นั่งนับนิ้วตั้งแต่ปี 2552 ก่อนที่จะประเดิมละครเรื่องแรก “เงารักลวงใจ” ในฐานะเลือดใหม่วิก 3 “หมาก-ปริญ สุภารันต์” อยู่ในวงการบันเทิงครบ 10 ปีพอดีวันนี้กำลังมีผลงานบนจอเงินเป็นอีกงานที่ท้าทายการแสดงของนักแสดงคนหนึ่งภาพยนตร์ “จอมขมังเวทย์ 2020”จากค่ายสหมงคลฟิล์ม ดำเนินงานสร้างโดย เฉลิมไทยสตูดิโอ จะมีโอกาสให้ทุกคนได้พิสูจน์ด้วยสายตาตัวเองแล้ว
อยากให้เล่าถึงคาแร็กเตอร์เรื่องนี้หน่อย
เรื่องนี้ผมรับบท “วิน” ครับเป็นวัยรุ่นลุยๆ สไตล์วัยรุ่นนักกีฬาชอบต่อยมวย ใช้ชีวิตอยู่กับคุณพ่อซึ่งตัววินในตอนนั้นก็ยังไม่คิดว่าจะเจอเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อไปเกี่ยวกับไสยศาสตร์ เพราะเขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเชื่อในเรื่องงมงาย วินคลุกคลีกับพ่อก็รู้ว่าพ่อเป็นคนที่ชอบเก็บของขลัง แต่ไม่รู้หรอกว่ามีอะไรบ้าง จนมาวันหนึ่งเกิดเรื่องขึ้นเลยได้รู้ว่าพ่อเค้านับถือใครบ้าง มีของขลังอะไรต่างๆ นานาเต็มไปหมด นั่นทำให้ต้องเข้าไปพัวพันกับศาสตร์ลึกลับบางอย่างซึ่งได้เปลี่ยนแปลงความเชื่อและเปลี่ยนชีวิตของเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย
เหตุการณ์นั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตวินไปยังไงบ้าง
พอเกิดเหตุการณ์ที่ช็อกขึ้นมา คุณพ่อโดนลอบทำร้ายและเขาก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เลยคิดว่าจะต้องทำยังไง พวกที่มาลอบทำร้าย ต้องการอะไร เลยไปหาสาเหตุแล้วก็ทำให้ตัดสินใจอะไรบางอย่างที่อยากให้ทุกอย่างมันคลี่คลายได้ เลยเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นคนที่หมกมุ่นกับเรื่องพวกนี้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในเรื่องก็จะบอกว่า“บางอย่างของมันต้องมี” จริงๆ แค่มีแรงอย่างเดียวอาสู้ไม่ได้ เพราะคนอื่นเขามีอย่างอื่นด้วย ซึ่งตอนนั้นก็สู้เค้าไม่ได้แหละ จนทำให้ต้องเลือกทางเดินของชีวิตละเพื่อให้มีแรงฮึดขึ้นมา
‘จอมขมังเวทย์ 2020’ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
เมื่อชายหนุ่มที่ออกตามสืบหาตัวฆาตกรที่ลอบทำร้ายพ่อของเขา ส่วนเขาที่รอดมาได้ก็ได้รับพลังเวทเหนือธรรมชาติจากสิ่งที่พ่อทิ้งไว้ให้ ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องไปเผชิญหน้ากับทั้งองค์กรลับและพวกจอมขมังเวทย์ทั้งหลาย รวมถึงต้องหนีจากการจับกุมของตำรวจ เพราะเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยไปด้วย เรื่องราวมันก็ซับซ้อนนำไปสู่การปะทะกันของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ คาถาอาคม และความเข้มข้นของแอ๊กชั่นเดือดๆ ครับ
