แอ็ป-ธิดาศิริ ด่านวรรธนกุล หรือ แอ็ป-สตาช่า ด่านสิทธิเตโชดม อดีตนักร้องค่าย GMM Grammy ที่มีผลงานแจ้งเกิด “คำสารภาพของนักศึกษาฝึกงาน” ที่ดึงดูดนิสิตนักศึกษาได้เป็นอย่างดีกับแนวเพลงใหม่ในเวลานั้น “โมเดิร์น ลูกกรุง” ทั้งยังได้หันมาทำธุรกิจ Music Event ให้กับโรงแรมห้าดาวชั้นนำทั่วประเทศ โดยเฉพาะ DaytimeEntertainment อย่าง Pool Party ที่ประสบความสำเร็จตลอด 7 ปี และธุรกิจเช่า Electric Scooter “Scoota” และมอเตอร์ไซค์ “MadBike”

ซึ่งล่าสุดเธอก็เพิ่งได้รับรางวัล Global Expansion Track ในงาน Dtac Accelerate Batch 7Scooter โดยเธอมีสโลแกนว่า “เราจะมีความสุขกับทุกๆ สิ่งที่เราบริหารให้คนของเราทำงานอย่างมีความสุข และประสบความสําเร็จ” เรียกได้ว่าเธอเป็นนักธุรกิจสาวที่เซ็กซี่คนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีดีแค่เพียงหน้าตา แต่ยังมีความสามารถรอบด้าน วันนี้เรามารู้จักเธอกันแบบเจาะลึก

เริ่มสนใจร้องเพลงตั้งแต่เมื่อไหร่

เราร้องเพลงตั้งแต่ 4 ขวบ บนเวทีงานของโรงเรียนเป็นต้นมา คุณพ่อเปิดเพลงร็อกเสียงดังลั่นบ้านทุกวัน ส่วนเราชอบฟังเพลงสากลเพราะที่บ้านมีดาวเทียม เราสนใจดูแต่ช่อง Channel [V] ตอนนั้นชอบ Michael Jackson, Madonna, Queen เป็นต้น เราโตมากับการถือไมโครโฟนยืนบนเวที เราอ่านกลอน นำสวดงานไหว้ครู พากย์นิทาน นำร้องเพลงชาติ เป็นพิธีกร เป็นนักร้องนำของวงดนตรีประจำโรงเรียน ถึงมหาวิทยาลัย เราเป็น Leader ตลอด วันหนึ่งเราไปเดินห้างแล้วมีแมวมองมาเจอ ติดต่อเราไปประกวดนางสาวไทย (Miss Thailand) ปีเดียวกับพี่บุ๋มและได้เข้ารอบในทุกเวทีประกวด เราเลือกโชว์ความสามารถพิเศษด้วยการร้องเพลง จนวันหนึ่งเราได้ร่วมกับค่ายอินดี้ ร้องในอัลบั้ม 2 เพลง ร้องสดคอนเสิร์ตกลางสยามสแควร์ ถ่ายทอดสดทางทีวี เราเริ่มคลุกคลีกับ
พี่ๆ วงการเพลง ใช้ห้องอัดเดียวกับ Grammy จนวันหนึ่งพี่ที่แกรมมี่ได้ติดต่อนัดเราเข้าพบพี่ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค เราตื่นเต้นมากเพราะ Grammy Grand มีแต่ศิลปินเบอร์ใหญ่สุดของประเทศ พี่เบิร์ด พี่ใหม่ พี่มาช่า พี่ติ๊นาซุป’ตาร์มากมาย และพี่ดี้คือที่สุดของนักแต่งเพลงเมืองไทย วันนั้นพี่ดี้ให้เราลองร้องในห้องอัดเพื่อเช็คว่าสกิลในการร้องของเราเข้ามาตรฐาน Grammy Grand หรือไม่ ตื่นเต้น สรุปเราได้เซ็นสัญญากับ GMM Grammy

ออกอัลบั้มครั้งแรกในชีวิต

จริงๆ ผลงานแรกคือ เพลง “ใจให้ไป” ร้องกับ ชิน-ชินวุฒ อัลบั้ม Big 3 นั่นคือเสียงเรา จากนั้นเรามีอัมบั้มเดี่ยวชื่อ “คำสารภาพของนักศึกษาฝึกงาน” เป็นอัลบั้มแรกที่ลองแนวเพลงผสมผสานความเป็นป๊อปและดนตรีกลิ่นอายไทยลูกกรุง มีความไพเราะสูงภายใต้ MLK (Modern Lukkrung) โดยมีพี่น้อง-อพิสิษฎ์ณ ตะกั่วทุ่ง เป็นโปรดิวเซอร์ ผู้แต่งในอัลบั้มนี้คือนักแต่งเพลงแถวหน้าเมืองไทยทุกท่าน เพลงแรกนี้ได้ขึ้นชาร์ตเพลงอันดับหนึ่งต่างจังหวัดหลายจังหวัดเด็กนักศึกษาจะถูกใจเป็นพิเศษ ตอนนั้นยังเป็นระบบไปสัมภาษณ์ตามคลื่นวิทยุของจังหวัดต่างๆ เราก็จะรู้ว่าเพลงของเราขึ้นชาร์ตประมาณไหน ตอนนั้นไปสัมภาษณ์สื่อที่เมืองภูเก็ต ขณะที่เรานั่งทานข้าว ร้านอาหารเปิดวิทยุ แล้วดีเจประกาศเพลงเราขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่ง เราเหลือบไปเห็นฝาผนังที่ร้านมีโปสเตอร์เราและอัลบั้มเราด้วย เขินเลย

อิทธิพลของ Christina Aguilera

เราชอบ Christina Aguilera อัลบั้ม “Stripped” ชอบความดิบ ดาร์ก อาร์ต และ dirty เราดูดีวีดีคอนเสิร์ต Stripped กว่า 30 รอบ เราชอบพลังของเค้า สกิล เทคนิคการร้อง และการเพอร์ฟอร์มบนเวที ดังนั้นอัลบั้มเดี่ยว อัลบั้มที่ 2 เรามี Stripped เป็น Reference อัลบั้มนี้ชื่อ “Clear” แนว Soul Rockเพลงแรกคือ “ไม่ขอใครกิน” อัลบั้มนี้ เราเป็นCo-Producer และ Song-Writer ร่วมด้วย อัลบั้มนี้ก็รวมศิลปินนักแต่งเพลงขั้นเทพ เราได้พี่หนึ่ง-จักรวารมาเล่นเปียโน พี่หนึ่ง-ณัฐวุฒิ พันธ์สายเชื่อ กลอง และเป็นโปรดิวเซอร์ พี่แว่น-จักราวุธ มาช่วยแต่งเนื้อร้อง พี่โก้-มิสเตอร์แซกแมน กับเสียงแซกโซโฟนเป็นอัลบั้มหนึ่งที่มีคุณภาพแต่ดันออกผิดจังหวะ

จากลุคเด็กผู้หญิงใสๆ มาเป็นสาวเซ็กซี่

แกรมมี่มีโปรเจกท์ Club F โดยพี่เก๋-ชลลดา เมฆราตรี มีพี่หลิว-มนัสวี มาด้วย และพี่ฟิลลิป ยูนคุมภาพรวม อัลบั้มเดี่ยวชิ้นนี้ชื่อ “The Show Must Girl On” เป็นดีวีดีสตอรี่ เราได้เป็นตัวเองในเนื้อเรื่องและใช้เพลงที่เราแต่งด้วย ตอนนั้น Annita และแอนนี่ บรูค ก็ออกพร้อมกัน คนละอัลบั้ม และมีโปรเจกท์เพลงแดนซ์ cover หลายเพลงด้วยกัน เช่น I need SomebodyLove, น้ำเต็มแก้ว เป็นต้น หลังจากนั้นก็มีงานถ่ายแบบแมกกาซีนต่างๆ และเดินแบบติดต่อมาเรื่อยๆ จากตอนแรกเป็นเด็กนักศึกษาฝึกงาน ไม่มีหน้าอก ต่อมาก็มีหน้าอก (หัวเราะ) หนังสือมาติดต่อถ่ายภาพเซ็กซี่เยอะมาก แล้วก็โดนที่บ้านเผาทิ้งหมด พ่อกับแม่ไม่โอเคมากๆ แต่สมัยนั้นกับสมัยนี้ไม่เหมือนกัน ก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้ว ส่วนเพลงเราก็ยัง feat กับศิลปินดังๆ อีกหลายคน ร้องเพลงละคร เพลงโฆษณา แต่งเพลงให้ศิลปินญี่ปุ่น เราเขียน เราร้อง จนจำไม่ได้ว่าเสียงเราไปใช้อะไรบ้าง

เริ่มหันมาสนใจทำธุรกิจได้อย่างไร

เริ่มจากพี่ที่แกรมมี่อีกแล้ว พี่วิชชา ได้ติดต่อกับทาง Heineken โดย พี่ปริญ มาลากุล ณ อยุธยามีงานโปรเจกท์ยักษ์ใหญ่ Sensation จาก Amsterdam เข้ามาประเทศไทยครั้งแรกจัดที่อิมแพ็คฯ แล้วมองหาคนที่สามารถเป็น Coordinator คุยกับลูกค้าหรือสปอนเซอร์ ทำงานร่วมกับพี่ๆ และระหว่างประเทศ เราจึงได้เซ็นสัญญาร่วมทำงานในโปรเจกท์นี้ จากเราเป็นคนเบื้องหน้ายืนบนเวที ตรงจุดนี้ทำให้เราเห็นการทำงานของเบื้องหลัง การสร้างเฟสติวัลระดับโลก ทำให้เราได้เห็นว่างานเบื้องหลังมันเหนื่อยสุดๆ แต่การทำงานแบบฝรั่งถูกจริตเรา ทีมมี Discipline สูง เสร็จโปรเจกท์นี้ ก็มีบริษัทอื่นติดต่อมาเรื่อยๆ บริษัทที่นำ Paris Hilton เข้ามาแสดงในเมืองไทยก็เช่นกัน เราเป็นคนรับผิดชอบเอกสารติดต่อสื่อสารร่างสัญญาทางกฎหมาย และเป็นผู้ดูแลศิลปินชั้นนำของโลกด้วย คนเริ่มติดต่อเราเยอะขึ้น เราได้ร่วมงานกับคนระดับแถวหน้า คนดัง คนใหญ่โต connections เราแข็งแรงเราจึงคิดว่าเราควรเปิดบริษัทอย่างเป็นทางการดังนั้นต้นปี 2013 เราจึงจดทะเบียนบริษัทในชื่อ MAD STASH CO., LTD.

ชื่อใหม่ สตาช่า Stasha

ชื่อ Stasha มีคนเดียวในประเทศไทย เราตั้งเองตามหลักเลขศาสตร์ แปลว่า The Rebirth of Jesusอีกนัยหนึ่งก็คือ มงกุฎแห่งโชคที่สวมเมื่อเกิดใหม่ นามสกุลเราก็เปลี่ยน แต่ยังคงมี ด่าน ไว้ เพราะเราคนจีน แซ่ด่าน เราเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆล้มสะบักสะบอมแล้วฟื้นคืนชีพอย่างมีพลังกว่าเดิมStrong Confident เป็นผู้นำที่แข็งแกร่งทางจิตใจ ไม่มีอะไรทำให้เราโซเซได้ เราภูมิใจกับทุกสิ่งในชีวิตเรา เพราะเราสร้างเอง สตาช่า ชื่อนี้คือตัวตนเราชัดเจน

บริษัท Mad Stash ทำธุรกิจอะไรบ้าง

เริ่มแรกสุดคือนำศิลปิน Ultra Records มา เราจัด Fashion Show สงกรานต์ให้ Rip Curl ประสบความสำเร็จ 2 ปีซ้อน จัดอีเว้นท์โดยใช้ศิลปินที่เราปั้นทุกสัปดาห์ เคยลงทุนลองอะไรใหม่ๆ ขาดทุนหลายครั้งจนจับทางถูก แต่เราไม่เคยหยุด เราอยากทำอะไรสนุกๆ อะไรใหม่ๆ ให้กรุงเทพฯ อยากทำ Daytime Entertainment เราจึงเขียน Proposal และ Event Presentation และ walk in ไปที่ Sofitel So Bangkok ด้วยตัวเอง ทางโรงแรมเห็นว่าน่าสนใจจึงเซ็นสัญญากับเรา เริ่ม SO Pool Party ในเวอร์ชั่นของ Mad Stash โดยมีเพื่อนเซเลบริตี้ เพื่อนนางแบบ-นายแบบทั้งไทยและต่างประเทศมาร่วมงาน ถือว่าคอนเซ็ปต์เรา ตรงกับความ Stylish และ Fashionableของโรงแรม จากตอนแรกค่าเข้า 250 บาท คนมามากจนล้น จนเราต้องปรับราคาขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันราคา 600 บาท

บริษัทเราเข้าปีที่ 7 เรามีศิลปินคุณภาพทั้งไทยและต่างชาติ เราทำ Digital Marketing สร้าง Materials เอง มีงานทุกสัปดาห์ ถือว่าประสบความสำเร็จมาก อย่างงาน SO Pool Party ล้นมากที่สุดช่วงสงกรานต์ประมาณ 1,600-1,700 คน เราจัด Westin Pool Party, Splash Pool Party, Rooftop Event เช่นที่ Marriott Marquis Queen’s Park, Avani Riverside และโรงแรมชั้นนำอื่นๆ มากมาย รวมถึงเฟสติวัลใหญ่ด้วยเช่นกัน ตอนนี้เราขยายในส่วน Digital Marketing ทำโปรโมทให้กับอีเว้นท์อื่นๆ ผ่านเว็บไซต์และช่องทางต่างๆ ของเราด้วย

ธุรกิจใหม่ Scootaและ MadBike

Scoota ก็คือ Electric Scooter สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และ MadBike รถมอเตอร์ไซค์ให้เช่าสำหรับ Expats หรือนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่คนที่เช่า MadBike นอกจากนักท่องเที่ยว เราก็มี Expatsระดับ CEO บริษัทใหญ่ๆ หลายท่าน ส่วน Scootaท่านทูตเยอรมัน Georg Schmidt ท่านก็ใช้ของเรา ท่านใช้จริงไม่ได้สร้างภาพ ท่านเป็นแนว Go Green รักษ์โลกอยู่แล้ว Scoota ของเราได้รับรางวัลดีแทค Global Expansion Track ในงานประกาศรางวัล Dtac Accelerate Batch 7

เรามี Scoota Station สามารถเช่าจากที่หนึ่งไปคืนอีกที่หนึ่งได้ เท่าที่เราวางไว้ควรจะมีมากกว่า 500 Stations ทั่วประเทศ ตอนนี้ธุรกิจกำลังโตScoota Application เพิ่งจะเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน ไม่นานนี้เอง คนสามารถเช่า Scoota จาก Station หนึ่ง เดินทางไปจุดที่ต้องการ และไป Drop ที่ Station อื่นได้เลยผ่าน Scoota Application

คติประจำใจในชีวิต

ถ้าเราไม่มี Passion กับสิ่งที่เราทำ ถามว่าเราจะอยู่กับมันได้ทุกวัน ทุกนาที หรือเปล่า มันอาจจะไม่ได้นะ ถ้าเราคิดอีกครั้ง และเราจะทำมันไม่สำเร็จเราจะ Push มันไม่สุด ความสุขของเราคือ เราเห็นคนอื่นมีความสุขในสิ่งที่เราครีเอทให้ สร้างสรรค์ให้เค้าเห็น Passion ความตั้งใจในแววตาเรา สิ่งนี้ทำให้คนเชื่อมั่นเราและอยากมีเรา Mad Stash Co., Ltd.สร้างความสุข ความสำเร็จให้