เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงหนุ่มเนื้อหอมที่ไม่ได้มีดีเพียงแค่หน้าตาสำหรับ ไบร์ท-นรภัทร วิไลพันธุ์ พระเอกหนุ่มจาก “ช่องวัน” ผู้มีผลงานแจ้งเกิดจากละคร “ดอกแก้วกาหลง” หน้ากากแก้ว, หีบหลอนซ่อนวิญญาณ และกำลังมีผลงานที่พูดถึงอยู่ในขณะนี้กับละคร “อสรพิษ” ซึ่งเจ้าตัวรับบทเป็น“เจ้าไชยะวงศ์” และ “สารัช” ซึ่งออนแอร์อยู่ในขณะนี้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.10 น. ทางช่องวันโดยวันนี้ “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” มีโอกาสได้เปิดใจพูดคุยถึงจุดเริ่มต้นชีวิตในวงการบันเทิงของ “หนุ่มไบร์ท”และบทบาทการแสดงในละครเรื่องล่าสุด “อสรพิษ” มาฝาก

จากชีวิตเฮ้วๆ เปลี่ยนไป?

สวัสดีครับ ไบร์ท-นรภัทร วิไลพันธุ์ กำลังมีละคร ออนแอร์เรื่องล่าสุด อสรพิษ รับบทเป็นเจ้าไชยะวงศ์ หรือ สารัช ชายหนุ่มรูปงาม ผู้เกิดมาพร้อมกับพลังประหลาด ที่สามารถสะกดอสรพิษได้ และพยายามปกป้องทุกคนให้หลุดพ้นจากอำนาจของเจ้าแม่อสรพิษ

ต้องบอกว่าตลกมากคือเจอแต่แนวละครที่ผมกลัวมากๆ หลายเรื่องเลย เป็นคนกลัวผีและเป็นคนกลัวสัตว์ด้วย เรื่องหีบหลอนซ่อนวิญญาณก็เจอละครผีเรื่องนี้อสรพิษ คืออ่านในบทแล้วจับงูมือเปล่า ซึ่งตัวละครในเรื่องเขาต้องไม่กลัวนะ แต่ตัวผมนี่กลัวสุดๆ

ชีวิตตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะในทางที่ดี สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือความรับผิดชอบนะครับ มีเป้าหมายในชีวิตมากขึ้น ตื่นมาทุกวันต้องทำอะไร ต้องทำงานพอเวลาที่ว่างกลายเป็นว่าสิ่งที่อยู่ในหัวก็ไม่ใช่ว่าจะไปเที่ยวไหนดี แต่ว่าคือจะพัฒนาตัวเองยังไง วันนี้เรียนรู้อะไรมาบ้าง นำไปใช้ยังไง

ชีวิตที่ผ่านมาจนถึงวันนี้เป็นถนนที่เลือกแล้ว?

ทุกวันนี้เป็นทางที่เลือกแล้วครับ ตอนแรกไปเรียนวิศวะก็คิดว่าจบไปเป็นวิศวกร ทำงานได้เงินเดือน พอมีโอกาสทำงานวงการบันเทิงรู้สึกเลยว่าไม่สามารถคุมทั้ง 2 ทาง ได้ คนอื่นคือเรียนไปด้วยและทำงานไปด้วย แต่ว่าไม่ใช่ผมครับรู้ตัวเองว่าทำไม่ได้ เลยคิดว่าต้องเลือกสักทาง ตอนนั้นถ้าแบบมั่นๆ ก็เรียนวิศวะให้จบทำงานมีเงินเดือนสบายๆ แต่ทำตามความเรียกร้องของหัวใจข้างในจากจิตสำนึกบอกว่าเลือกทางนี้ดูดึงดูดเหลือเกินเลยตัดสินใจลาออกเลย

บทบาทที่อยากจะเล่น?

