เรียกได้ว่าตอนนี้คดีความยังคงอยู่ในกระบวนการของกฏหมาย สำหรับกรณีของนักร้อง “หนุ่ม กะลา” ในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ เพลง “ยาม” ของวงลาบานูน ตั้งแต่ปี 2560 โดยมีบริษัท เพาเวอร์ เทรเชอร์ จำกัด หรือ ค่ายเพลงมิวสิคบักส์ เป็นเจ้าของเพลงดังกล่าว ทำให้เจ้าตัวต้องเดินสายขึ้นศาลทั่วประเทศ เพราะมีการแจ้งความไว้ 44 จังหวัด พร้อมกันนี้มิวสิคบักส์ยังได้เรียกค่าเสียหายรวมแล้วเป็นจำนวนเงิน 60 กว่าล้าน ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจและอัพเดทคดีความกับสื่อมวลชน ในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “Cassette Festival” ณ ตึกแกรมมี่ฯ
โดยเผยว่า “ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการขึ้นศาลบ้างแล้ว ไปขึ้นศาลทั้งหมด 17 ที่ เรื่องส่วนใหญ่จะอยู่ที่อัยการ ยังเหลือที่ต้องไปส่งตัวตำรวจอีก 2 ที่ เป็นที่กรุงเทพฯ หมดเลย พรุ่งนี้จะไปที่แรกแถวลาดกระบัง ถามว่า 17 ที่ที่ผ่านมาใช้เวลานานแค่ไหน ใช้เวลาหลายเดือนครับ เดินทางไปขึ้นศาลทั่วประเทศ ขั้นตอนมันเยอะมากที่ใส่กุญแจมือจริงๆ มันเป็นขั้นตอนของทางอาญา ทุกคนที่ไปขึ้นศาล โดยทางอาญาก่อนจะขึ้นศาลต้องโดนล็อคกุญแจมือ บางศาลจะมีห้องกักกันตัว หลายๆ ศาลก็จะเป็นคุกจริงๆ ซึ่งผมก็จะโดนคุกบ้าง โดนห้องกักกันตัวบ้าง โดนใส่กุญแจมือล่ามกับคนอื่นๆ บ้าง ที่ลงรูปก็ไม่ใช่โดนครั้งแรกครับ ถามว่าเรารู้สึกอย่างไร เพราะเราไม่ใช่ผู้ร้าย เอาจริงๆ ตอนโดนครั้งแรกมันสับสนครับ จะว่าอายก็ไม่เชิง จะว่าทำหน้าไม่ถูกก็ไม่ใช่ เพราะตอนเราเดินเข้าไปในคุก แล้วมีนักโทษอยู่ในคุกจริงๆ คือพี่ในคุกที่จำเราได้ เขาพยายามทักทาย มันคือสถานที่ที่เขาทักมาแล้วเรายิ้มระรื่นไม่ได้ หรือโบกมือมันไม่ได้ ผมไม่โอเคเลย แล้วคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ผมเสียใจมากที่สุดในชีวิตเรื่องนึงครับ
จริงๆ ตั้งแต่เกิดคดีมันสอนให้ผมมองคนอีกแบบนึง มันสอนให้ผมแกร่งขึ้นนะ ทุกครั้งที่เวลาผมเดินในห้องกักกันตัวหรือในคุก มันก็จะทำให้ทุกครั้งที่ออกมาใจเราแข็งแรงขึ้น ถามว่าเหนื่อยหรือท้อมั้ย ท้อครับ แต่ตอนหลังๆ นี้ผมว่าเริ่มชินบ้างแล้ว จะมีสิ่งที่ไม่ชินเลยก็คือ การไปขึ้นศาลลึกๆ จะมีผวาบ้างนิดหน่อย เพราะเราไปก็ลุ้นว่าขอให้เราไม่ต้องไปอยู่ในคุก เราลุ้นว่าขอให้ศาลนี้ไม่ต้องล็อกกุญแจมือ และพ่วงกุญแจมือเรากับคนอีก 5 คน เดินผ่าฝูงชนไปขึ้นศาล เราก็ลุ้นแบบนั้นทุกครั้งผมจะเล่าให้ฟังว่า ผมเคยใส่สูทไปขึ้นศาลแรก เพราะผมคงดูละครมาก ขึ้นศาลต้องใส่สูทดีๆ ผมไม่รู้เลยว่ามันมีขั้นตอนของการกักกันตัว ไม่รู้เลยว่ามีขั้นตอนของการใส่กุญแจมือ ผมไม่โอเคเลย มากกว่าการใส่ล็อคกุญแจมือ คือการล็อคกุญแจมือพ่วงกับคนอีก 5 คน แล้วก็มีญาติๆ ประชาชนเดินดูผมอยู่”
จริงๆ ตามกฎหมายบุกจับไม่ได้นะครับ แต่ถ้าผมลงเวทีเมื่อไหร่ผมโดนรวบได้ ตามกฎหมายเป็นแบบนั้นนะครับ ทุกวันนี้ผมยังต้องให้ทนายกับผู้จัดการเฝ้าระวังเรื่องหมายจับอยู่ทุกวัน อย่างล่าสุดผมกลับจากฮ่องกงมาก็ไม่ได้นอน ต้องบินต่อไปหาดใหญ่เพื่อไปสกัดหมายจับ ไปทำตามขั้นตอนของศาล เสร็จแล้วตอนเย็นก็บินไปเล่นคอนเสิร์ตที่เชียงใหม่ในวันเดียวกันหลังๆ เริ่มชิน แต่ว่าเราเซฟด้วยการเริ่มโทร อย่างจะมีงานเล่นพรุ่งนี้วันนี้เราก็เริ่มโทรไปถามตำรวจ ถามอัยการว่าพร้อมฟ้องมั้ย ฟ้องหรือยัง ยังไม่ฟ้องใช่มั้ย โอเคครับ เราก็จะได้ทำงานอย่างสบายใจ”
จริงๆ ก็มีความเสี่ยงลงจากเวทีแล้วจะถูกบุกจับ มีความเสี่ยงมาก แต่ว่าเราทำตามหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุด เพราะว่าคิวงานของผมเยอะมาก เราก็ความกรุณาจากพี่ๆ ที่ศาลและอัยการว่าผมมีคิวอย่างนี้ ผมขอไปอย่างนี้ได้มัย บางที่เห็นใจก็ดีไป แต่ว่าบางที่คุยไม่ได้ต้องเจียดเวลาตอนเช้าก่อนโชว์บินลงไปตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะจบลงยังไง ตอนนี้ก็คงต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของศาลก่อน ซึ่งก็น่าจะอีกพักหนึ่ง ผมเป็นคนที่ไม่ใช้ของปลอม ไม่ซื้อของปลอม เพราะผมคือคนผลิตงานและผมเคารพเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ครั้งนี้ที่ผมพลาดไป ผมก็ยอมรับผิด น้องๆ คนไหนที่กำลังละเมิดอยู่ ผมคิดว่าจริงๆ ไปขอให้ถูกดีกว่า ถ้าเจอแบบผมมันวุ่นวายจริงๆ
ตอนแรกที่เจอคดีผมคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ก็ชิลว่าพี่เคลียร์กันมั้ย ผมจ่ายตังค์พี่เท่านี้ แล้วก็จบ พอยิ่งนับวัน พอยิ่งขึ้นไปสู่ศาล เราจะยิ่งเห็นเลยว่าเราเหมือนอาชญากรเลย ล่าสุดผมไปเข้าคุกมา ผมต้องไปติดอยู่ร่วมกับพี่ๆ หลายคนที่ถูกโทษตัดสิน 28 ปี คดีร้ายแรงหนักๆ เลย ผมมองตัวเองแล้วรู้สึกว่าละเมิดลิขสิทธิ์มันร้ายแรงขนาดนี้จริงๆ เหรอซึ่งผมขึ้นศาลใหญ่ๆ มาแล้วครั้งหนึ่ง ก็ยังไม่มีการลดค่าเสียหาย ก็ยังเป็นทีละ 5 แสน รวมแล้วน่าจะประมาณ 20 กว่าล้าน แล้วมีคดีแพ่งที่ฟ้องผมอีก 40 กว่าล้าน ซึ่งก็ต้องเคลียร์กันต่อไป ถามว่ามันเลยจุดไกล่เกลี่ยมาแล้วใช่มั้ย มันเลยมาแล้ว มันอยู่ในจุดที่เรียกสองฝ่ายมาคุยกัน แล้วทางค่ายก็ลงมาคุยให้ด้วย
เท่าที่ผมไปคุยมาคือยังไม่มีการลดหย่อนยังเท่าเดิม ซึ่งผมมีการคุยการเจรจาตั้งแต่วันแรก ข่าวที่ออกไปหรือการที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นคนให้ข่าวเป็นเรื่องไม่จริงหมดเลย ผมมีหลักฐานทั้งหมดในการคุย คุยมาตั้งแค่วันแรกเลย ไม่เคยหนีเลย ถ้าเกิดไปถามทางตำรวจ ทางศาลจะรู้ว่าผมทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ผมโทรทุกครั้งทุกที่เลย ไม่เคยต้องหลบๆ ซ่อนๆ ในการขึ้นเล่น สิ่งที่ผมกับผู้จัดการคอยเตรียมการโทรไปขอความกรุณากับศาลกับทางตำรวจครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี