นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนของปี 2568 มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่ารวม 75,715.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.38 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.46% จากช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยมีสัดส่วนการใช้สิทธิ 81.77% ของมูลค่าสินค้าส่งออกที่ได้รับสิทธิภายใต้ FTA

ทั้งนี้เป็นการส่งออกไปยังอาเซียน ภายใต้ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง มูลค่า 27,417.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 71.25% อันดับ 2 เป็นการใช้สิทธิภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) มูลค่า 21,381.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิ 95.46% อันดับ 3 ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย (AIFTA) มูลค่า 8,163.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิ 72.12% อันดับ 4

ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มูลค่า 5,798.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิ 83.65% และอันดับ 5 ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) มูลค่า 4,711.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิ 56.91%

 “ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ การชะลอตัวของเศรษฐกิจ และการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่เข้มข้นขึ้น หลายประเทศเริ่มปรับโครงสร้างการค้าและการผลิตใหม่ การใช้สิทธิ FTA ของไทยจึงไม่ใช่เพียงการลดภาษี แต่เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ช่วยให้ไทยรักษาความสามารถในการแข่งขันและบทบาทในห่วงโซ่การผลิตโลก”นางอารดา กล่าว

โดยไทยมุ่งยกระดับบทบาทจากการเป็นประเทศผู้ส่งออกไปสู่การเป็น “พันธมิตรทางเศรษฐกิจ” ที่คู่ค้าให้ความเชื่อถือในด้านมาตรฐานและความต่อเนื่องของการผลิต การเร่งใช้ประโยชน์จาก FTA ควบคู่กับการขยายความร่วมมือใหม่ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดหลักเพียงไม่กี่ประเทศ