังอยู่ในช่วงยุคทองของประชากร โดยมีผู้หญิงคิดเป็นร้อยละ 50.1 กลุ่มผู้บริโภคหลัก คือ กลุ่มที่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกและการดูแลตัวเองมากขึ้น อิทธิพลของโซเชียลมีเดียและเทรนด์ความงามสมัยใหม่ ทำให้ความต้องการ
ใช้เครื่องสำอาง ตั้งแต่การแต่งหน้าไปจนถึงการดูแลผิวได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวัน โดยมุ่งการดูแลแบบมินิมอลแต่มีประสิทธิภาพ อาทิ ครีมกันแดดผสมครีมบำรุงผิว เซรั่มผสมมอยส์เจอไรเซอร์และสารต่อต้านริ้วรอย เป็นต้น

ขณะเดียวกัน การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอีคอมเมิร์ซในเวียดนาม กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเครื่องสำอาง เพราะผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว และประสบการณ์การซื้อของออนไลน์แบบหลายแพลตฟอร์ม ผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชั้นนำ ได้แก่ Shopee, Lazada, Tiki ไปจนถึงโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok Shop, Instagram และ Facebook Marketplace โดยนอกจากการซื้อของแล้ว ผู้บริโภคยังสามารถเข้าถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ผ่านการไลฟ์สด รีวิวจาก KOL/KOC ซึ่งแบรนด์ต่าง ๆ จำเป็นต้องลงทุนในเนื้อหาดิจิทัล ดูแลระบบ chatbot เพื่อให้ข้อมูลกับลูกค้าการทดสอบผลิตภัณฑ์เสมือนจริง AR
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าออนไลน์

“จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดความงามเวียดนาม ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเหมาะกับตนเอง และการเติบโตของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ การขยายตัวของโซเชียลมีเดีย ที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ง่าย จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์ความงามไปจำหน่าย โดยต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เข้าใจความต้องการที่หลากหลาย ศึกษาคู่แข่งในตลาด เพื่อกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสม และควรวางแผนการประชาสัมพันธ์สินค้า
ที่มีความน่าเชื่อถือ ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย
เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า” นางสาวสุนันทา กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เว็บไซต์ www.ditp.go.th หรือสายด่วน 1169 และสำหรับผู้ที่สนใจสมัครเป็นผู้ขายบนเว็บไซต์หรือติดตามข้อมูลการค้าและคำสั่งซื้อจากทั่วโลกสามารถเข้าไปที่ แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ thaitrade.com

-032

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top