DITP ชี้ช่องผู้ประกอบการไทยขายอาหารพร้อมทานในเวียดนาม

DITP ชี้ช่องผู้ประกอบการไทยขายอาหารพร้อมทานในเวียดนาม

วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 10.51 น.

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้าและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวธนียา ฟูเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ถึงการสำรวจตลาดการบริโภคอาหารของผู้บริโภคชาวเวียดนาม ที่มีการสั่งอาหารออนไลน์มากขึ้น และโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารพร้อมทาน (Ready-to-eat) และบรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุอาหาร เพื่อป้อนความต้องการที่เพิ่มขึ้น

โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า ผู้บริโภคเวียดนามมีการสั่งอาหารออนไลน์มากขึ้น จากอดีตที่ซื้อของหรือสั่งอาหารและเครื่องดื่ม ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นครั้งคราว แต่ปัจจุบันการสั่งอาหารและเครื่องดื่มผ่านระบบอีคอมเมิร์ซกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้ แนวโน้มการบริโภคที่เน้นความสะดวกสบายได้รับความนิยมและมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกำหนดรูปแบบใหม่ให้กับตลาดค้าปลีกและธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของเวียดนามในปี 2568


ทั้งนี้ จากรายงานดัชนีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม (E-commerce Index: EBI) ประจำปี 2568 โดยสมาคมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม (Vietnam E-commerce Association: VECOM) คาดการณ์ว่าการค้าปลีกผ่านระบบอีคอมเมิร์ซของเวียดนามในปี 2568 มีมูลค่ากว่า 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และปัจจุบันเวียดนามอยู่ในกลุ่ม 5 ประเทศที่มีตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 20–25 ผู้บริโภคเวียดนามไม่ได้จำกัดการซื้อเพียงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หรือเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านแพลตฟอร์ม Shopee Lazada Tiki หรือ TikTok Shop เท่านั้น แต่เริ่มมีความต้องการซื้อสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภค (FMCG) มากขึ้น อาทิ อาหารสด เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ทั้งในแง่ของปริมาณและความถี่ในการซื้อ ผู้บริโภคมีความต้องการสั่งซื้อสินค้าแทบทุกวัน มากกว่าที่จะรอเฉพาะช่วงที่ลดราคาเท่านั้น

ขณะที่ข้อมูลของธนาคารกลางเวียดนาม (State Bank of Vietnam) ระบุว่ากว่าร้อยละ 75 ของธุรกรรมอีคอมเมิร์ซทั้งหมดชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือ QR Code แสดงให้เห็นว่าการชำระเงินแบบไร้เงินสดเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้บริโภคชาวเวียดนาม เนื่องจากมีความรวดเร็วและปลอดภัย

นอกจากนี้ ทูตพาณิชย์ยังให้ข้อมูลอีกว่า นอกจากแนวโน้มการหันมาเลือกซื้อสินค้ากลุ่มอาหารสดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จะเพิ่มสูงขึ้นแล้ว ตลาดอาหารปรุงสุกพร้อมทานของเวียดนามขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากข้อมูลของสมาคมการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม (VECOM)และบริษัท Statista คาดว่ามูลค่าธุรกิจบริการจัดส่งอาหารออนไลน์ (Food Delivery) ของเวียดนามในปี 2568 จะสูงถึง 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 โดยช่องทางอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ กำลังแข่งขันกันขยายเครือข่ายไปยังเมืองประจำจังหวัดต่าง ๆ พร้อมนำเสนอเมนูที่หลากหลาย ไม่เพียงเฉพาะอาหารเวียดนามแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริการจัดส่งเครื่องดื่ม กาแฟพร้อมดื่ม และอาหารเพื่อสุขภาพด้วย โดยกลุ่มพนักงานบริษัท นักเรียน และนักศึกษา เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการสูงที่สุดและมักสั่งอาหารในช่วงเช้าและช่วงเย็น 

“จากแนวโน้มการสั่งอาหารผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซของผู้บริโภคเวียดนาม ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกค้าที่อยู่ห่างจากใจกลางเมืองสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกขึ้นเท่านั้น แต่ยังถือเป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับสินค้าประเภทอาหารพร้อมทาน และบรรจุภัณฑ์อาหาร ซึ่งผู้ประกอบการไทยมีความพร้อม สามารถผลิตอาหารพร้อมทานได้หลากหลาย มีโอกาสในการเข้าไปทำตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นได้” นางสาวสุนันทากล่าว

-031

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top