ในเรื่องล่าสุด อรสรพิษ เป็นอีกบทที่ไม่เคยเล่นแล้วอยากเล่น แถมเป็นดราม่าแฟนตาซี พีเรียดหน่อยๆ เพราะอย่างหีบหลอนซ่อนวิญญาณ ก็เป็นปัจจุบันแล้วก็มีผีเข้ามามีเอฟเฟกท์นิดหน่อย แต่ว่าเรื่องอรสรพิษ เทคนิคจะเยอะมาก ตั้งแต่อ่านบทก็รู้สึกว่าต้องจินตนาการเยอะมาก เป็นเรื่องที่ยากและท้าทายมาก ถามว่ากลัวไหมกลัว พูดจากใจเลยว่ากลัวมากคือจะทำยังไงดีแต่สุดท้ายแล้วก็ต้องเจอ คือสุดท้ายแล้วต้องเผชิญความกลัวนี้อยู่ดี พอมาเจอก็ต้องทำให้เต็มที่เอาชนะสู้กับมันให้ได้

ทำทุกวันให้มีความสุข?

รู้สึกว่ามีความสุขมากขึ้น สิ่งที่ชัดเจนมากขึ้นคือมีความสุขมากๆ ตอนเรียนคือไม่ได้ขี้เกียจนะแต่รู้สึกว่าฝืนมาก ชอบไหมไม่รู้ ถามว่าทำได้ไหมก็ยังก้ำกึ่งอยู่ แต่พอเปลี่ยนสายอาชีพ กลายเป็นคนที่ทุ่มเทและอุทิศเวลาเพื่อทำผลงานศิลปะมากขึ้น กลายเป็นคนมีเป้าหมายต้องทุ่มเทต้องไปเรียน ต้องออกกำลังกาย ไม่ใช่ออกเพื่อว่าตามเทรนด์โลกหุ่นเท่ แต่ว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ แล้วก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดีกับตัวเองด้วย ก็แฮปปี้กับเส้นทางนี้นะ

เริ่มรู้สึกและอยากจะเรียนรู้ตอนไหน?

เป็นความรู้สึกทุกครั้ง เหมือนจบเรื่องนึงจะรู้เลยว่ายังไม่ได้ ต้องเพิ่มอีกว่าความรู้สึกนี้มันจะไม่มีวันหายไปไหน เพราะว่าต้องเรียนรู้ตลอดเวลาอยู่แล้วเลยคิดว่าการที่พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นความท้าทายตัวเอง เหมือนขึ้นบันไดทีละขั้นครับพอเริ่มขึ้นไป 2-3 ขั้น แล้วอยากจะขึ้นบันได อยากรู้ว่าตัวเองจะก้าวไปสูงสุดแค่ไหนคิดว่าจะดันตัวเองพัฒนาท้าทายไปจนกว่าจะไม่ไหว หรือจนกว่าว่าตรงนี้พอใจแล้ว

ชีวิตทุกวันนี้ยังคงทำตัวปกติ?

ยังคงเดินห้างใช้ชีวิตปกติได้ครับ ไม่หลบคนไม่หลบแฟนคลับ ให้พวกเขาได้เจอหน้าได้เห็น เพราะพวกเขาคือคนที่ชอบและสนับสนุนผม เขามีความสุขกับการที่ได้เห็นตัวจริง ได้ถ่ายรูปด้วยกัน ซึ่งผมก็จะได้เจอพวกเขา ได้แลกเปลี่ยนสารทุกข์สุกดิบกัน รู้สึกว่าวินวินด้วยซ้ำ เพราะเมื่อให้ความสุขเขา เขาก็ให้ความสุขผมเหมือนกัน มีคนชอบก็แฮปปี้

มองนักแสดงหน้าใหม่ที่ได้รับโอกาสให้มายืนจุดนี้อย่างไร?

ทางช่องวันให้โอกาสผมมากนะครับ มีผู้ใหญ่บอกมันต้องคนละครึ่งทาง ถ้าให้ใจแล้วก็จะได้ใจที่เต็มที่กลับมา แต่หมายความว่าถ้าไม่เต็มที่เมื่อไหร่จะปลิดปลิวไปตอนไหนไม่รู้ เพราะว่าคนรุ่นเดียวกันก็ต้อง พัฒนาตัวเองเสมอ แล้วยังมีนักแสดงใหม่ๆตลอดเวลา ถ้าไม่พัฒนาตัวเองต่อไปหรือว่าพัฒนาตัวเองไม่ทันก็จะสู้เขาไม่ได้ ก็จะต้องหายไปตามปกติอยู่แล้ว ถ้ามองในมุมผู้บริหาร มีคนเก่งกว่าผมงานก็ต้องเลือกคนเก่งกว่า จะมองว่าคนนี้อยู่นานแล้วเอาไว้ก่อนมันไม่ใช่

รับมืออย่างไรกับชีวิตมองหาทำอะไรเสริมไหม?