เคยได้ดู ‘จอมขมังเวทย์’ ภาคแรกมาก่อนมั้ย
ชอบมากครับ เป็นหนังที่ดูแล้วเก็บและจำ ด้วยภาพของ พี่ต้อม (ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ - ผู้กำกับ) ภาคก่อนแบบสวยมาก และก็น่ากลัวมากเลย ด้วยการตัดต่อการใส่เสียง เสียงสวดตอนที่พี่นกเดินนี่โห...ขนลุก
มีเตรียมตัวแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกอย่างไรบ้าง
ต้องฟิตร่างกายมากๆ เพราะว่าบู๊หนักมาก ทุกคิวคือมีบู๊ เตรียมร่างกาย ส่วนเรื่องการแสดง วิธีการถ่ายทำ ผมชินอยู่แล้ว เพราะเคยทำงานกับพี่ต้อม รู้เทคนิคการถ่ายของเขา รู้ว่าต้องการอะไร ค่อนข้างจะง่ายและเร็วมากๆ แต่หนังมันก็จะเรียลกว่า ทำอะไรได้เยอะกว่าขอบอกว่าเล่นไปเองยังสนุกเลยสนุกมากๆ
เรื่องนี้เปลี่ยนลุคจากตัวตนนอกจออย่างไรบ้าง
โอ้โห! ต้องสักทั้งตัวครับ รอยสักทุกคิวเหมือนกันตอนแรกก็จะมีรอยสักที่เป็นกราฟิกของเราเอง แต่พอเกิดเรื่องปุ๊บ มีอาคมเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่ง ก็แบบมีรอยสักขึ้นมายันคอ ก็ใช้เวลาเพ้นท์ 2-3 ชั่วโมง ได้ ก็ต้องมากองเช้าๆ แล้วก็มานั่งเพ้นท์ ก็แปลกดี ผมว่าถ้าใครได้เห็นก็คงโห...แปลกดี
ก็เปลี่ยนลุคไปเลย หายไปเลยครับความเนี้ยบความหน้าใส ทรงผม คาแร็กเตอร์ สายตาเปลี่ยนไปหมดเลยตอนถ่ายทำไปก็จะเห็นพี่ต้อมเดินมาบอก เฮ้ย หมากเอาตรงนี้นิดนึง สุดยอดมาก ก็อยากให้ดูการแสดงเรื่องนี้ด้วย เรื่องนี้ตั้งใจและเปลี่ยนตัวเองเยอะ ครับเพื่อความแปลกใหม่กับตัวเองในเรื่องการแสดง
การร่วมงานกับทีมนักแสดง
คุ้นเคยกันมากๆ ทั้ง “พี่นกหญิง, พี่นกชาย, ก๊อต,พี่ต้อม” ทำงานง่ายมาก มีอะไรก็คุยกัน ไหว-ไม่ไหว ตรงโน้นตรงนี้ ทุกคนเต็มที่มากๆ ทำการบ้านดีมาก พร้อมทุกอย่าง ยิ่งทำให้ต้องทำการบ้านเยอะขึ้น ยิ่งทำให้ต้องมีแรงมากขึ้น
กับ “แพร์” เคยเล่นด้วยกันแล้ว ชินกันอยู่แล้ว แต่กับ “คิทตี้” ครั้งแรกที่เคยแสดงด้วยกัน ใหม่มากๆ เลยดีใจที่ได้ร่วมงานกันกับคิทตี้ครับ ดูผลงานของเขาอยู่ พอได้มาร่วมงานกันก็ดีเลยครับ เรียกว่าเป็นคู่ใหม่ที่มาเจอกันแล้วก็น่าสนใจดี
คิทตี้เมาท์ฉากซ้อนมอเตอร์ไซค์ไว้ เบื้องหลังเป็นยังไง
เค้าไม่ไว้ใจผมขนาดนั้นเลยเหรอ (หัวเราะ) เบื้องหลังฉากนี้ต้องใช้ความรวดเร็ว ผมต้องขึ้นไปขี่ คิทตี้ซ้อนแล้วสตาร์ทพุ่งไป จริงๆ กล้องก็ตั้งอยู่แหละ แล้วช่องมันเหลือเล็กแค่นี้ แล้วผมก็ไม่ได้บอกน้องเค้าก่อนว่าผมจะออกตัวไปถึงตรงโน้น เขาก็คงแบบช็อกเรียก “พี่หมาก...กกก”แล้วก็กอดแน่นเลย
โลเกชั่นเรื่องนี้
โหดมากเลยครับ ไม่มีแอร์สักที่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นตึกก็ทำให้เห็นถึงความเป็นปัจจุบัน มุมกล้องก็จะเป็นบนตึก ถ่ายทำในตึก เหตุการณ์เกิดขึ้นไปบู๊กันในตึก
แอ๊กชั่นดุเดือดขนาดไหน
มากเลย มันเป็นแอ๊กชั่นที่เค้าอยากจะให้เรียลมากๆไม่ค่อยแบบมีท่าทางอะไรมาก ไอ้นี่มันก็เป็นนักต่อสู้นักมวยอยู่แล้ว ก็อยากให้ดูจริง ไม่ค่อยใช้อาวุธเท่าไหร่ ก็จะเป็นมือเปล่าต่อยกันมากกว่า
เปิดเรื่องมาก็บู๊กันเลย
ใช่ครับ ฉากไนท์คลับ โห...เท่มากเลย ชอบมากเลยด้วยพอมาเห็นภาพในจอ ทั้งรอยสักผม ทั้งการแต่งหน้า ทำผม เอฟเฟกต์ แล้วแต่ละซีนสวยมากเลย แล้วก็เหนื่อยมากพอๆ กัน ถ่ายทั้งวันเลยครับฉากนี้ยาวไปจนกลางคืนเลย มันเปิดเรื่องให้เห็นเลยว่าไอ้นี่ต่อยเป็น ดุ บ้าอะไรอย่างนี้
เจอจอมขมังเวทย์ในตำนานครั้งแรก
ฉากนั้นเป็นการเซตฉากบนรถไฟฟ้า ก็มีบู๊กับพี่นก-ฉัตรชัย แล้วก็เป็นการปล่อยพลังใส่เค้า เขาก็ปล่อยใส่ผม เป็นการเจอกันครั้งแรก เดินขึ้นมาบนรถไฟฟ้า ฉากนั้นพี่นกเดินออกมาแล้วพลังมาแบบสุดยอด แล้วก็ได้เห็นลุคใหม่พี่นกด้วย เท่มาก แค่เห็นก็...เวลาเขาพูด เวลาเขามองที อื้อหือ...ขมังเวทย์ของจริง
เรื่องนี้บู๊เยอะมาก ฉากสู้กับก๊อตเป็นยังไงบ้าง
ต้องไปซ้อมกันมาก่อน ก่อนหน้าที่จะถ่าย ต้องไปซ้อมไปคิดท่า มีคนคิดท่าให้แหละ แต่ก็ต้องปรับกัน ตรงไหนเหมาะกับคาแร็กเตอร์พี่ก๊อตมั้ย เหมาะกับคาแร็กเตอร์ผมมั้ย แล้วก็คุยกันตลอด พี่ก๊อตก็เป็นอีกคนที่ทำการบ้านเยอะมาก ขยัน แล้วก็ช่วยผมได้เยอะเลยท่าทางแอ๊กชั่นเขาเก่ง เขาชอบทางนี้ไง
มีผิดคิวบ้างมั้ย
ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ก็มีได้บาดแผลจากการล้มลุกคลุกคลาน ไปกระแทกโน่นนี่มากกว่า ก็แมนๆ มันส์ๆ ครับ
แอ๊กชั่นเรื่องนี้นอกจากจะเดือดแล้วยังจินตนาการเล่นกับซีจีด้วย
ใช่ เยอะมาก ต้องมีการปล่อยของ ปล่อยพลังมาของผมเป็นตัวมอม ของพี่ก๊อตเป็นวัวธนู ผมว่ามันก็เป็นอีกขั้นหนึ่งของการแสดง ต้องมองเห็นว่าไอ้นี่กำลังวิ่งเข้ามา ไอ้นี่กำลังกระโดดขึ้นไป ไปทางโน้นไปทางนี้ อันนี้เป็นความยากของซีจีแล้วล่ะรอดูครับ
แอ๊กชั่นการปล่อยพลังสัตว์เวทย์ในเรื่องนี้
มันใหม่นะ เพราะพี่ต้อมผู้กำกับเขาอยากได้แบบนี้ ตัววัวธนูดุๆ ซีจีมันไม่โป๊ะเนียน สมจริง ด้วยแอ๊กชั่นของผมกับนักแสดงคนอื่นด้วย มันก็ทำให้เข้ากันดี
ส่วนวินจะปล่อย ตัวมอม เสกคาถาเรียกออกมากระโดดข้ามหลังออกมา ตัวมอมก็จะมาช่วยผมเวลาวิกฤติขั้นสุดท้ายแล้ว แบบไปไม่ไหวแล้ว แล้วก็จะเรียกออกเป็นตัวช่วย
ฉากใหญ่ในถ้ำถือเป็นฉากไฮไลท์ที่สุดของการแสดงเรื่องนี้เลยมั้ย
เหนื่อยมากครับ ฉากในถ้ำ ยอมรับเป็นฉากไคลแมกซ์ที่ทุกคนมารวมกันทั้งผม, พี่ก๊อต, พี่นกชาย,พี่นกหญิง, แพร์, คิทตี้ โอ้โห...ก็มาอยู่ในนั้นทุกคน มาช่วยกันหมดเลย ตอนอ่านบทนี่ มันเจ๋งตรงที่ไม่คาดฝันว่ามันจะไปถึงขนาดนั้นได้ เป็นการรวมพลังของจอมขมังเวทย์แล้วก็เสกกลายเป็นตัวอะไรออกมา มันมาได้ยังไง มันเท่ดี
บรรยากาศในฉากนี้ถ่ายที่ถ้ำเขาบิน จ.ราชบุรีไม่อยากจะนึกเลยอะ นึกแล้วก็เหนื่อยๆๆ ก็คือในถ้ำมันเป็นถ้ำอับ เข้าออกได้ทางเดียว อากาศก็ไม่มี เขาก็ชอบจังเลย(หัวเราะ) ไปถ่ายตรงนั้น รวมทุกคนในนั้น ทั้งทีมงานจัดไฟ ทั้งทีมตากล้อง เข้าไปอยู่เป็นวันๆ ต้องไปแอ๊กชั่นในนั้นอีก แต่ก็พอผ่านมาได้ ก็เออ...สบายละ เหมือนปลดปล่อยทุกอย่าง ก็อึดเหมือนกันเนาะ(หัวเราะ) เป็นฉากที่ยากที่สุด และประทับใจที่สุดเลยแหละ เพราะได้ลงแรงไปกับฉากนี้เยอะมากครับ
ส่วนตัวมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องศาสตร์คาถาอาคมมากน้อยแค่ไหน
ผม 50/50 นะ ไม่ได้ 100% แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ก็มีหลายเรื่องที่เคยเจอแล้วแบบ เฮ้ย...มันเกิดขึ้นได้ยังไงมันเป็นจังหวะ หรือเป็นอะไรบางอย่างนั่นแหละครับครึ่งๆ ครับ
ความโดดเด่นและน่าสนใจของเรื่องนี้
ความน่าสนใจอยู่ที่นักแสดงวัยรุ่นเจนนี้ (หัวเราะ) บทด้วย น่าสนใจตรงที่เป็นภาคต่อ ฉะนั้นจะมีความขมังเวทย์รุ่นเก่ากับจอมขมังเวทย์รุ่นใหม่เจอกัน แล้วทำให้เห็นถึงความเป็นปัจจุบันว่าคนยังมีอะไรแบบนี้อยู่ อยากให้ดูแล้วสะท้อนถึงสังคมนิดหนึ่งด้วยเกี่ยวกับองค์กรอะไรต่างๆ
อยากจะให้ลองดูว่าทุกอย่างมันมี 2 ด้าน เป็นความเมืองสมัยใหม่ แต่ของมันต้องมีไง สมัยนี้มันก็ยังเห็นคนใส่สร้อยข้อมือเต็มไปหมดเลย มีห้อยโน่นนี่ ตะกรุดเบี้ยแก้อะไรอย่างนี้ ก็อยากฝากให้ทุกคนได้ลองไปดูนะครับ หนังเรื่องนี้ “จอมขมังเวทย์ 2020” น่าสนใจตรงที่นักแสดงแต่ละคน รวมทั้งโปรดักชั่นอะไรต่างๆ ทุกคนตั้งใจกันมากๆ เลย อยากให้ไปดูความล้ำทันสมัยของเอฟเฟกต์มุมกล้องไปถึงขั้นไหนแล้วของไทย รวมถึงฉากแอ๊กชั่นมัน ฝากให้ดูการแสดงของผมในการเล่นหนังจอเงินครั้งแรก 14 พ.ย.นี้ครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี