วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา(DIP) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แม้จะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในหลายมิติ แต่ขณะเดียวกันก็เปิดช่องให้การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในท้องตลาดและช่องทางออนไลน์ มีรูปแบบซับซ้อนและยากต่อการตรวจจับมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาไม่อาจยึดติดกับวิธีการเดิมได้อีกต่อไป กรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนากลไกปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายให้เท่าทันเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างรอบด้าน มีความแม่นยำ ฉับไว และเชื่อมโยงการทำงานกับทุกภาคส่วนได้อย่างเป็นระบบ พร้อมดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้ทันสมัย สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อป้องกันและรับมือกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทุกรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ตนได้มอบหมาย นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา(DIP) เป็นประธานในการเปิดเวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา” โดยร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมศุลกากร กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนาศักยภาพการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามรวมกว่า 150 ราย โดยเน้นการสร้างองค์ความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญาเชิงลึก การบังคับใช้กฎหมาย กระบวนการพิจารณาคดี ตลอดจนแนวทางการตรวจสอบสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อส่งเสริมความพร้อมและทักษะในการปฏิบัติงานปราบปรามให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด
ในการสัมมนาครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมด้วยวิทยากรจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) ถ่ายทอดความรู้และทักษะที่จำเป็นในหัวข้อต่างๆ อาทิ สถานการณ์การป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในท้องตลาดและช่องทางออนไลน์ การตรวจสอบและแยกแยะสินค้าของจริงและสินค้าปลอม แนวทางการสืบสวนและขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิดจากผู้ขายสินค้าละเมิด รายย่อยไปยังเครือข่ายสินค้าละเมิดรายใหญ่ (แหล่งต้นน้ำ) กระบวนการพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาของพนักงานอัยการ เป็นต้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเข้มแข็ง ต่อเนื่อง และเป็นธรรม ทั้งต่อเจ้าของสิทธิ ผู้ใช้งานทรัพย์สินทางปัญญา และประชาชนทั่วไป
นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) มุ่งมั่นพัฒนามาตรการป้องกันและปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเน้นกวาดล้างในพื้นที่แหล่งต้นน้ำทั้งแหล่งเก็บสินค้า โกดัง จุดนำเข้าและกระจายสินค้า ตลอดจนย่านการค้าสำคัญในพื้นที่เฝ้าระวังทั่วประเทศ โดยเพิ่มมาตรการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน ระงับยับยั้งการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนผู้บริโภค ปลอดภัยจากสินค้าปลอมที่ไม่ได้คุณภาพและเป็นอันตรายต่อชีวิต และส่งเสริมระบบเศรษฐกิจที่เป็นธรรมและยั่งยืน
สำหรับสถิติการปราบปรามสินค้าละเมิดฯ ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม - พฤศจิกายน 2568) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,132 คดี ยึดของกลางได้กว่า 3.3 ล้านชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 1,140 ล้านบาท และล่าสุดเมื่อวันที่ 17 – 23 ธันวาคม 2568 กรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) ร่วมกับ บก.ปอศ. และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ จัดชุดระดมลงกวดขันพื้นที่ศูนย์การค้าใจกลางกรุงเทพมหานคร รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี สามารถจับกุมผู้จำหน่ายสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า 7 คดี ยึดของกลาง เช่น นาฬิกา แว่นตา กระเป๋า เสื้อ รองเท้า หมวก เป็นต้น รวม 800 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท พร้อมนำส่งของกลางและผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญา(DIP) ขอย้ำเตือนว่า สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค แต่ยังบั่นทอนกำลังใจของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาและผู้ค้าที่ทำการค้าโดยสุจริต ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน และสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยบทลงโทษของผู้จำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี ปรับสูงสุด 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือปรับสูงสุด 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี