สัปดาห์นี้ได้เวลาทำความรู้จักกับนักแสดงสาวที่งานชุกมากอีกคนหนึ่ง นามว่า “ลิเบีย-ณัฐรินทร์ สุวรรณเลิศ” น้องใหม่มาแรงจากช่อง 7 สีคนนี้ มีเสน่ห์น่าสนใจแค่ไหน วันนี้เราค้นทุกซอกทุกมุมของเธอมาให้ทราบกัน
“ลิเบีย” ชื่อนี้มีที่มา
ทุกคนก็มักจะถามว่าชื่อหนูมาจากไหน จะบอกว่าตอนที่หนูเกิดคือมันมีสงครามลิเบียกับอเมริกาพอดี แล้วคุณพ่อก็มีเพื่อนสนิทคนหนึ่งซึ่งแฟนเขาก็ท้องอยู่เหมือนกัน พ่อกับเพื่อนเขาก็เลยแข่งกันคือเขา 2 คนอยากได้ลูกผู้ชาย เขาก็บอกว่าถ้าใครได้ลูกผู้ชายจะให้ชื่อว่าสหรัฐ แล้วสหรัฐอเมริกาชนะ หนูออกมาเป็นผู้หญิงก็เลยชื่อลิเบียเพื่อนพ่อดันได้ลูกชายก็เลยชื่อว่าสหรัฐ จริงๆ หนูจะต้องชื่อว่าเด็กหญิงลิเบีย แต่ว่ามันเอามาตั้งเป็นชื่อจริงไม่ได้พ่อก็เลยเอามาตั้งเป็นชื่อเล่นแทนหนูก็เลยได้ชื่อเล่นว่าลิเบีย แต่พ่อก็ยังมีความหวังอยู่ว่าอยากจะได้ลูกชาย พอมีลูกชายพ่อก็เลยตั้งชื่อว่าเอเชียเลยค่ะ (ยิ้ม) เอาเป็นทวีปครอบคลุมใหญ่ไปเลย
ในวัยเด็ก
เป็นเด็กเปิ่นๆ โก๊ะๆ คนหนึ่งค่ะ (หัวเราะ) จะมีความโก๊ะๆตลกตลอด แต่ว่าเมื่อก่อนจะเป็นคนขี้อายมากนะคะ ตอนแรกที่เข้าวงการคือเล่นละครไม่ได้เลยเพราะว่าอายก็จะเกร็งเครียดไปหมดเลย แต่ว่าพอมันเริ่มได้แล้วเราก็เริ่มชอบเริ่มรักในสิ่งที่เราทำ หนูรู้สึกว่าอาชีพทุกอาชีพมันก็ต้องมีความพยายามหมดแหละค่ะไม่ว่าจะอาชีพไหนเราก็ต้องเกร็งต้องกดดันอยู่แล้ว พอได้เล่นละครมันก็ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น มีเพื่อนเยอะขึ้นได้มาถ่ายละครบางทีก็เหมือนเราอยู่บ้านได้เล่นกับคนที่บ้านมันก็สนุกดีเหมือนกันก็เลยชื่นชอบขึ้นมา แต่ตอนเด็กๆ ไม่ชอบเลยเพราะว่าเป็นคนขี้อายมาก
ก้าวแรกในวงการ
เริ่มแคสโฆษณามาตั้งแต่เด็กๆ แต่ว่ามันก็ไม่ได้แบบต้องมาเจอกันบ่อยๆ แคสเสร็จแล้วก็ไป แต่เริ่มมาเล่นละครเรื่องแรกก็ตอนที่เรียนมหา’ลัยปี 2 เล่นเรื่อง “หนีก็ล่าซ่าก็รัก” ทางช่อง 7 เล่นบทเด็กๆ เป็นเด็กมหา’ลัยซึ่งก็ตรงกับตัวเราวัยเราไม่ได้ประกวดอะไรเลยเพราะว่าขี้อายมากคือหนูก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาแสดงได้ แต่ว่าพอเราได้ทำแล้วก็เหมือนทำให้เรามีกำลังใจที่จะพัฒนาต่อไปได้ คนที่ผลักดันก็คือพี่สาวค่ะซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันเขาจะสนับสนุนอยากให้หนูเข้ามาทำงานตรงนี้เวลามีโอกาสหรือมีคนติดต่อมาเขาก็จะสนับสนุนแต่ว่าหนูไม่ค่อยกล้าไปทั้งที่คนอื่นเขาอยากจะได้โอกาสนี้แต่เขาไม่ได้ พอเราได้โอกาสแล้วก็ลองทำก่อน ถ้าเกิดว่าไม่ชอบจริงๆ เดี๋ยวเราก็จะรู้ตัวเองแหละ คือพอมันไม่ใช่พอเราทำมันแล้วเราก็ต้องออกมาจากตรงนั้นเองถ้าเกิดว่าฝีมือทางการแสดงของเราไม่ได้เราก็ไปต่อไม่ได้เอง แต่ถ้าเรารักคือถ้าทุกคนรักในสิ่งที่ตัวเองทำมันก็จะไปต่อได้เอง
ตกหลุมรักการแสดง
ตอนนี้หนูก็รักในการแสดงแล้วค่ะ (ยิ้ม) ไม่ไปไหนไม่ออกแล้วอยู่แล้วแฮปปี้มาก เล่นละครมาจริงๆ จะเล่นแบบรับเชิญนิดๆ หน่อยๆ ซะมากกว่า ที่เล่นเต็มๆเรื่องก็คือ “คุณย่าดอทคอม” “บัวแล้งน้ำ” หลังจากนั้นก็ได้มาเซ็นสัญญากับทางช่อง 7 และเล่นเต็มตัวเรื่องแรกในเรื่อง “มัสยา” ต่อด้วยซิทคอม“รักกันมันแจ๋ว” แล้วก็ละครเรื่อง “พันธกานต์รัก” ที่กำลังออนแอร์อยู่หนูว่ามันสนุกนะคะกับการที่เราได้มาสวมบทบาทเล่นเป็นคนนั้นคนนี้ แต่บางทีถ้ามันเป็นละครดราม่าก็จะยากนิดหนึ่งคือวันนั้นเราก็จะเล่นมากไม่ได้เพราะไม่งั้นมันจะหลุดจะยากหน่อยกับบทดราม่า แต่ถ้าเป็นซิทคอมนี่จะชิลมากค่ะชอบมาก เพราะว่าคล้ายๆ ตัวเองด้วย หนูเป็นคนเฮฮาเป็นคนตลกเล่นมุข เวลาคนเล่นมุขกันหนูก็ชอบ เป็นคนอารมณ์ดี ก็เริ่มได้เล่นแล้วค่ะสำหรับบทแบบนี้ก็คือจากเรื่อง “คุณย่าดอทคอม” “รักกันมันแจ๋ว” และล่าสุด “พันธกานต์รัก” ก็จะเล่นเป็นเพื่อนสนิทกับนางเอก เป็นสาวโก๊ะๆ เป็นนักศึกษา ในเรื่องจะคู่กับ “พี่แหนม-รณเดช” ก็สนุกดีกับบทบาทตลกโก๊ะๆ คือพอหนูได้มาเล่นซิทคอมก็เลยทำให้หนูเริ่มชอบ
กับบ้านหลังใหญ่ ช่อง 7
พอดี “พี่แหม่ม” ผู้จัดการพาเข้ามาแคสที่ช่อง 7 ตอนแรกก็แอบหวังทุกครั้งที่ไปแคสก็หวังทุกที่คือเราก็ตั้งใจทำให้เต็มที่ที่สุด แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรหนูเป็นคนที่ไม่ดราม่ามาก ไม่ใช่ว่าจะต้องซีเรียสกับมันมาก หรือถ้าเป็นเรื่องที่ต้องซีเรียสกับมันมากก็จะซีเรียสนิดเดียวคิดกับมันไม่นานแต่ถ้าเป็นคนอื่นเขาก็จะคิดมาก หนูจะเต็มที่แค่วันเดียวตื่นมามันก็เป็นวันใหม่แล้ว ถ้าเราได้งานเราก็ดีใจแต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าเราก็ยังมีอย่างอื่นให้ทำ เราก็หาอย่างอื่นทำ แต่พอเราได้รับโอกาสนั้นก็รู้สึกดีใจค่ะ ตื่นเต้นเหมือนกันมันก็จะเป็นอีกสเต็ปหนึ่งคือจะมีเครียดบ้างแต่ว่าเครียดคนละแบบเหมือนว่าเราได้รับโอกาสนั้นแล้วเราจะทำได้ไหมนะ
แรงสนับสนุนจากครอบครัว
ที่บ้านหนูไม่ค่อยซีเรียสกับทุกอย่างคือแค่ขอให้เราเป็นคนดีไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนพึ่งพาตัวเองได้ แต่หนูจะเป็นคนที่ทุกๆ ปีหนูจะตั้งเป้าหมายไว้ว่าปีนี้เราได้ทำอะไรที่มันประสบความสำเร็จหรือยัง คือไม่ต้องสำเร็จมากแต่แค่เราตั้งเป้าไว้แบบนี้แล้วเราก็ทำได้มันก็จะโอเคแล้ว ที่บ้านก็ดีใจด้วยค่ะแต่ถ้าไม่ได้เขาก็ไม่บังคับว่าต้องผลักดันอะไรขนาดนั้นเขาบอกว่าถ้ารักสิ่งไหนก็ให้ทำสิ่งนั้น เพราะว่าถ้าเราชอบอะไรแล้วทุกอย่างมันก็จะทำออกมาได้ดี แต่ก็แอบมีเห่อกันนิดหนึ่งเวลาที่เห็นผลงานเรา คุณพ่อหนูเสียไปแล้ว ก็จะมีคุณแม่กับอาม่าค่ะที่เห่อหน่อยแต่ว่าตอนนี้อาม่าเสียแล้วก็เลยจะมีแต่คุณแม่ที่แอบลุ้นไปกับเรา แต่เขาจะไม่ค่อยออกสื่อเท่าไหร่ เขาจะมีความโลกส่วนตัวซึ่งเขาก็ดีใจแหละค่ะ จะไม่ค่อยเห็นคุณแม่หนูตามมาที่กองเหมือนคุณแม่นักแสดงคนอื่นๆ (ยิ้ม) ที่เขาจะมีพ่อ-แม่มาเฝ้า แม่จะส่งคนรถมาช่วยดูเรามากกว่าแล้วก็จะฝากพี่แหม่มให้ช่วยดูมากกว่า คือแม่เขาเป็นคนขี้อายค่ะทำตัวไม่ถูกว่าจะต้องอะไรยังไง ก็คงจะเหมือนหนูสมัยก่อนที่ก็ขี้อายเหมือนกัน เขาคงไม่เคยที่จะอยู่ตรงนี้แล้วก็ไม่ได้เปิดใจที่จะเข้ามาตรงนี้ต้องปรับตัวเพื่อตรงนี้อะไรแบบนี้ค่ะ เคยพามากองตอนนั้นที่หนูประสบอุบัติเหตุขาหักแล้วหลังจากนั้นแม่ก็ยังไม่ได้มาอีกเลย แม่เขาก็ตื่นเต้นกับการทำงานของเราเขาขี้อายมากก็เลยไม่กล้าที่จะมาตรงนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องมาอยู่ตรงไหนนั่งตรงไหนได้ เดี๋ยวไปเกะกะหรือเปล่า แต่เขาจะคอยถามตลอดว่าวันนี้มีถ่ายไหมมีงานไหมพรุ่งนี้ทำอะไรจะคอยเตือน
ความรู้สึกในวันนี้
ก็รู้สึกภูมิใจนะคะจากตอนเด็กที่หนูก็เล่นๆของหนูปกติธรรมดาแต่พอเราเริ่มโตเราก็เหมือนโฟกัสในจุดจุดหนึ่งแล้วก็ต้องจริงจังแล้วก็รู้สึกว่าภูมิใจที่อย่างน้อยเราก็ทำให้แม่เขามีเรื่องได้ไปพูดคุยกับเพื่อนๆ อย่างน้อยก็มีเรื่องที่น่าภูมิใจนะไม่ใช่เล่นๆ ตลกโก๊ะๆ ไปวันๆ เริ่มมีคนมาติดตามมาชื่นชอบเรา มีแฟนคลับ (ยิ้ม) ตอนแรกก็รู้สึกแปลกๆ นึกถึงสมัยที่ตัวเองเวลาชอบดาราก็จะตามดูตามเชียร์เขา วันหนึ่งเราได้มาอยู่ในจุดนี้แล้วมีคนมาชอบเราก็รู้สึกดีใจ เรามีแฟนคลับแล้วเหรอ แอบภูมิใจในตัวเองนิดหนึ่งค่ะ ก็ขอบคุณทุกคนนะคะฝากติดตามลิเบียในละครเรื่องต่างๆ ที่กำลังออนแอร์ไปเรื่อยๆ ขอบคุณที่รักกันและเอ็นดูหนูก็จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ค่ะ
กุหลาบสีเงิน