วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / บันเทิง
Star Retro : ‘ต้อม เรนโบว์’  สีสันจากวันวาน ส่องสว่างถึงวันนี้

Star Retro : ‘ต้อม เรนโบว์’ สีสันจากวันวาน ส่องสว่างถึงวันนี้

วันอาทิตย์ ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2562, 06.00 น.
Tag : Star Retro ต้อม เรนโบว์ พีระพงษ์ พลชนะ
  •  

Star Retro สัปดาห์นี้ ได้โอกาสพิเศษพูดคุยกับ ต้อม เรนโบว์ หรือ พีระพงษ์ พลชนะ นักร้องในตำนาน ที่ครองใจผู้ฟังทุกเพศทุกวัย ด้วยเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่มีเสื่อมคลาย ทำให้วันนี้เขายังสนุกกับการจับไมค์ แต่การเวียนว่ายบนถนนสายดนตรีล้วนมีขึ้นมีลง วันนี้จึงชักชวนกันมานั่งลงย้อนเส้นทางแห่งวันวาน

เจาะเวลาย้อนอดีต


ผมเป็นคนจังหวัดนครพนมครับ เรียนจบมัธยมที่นครพนม แล้วก็ไปเรียนต่อที่จังหวัดอุดรธานี คุณพ่อผมเป็นนักดนตรีอยู่แล้ว ผมเองก็เล่นกีตาร์เป็นอยู่แล้ว แต่พ่อให้เรียนอิเล็กโทน เพราะตอนนั้นเขาบอกว่าอิเล็กโทนเป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่สามารถเลี้ยงดูชีวิตตัวเองได้ เล่นคนเดียวหากินได้สบาย แต่สุดท้ายพอผมเรียนจบ อิเล็กโทนเริ่มไม่ค่อยจะนิยมแล้ว และเริ่มฮิตดนตรีเป็นวง เราก็อ้าว..เห็นท่าไม่ดี จากที่เล่นอิเล็กโทนอยู่ดีๆ ก็ย้ายตัวเองกลับมาเล่นกีตาร์เหมือนเดิม แล้วก็ตั้งวงกัน ประกวดวงดนตรีที่อุดรธานี ตอนนั้นมีวงที่สมัครแข่งขัน 100 กว่าวง วงเราได้ที่ 4 แต่เขาให้ถ้วยรางวัลแค่ 3 ตำแหน่งแรก (หัวเราะ) แต่จากตรงนั้น ก็จุดประกายงานด้านดนตรีให้กับผม

ดนตรีเลี้ยงชีวิต

จากนั้นผมเข้ากรุงเทพฯ ได้เล่นในคลับบาร์ญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดในพัฒน์พงศ์ตอนนั้น เล่นอยู่ที่นั่นเป็นอาชีพเลย เดือนหนึ่งได้เงินประมาณ 7,000 กว่าบาท ซึ่งสมัยนั้นถือว่าเยอะมาก เพราะเป็นคลับที่ดังมากช่วงนั้น ก็เล่นอยู่ตรงนั้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าปีที่ 3 วงอินทนิลเขาแตกวง คือตอนที่เขาออกเพลงชุด “สวรรค์เป็นใจ” หลังจากนั้นก็แยกวง สมาชิกคนหนึ่งที่เป็นมือกลอง หัวหน้าวงอินทนิล เขารู้จักกับผม เพราะเป็นคนบ้านเดียวกันคือนครพนม เขาก็มาหาผม เห็นเราเล่นกีตาร์เขาก็สนใจ เพราะกำลังจะฟอร์มวงใหม่พอดี ผมก็โอเคตอบตกลงทำอัลบั้มกัน ก็กลายเป็นสมาชิกอินทนิล อยู่พักหนึ่ง ซึ่งผมทำอยู่ชุดเดียวนะ เป็นอัลบั้มสุดท้ายของวงอินทนิล

กำเนิดวงดนตรี

หลังจากทำอัลบั้มของวงอินทนิล ก็มีสมาชิกบางคนติดทหาร วงเลยต้องยุบอีก คราวนี้ก็มานั่งคิด จะทำยังไง เลยลองหาสมาชิกใหม่มารวมตัวกันได้ ป๋อง (เรวัติ สระแก้ว), อุ๋น (ธีระศักดิ์ วดีศิริศักดิ์) แล้วก็มี อี๊ด (สุชาติ จันทร์ต้น), พร (อัมพร ชาวเวียง) เข้ามาผสม ตอนแรกก็จะตั้งเป็น อินทนิล ตอนหลังคิดกันว่าเปลี่ยนเป็นวงใหม่เลยดีกว่า ตอนนั้นประมาณปี 2526-2527 ก็เลยเซ็นสัญญากับ RS ในนามของวงที่ชื่อว่า “สายรุ้ง” เพราะพวกเราชอบสีสันของมัน และสีก็มีมิติด้วย แต่สักพักพอเราตั้งชื่อวงว่า “สายรุ้ง” กลายเป็นว่าไม่เข้ากับสถานการณ์เพราะศิลปินในช่วงนั้น จะมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษกัน จากสายรุ้ง ก็เลยเปลี่ยนเป็น “เรนโบว์” และหลังจากนั้นเรนโบว์ก็ออกอัลบั้มมาเรื่อยๆ ชุดที่ 1-2-3-4 เรื่อยมา ซึ่งพอออกชุดแรกก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ คิดว่าเอ๊ะ หรือว่าจะกลับไปเล่นในคลับญี่ปุ่นเหมือนเดิม ช่วงนั้นคือเป็นช่วงที่ไม่มีตังค์เลย ลำบาก เพราะเมื่อก่อนยังมีเงินเดือนจากการทำงานที่คลับ ก็รู้สึกท้อเหมือนกันนะ แต่ปรากฏว่าชุดที่ 2 เพลง “ความในใจ” ดัง คราวนี้เลยยาวเลย กลายเป็น ต้อม เรนโบว์จนกระทั่งปัจจุบันนี้

‘เรนโบว์’ แจ้งเกิดอย่างภาคภูมิใจ

ช่วงที่พีคที่สุด คงเป็นชุดที่ 2 ของ เรนโบว์ เพลง “ความในใจ” ครับ ช่วงนั้นจะมีจดหมายเข้ามาหาเราวันหนึ่ง 300-1,000 ฉบับเลย แล้วตอนนั้นผมอยู่อพาร์ตเม้นท์ คนที่รับจดหมายที่อพาร์ตเม้นท์เขาบอกเบื่อเลยมาเยอะมาก (หัวเราะ) คือช่วงนั้นเขาก็จะติดต่อกันทางจดหมาย ช่วงนี้ก็กลายเป็นโซเชียลฯ เป็นคอมเม้นท์ต่างๆ แต่ตอนนั้นเป็นจดหมายที่ส่งเข้ามามากมาย ทำให้เรารู้ว่าคนรู้จักเราอย่างแพร่หลายนะ เริ่มรู้ว่าตัวเองดัง แต่ไม่มั่นใจว่าดังแค่ไหน แต่ปรากฏว่ามีโอกาสไปเล่นที่โคราช แล้วตอนเราไปโคราชก็ไม่รู้เลยว่าเพลงเราติดอันดับหนึ่งที่นั่นไปนานแล้ว ก็ไปเล่นตามปกติ พอถึงเวลาเล่นปุ๊บร้องเพลงความในใจ เท่านั้นแหละ เรารู้เลยว่าเราดังมาก เพราะพื้นที่ข้างๆ เวที ที่เขากั้นไว้เป็นที่เก็บบัตรปรากฏว่าคนพุ่งออกมาแล้วก็กรี๊ดๆ และร้องเพลงตามเราได้ หลังจากนั้นก็ออกอัลบั้มเรื่อยๆ ประมาณ 8 อัลบั้ม แต่อัลบั้มพิเศษจะค่อนข้างเยอะ รวมๆ สรุปแล้วก็ออกมาทั้งหมดเกือบ 20 อัลบั้ม แต่ก็ยอมรับนะว่าจนกระทั่งทุกวันนี้ ยังหาเพลงที่ดังเท่ากับเพลงความในใจไม่ได้นะ แต่ว่าแฟนเพลงก็ยังโอเค ให้การตอบรับอยู่เสมอ ต้องขอบคุณมากๆ ครับ

ชิมลางงานแสดง

เคยครั้งหนึ่งมั้งครับ เพราะตอนนั้นเราเป็นศิลปินอยู่ แล้วละครไม่เคยดู แต่จับเราไปเล่น ซึ่งเราปฏิเสธแล้วนะ แต่ผู้ใหญ่ให้ลองเล่นเป็นประสบการณ์ ก็เล่นไม่ได้หรอก พยายามแล้วล่ะ แต่รู้ว่าไม่ใช่ทางเรา ก็เล่นเรื่องเดียวจอด(หัวเราะ) เราคงไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้จริงๆ