คิดที่อยากจะทำธุรกิจอะไรเล็กๆ แต่กำลังศึกษาจากหลายๆ เพราะทางบ้านก็ไม่ได้มีธุรกิจอะไรแล้วก็ไม่ได้มีเงินขนาดที่ว่าไม่ทำงานแล้วจะอยู่ได้พ่อแม่ก็เกษียณแล้วเพราะพ่อทำงานคนเดียว ก็ต้องทำอะไรสักอย่าง คืออยากสตาร์ทให้พ่อแม่ทำการแสดงคือสิ่งที่ชอบสิ่งที่รัก แต่อันนั้นคือความมั่นคงของที่บ้าน ก็อยากให้พ่อแม่ทำ อยากให้พ่อแม่ได้แก้เหงาด้วย

จากวันแรกถึงวันนี้เดินทางมากี่ปีแล้วในวงการ?

2 ปีได้แล้วครับ ถ้ามอง ณ ตอนนี้ยังไม่ไกล ยังไม่ถึงไหนเลยเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ถ้าถามว่าอยากย้อนเวลากลับไปวันที่เข้ามาออดิชั่นที่ช่องมองมาตอนนี้ก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะมาถึงขนาดนี้ พอมามองตอนนี้รู้สึกว่าก้าวแรกเสร็จหรือยังไม่รู้เต็มก้าวหรือยังก้าวแรก รู้แต่ว่าต้องไปอีกไกลให้ได้มาก

ละครเรื่องไหนแฮปปี้ที่สุด?

มีความสุขทุกเรื่องที่ได้ทำงาน แต่ถ้าเป็น ละครสายรักสายสวาท รู้สึกว่าชอบ ไปเล่นรับเชิญ 10 ตอน รู้สึกว่าเรื่องการถ่ายทำ ก็ยังไม่ได้เก่งยังไม่ค่อยรู้เรื่องแต่รู้สึกเริ่มสนุกกับการแสดงแบบจริงๆเรื่องนั้นแหละ เหมือนกำลังเรียนรู้ ช่วงเก็บเกี่ยว เก็บอะไรได้เยอะมากจากเรื่องนั้น แล้วก็เรื่องหน้ากากแก้ว เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่าผมเองเล่นละครสนุกขึ้น

ละครที่ผ่านมาถ่ายไปออนไปตลอด?

ไม่เคยสต๊อกเลย ตั้งแต่เข้าช่องนี้มาไม่รู้จักคำว่าละครสต๊อกเลย ตื่นนอน 07.00 น. บ้านไบร์ทอยู่รังสิต ไปไหนไกลทุกที่ 05.30 น. ตื่นแล้วอาบน้ำถึงกอง 06.00-23.00 น. ล้างหน้าอาบน้ำ 24.00 น.อ่านบทของอีกวัน 01.00-02.00 น., 05.00 น.ตื่นอีกแล้ว แล้วช่วงถ่ายละคร 2 เรื่อง 7 วัน นอนวันละนิดๆ ก็จะโทรมสมองอ๊องมากแต่ถามว่ามีความสุขมั้ยกับชีวิตตอนนี้มีความสุขมากๆ ครับ

ท้ายนี้อยากจะฝากอะไร?

ฝากติดตามละคร #อสรพิษ ตอนนี้กำลังออนแอร์อยู่ เข้มข้นด้วย อยากให้ลองมาติดตามอีกผลงานของผมนะครับ ทุกวัน จันทร์-พฤหัสบดี เวลา
20.10 น. #ช่องวัน31 เป็นผลงานที่ทุ่มเทที่สุดอีกเรื่องหนึ่งก็ว่าได้

ยุทธนา นารี