งานเพลงอิ่มตัว เติมเต็มชีวิตครอบครัว

พอเพลงอิ่มตัวปุ๊บ ก็วางแผนว่าจะไปอยู่ต่างประเทศ เพราะภรรยาเป็นคนฝรั่งเศส ส่งลูกไปเรียนก่อน ปีแรกไป-กลับฝรั่งเศสตลอด จากนั้นก็ไปอยู่ด้วยกันที่ฝรั่งเศส ปรากฏว่ามีงานติดต่อเข้ามา เพราะเข้าสถานทูตไทยที่ปารีส เพื่อจะไปแจ้งเกิดลูกคนที่สอง คนไทยที่นั่นก็เห็นว่าเป็นผม ต้อม เรนโบว์ แฟนเพลงเราทั้งนั้น เขาก็ขอเบอร์เราไว้ เผื่อเชิญมาร่วมงานต่างๆ เพราะที่นู่นเขาจะมีงานวัดเยอะ และใหญ่มาก เหมือนวัดเป็นจุดศูนย์กลางของคนไทยที่นั่น แล้วปรากฏว่าเขาก็เรียกเราไปจริงๆ ปีแรกนี่คนล้นหลามมาก และสื่อก็มีทำข่าวและคนไทยที่อยู่ละแวกนั้นก็เห็นว่าเราอยู่ที่นั่นจริงๆ เขาก็เริ่มติดต่อเราไปร้องแพลง ทั้งที่ฟินแลนด์ ฮอลแลนด์ เยอรมนี ทั่วยุโรปฝั่งนั้น เรียกว่างานเข้ามาตลอด จนกระทั่งอยู่ฝรั่งเศสยาว 11 ปี และมีลูกเพิ่มอีกคนหนึ่งรวมเป็น 3 คน

วิถีชีวิตของครอบครัว

ชีวิตคู่กับภรรยา (แอนนา พลชนะ) และลูกๆ ราบรื่นดีครับ เขาดูแลผมตลอด เพราะผมเองเป็นคนแปลกๆ ติสท์นิดหนึ่ง เอาใจยาก แล้วทำอะไรไม่ค่อยเป็น เขาจะช่วยทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง เราเข้าใจเขา แล้วเขาก็เข้าใจเรา ช่วยกันดูแลกันและกัน ส่วนลูกๆ ตอนนี้คนโตชื่อ “น้องแพนพีระนา” ที่มาของชื่อก็คือชื่อผม พีระพงษ์ ผสมกับ ภรรยา แอนนาอายุย่าง 27 ปี เรียนจบและทำงานแล้วอยู่ต่างประเทศ เขาเป็นนักเรียนทุนของฝรั่งเศส ซึ่งเขาได้ทุนแบบที่ไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่เลยนะ เขาเก่งเรื่องภาษา พอเข้ามหาวิทยาลัยเขาก็กู้เงินเรียนเองจนจบ ส่วนคนที่สอง “น้องทอมมี่” เพิ่งส่งไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสเหมือนกับพี่สาวเขา เข้าปีแรกเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ช่วงแรกก็เป็นห่วงนะ เพราะไม่เคยจากอกพ่อแม่เลย 18 ปี ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน แต่เขาก็บริหารจัดการเอง เป็นสไตล์เด็กฝรั่งเศส และคนสุดท้อง “น้องเตโอ้” ตอนนี้เรียนอยู่เมืองไทย อยู่ด้วยกันกับพ่อแม่ เพราะเขาเป็นเด็กพิเศษที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดครับ

รับมือกับอาการออทิสติก

เราก็คิดในแง่ดี คิดบวกไว้ จะได้สบายใจ ช่วงแรกคุณแม่เขาก็เริ่มโทษตัวเองว่า อุ้มท้องมาไม่ดี คลอดมาไม่ดีหรือเปล่า อะไรถึงทำให้ลูกเป็นแบบนี้ ผมก็ต้องคอยแนะนำสอนวิธีคิดให้เขา ซึ่งเขาก็เริ่มดีขึ้น เลยบอกว่าถ้าคุณอ่อนแอ ลูกคุณก็ยิ่งอ่อนแอกว่านะ คุณต้องอยู่กับเขา ซึ่งเวลาเขาอยู่กับเรา เขาก็แฮปปี้ อารมณ์ดีในแบบเขา เราไม่เข้าใจเขาหรอกในความพิเศษของเขาข้างใน อย่างเรื่องเรียนภาษาไทย เขาเขียนได้ อ่านออกหมดไม่ว่าจะเป็นคำราชาศัพท์ รู้หมด ผมไม่เคยสอนเลยนะแต่เขาศึกษาผ่านหนังสือและอินเตอร์ฯ รวมทั้งสิ่งที่ผ่านหน้าเขา ส่วนภาษาอังกฤษนี่เป๊ะเลยเรียนรู้ได้เร็วมาก ดูเองเขียนเองได้ทุกอย่าง ก็เลยรู้สึกว่าดีใจโอ้โห...เทวดาส่งเด็กพิเศษสุดๆ คนนี้มาเกิดเป็นลูกเรา

สุขภาพร่างกาย

สุขภาพผมโอเคดีครับ แต่น้ำหนักขึ้นนิดหน่อย เพราะปีที่แล้วไปฝรั่งเศส ร้อนมาก เลยดื่มเบียร์เย็นๆ เยอะไปหน่อย (หัวเราะ) ผมซื้อเก็บไว้ที่อพาร์ตเม้นท์ลูกสาวบ้าง ลูกชายบ้าง คิดว่าจะมีคนกินด้วย ปรากฏว่าไม่มี เลยกินคนเดียว กลับมาอ้วนเลย (หัวเราะร่วน) ช่วงนี้ก็ออกกำลังกายด้วยการฟิตเนสให้ลดลงบ้าง อาทิตย์ละ 3-4 วัน วิ่ง เดินเร็ว ก็ต้องออกกำลังกายตลอด เพราะเรากินเยอะ ส่วนโรคต่างๆ ไม่มี จะมีก็แต่เป็นไซนัสนิดหนึ่ง เพราะด้วยความแก่ตัวลงไปของเรา และการใช้เสียงเยอะด้วย แต่ผมก็มีวิธีวอร์มอัพที่ถูกต้อง จึงสามารถทำงานได้ปกติ ไม่มีปัญหากระทบเรื่องงานครับ

แพลนบั้นปลายชีวิต

ผมก็คงหาอาชีพเสริมต่อไป และคิดอยู่ว่าจะทำอะไร อาจจะเป็นร้านอาหารที่ฝรั่งเศส หรือจะเป็นที่ประเทศไทย คิดอยู่ครับ คือเตโอ้เรียนอีก 5 ปี ก็จะจบ High School ในไทย ต่อไปจะยังไงก็ต้องดูว่าศักยภาพของเขาจะเป็นไปถึงขั้นไหนแต่เราก็ Stand By ไว้อยู่ตลอดครับ

เตรียมขึ้นเวทีครั้งประวัติศาสตร์

ผมกำลังจะขึ้นคอนเสิร์ต “His & Her Present รวมดาว 18 กะรัต The Concert” ที่ ไบเทค บางนา (ฮอลล์ 106) ในวันที่ 27 เมษายนนี้ อยากจะให้แฟนเพลงได้มาชมกัน เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่ทั้งสองตำนานมารวมกัน คือ“18 กะรัต” กับ “รวมดาว” สนุกเข้มข้นแน่นอน ทั้งการแสดง เพลง อะไรต่างๆ ที่เราเตรียมพร้อมมาให้กับทุกคน ไม่อยากให้พลาดไปชมกันครับ

แฟนเพลง “ต้อม เรนโบว์” นัดรวมพลกันได้เลยค่ะ เพราะงานนี้คุ้มจริงๆ สำหรับแฟนเพลงวัย 50 อัพ ที่ห่างหายจากสีสันความสนุกของยุคนั้นมาเนิ่นนาน

กุหลาบสีเงิน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ตัวมัมพันธุ์ใหม่!!! ได้ทีกระทืบซ้ำ‘สายสีน้ำเงิน’ สอนมารยาททางการเมือง

'ไพบูลย์'เชื่อมติแพทยสภา เป็นหลักฐานสําคัญ ชี้ชะตา'ทักษิณ' 13 มิ.ย.วันศาลไต่สวน

ลอตแรกครบแล้ว! 'กกต.-DSI'ติดหมายเรียก'สว.พิศูจน์-สว.พิบูลย์อัฑฒ์'

มัลดีฟส์ลุกเป็นไฟ! 'มุก วรนิษฐ์'อวดหุ่นเซ็กซี่ในชุดบิกินี่สดใส

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved