เป็นซีรี่ส์ที่กำลังมาแรงแถมยังมีกระแสดีวันดีคืนสำหรับ “Gen Y วัยรุ่นวุ่นYรัก”ที่กำลังออนแอร์ทุกคืนวันพุธ เวลา 22.50 น. ช่อง 3 กด 33 อยู่ในขณะนี้ ล่าสุดทีมข่าว “บันเทิงแนวหน้า” มีโอกาสได้คุยกับผู้กำกับ “ณ๊อบ-ศฐาณพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง” จึงไม่พลาดจะชวนคุยถึงเบื้องหลังการทำงานและเล่าแนวโน้มวงการซีรี่ส์ไทยบ้านเรามาฝากกัน

โจทย์การทำงานมีท้าทายอย่างไรบ้าง ทำอย่างไรให้ไม่ซ้ำจำเจ?

หลังจากได้อ่านโครงเรื่อง Gen Y วัยรุ่นวุ่นYรัก ตอนแรกผมก็มีความกังวลนะ เพราะฉากหลังของเรื่องคือมหาวิทยาลัย และตัวละครนำเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์คณะแพทย์ซึ่งมีซีรี่ส์แนวนี้ออกมาหลายเรื่องพอได้อ่านรายละเอียดบท ผมก็เห็นถึงความสนุกของเรื่อง ความน่ารักตัวละครจุดขายที่แตกต่างครับ ผมเชื่อว่าผู้ชมจะได้เห็นโปรดักชั่นคุณภาพสวยๆ และเรื่องราวที่ เฮ้ย ทำไมเป็นแบบนี้

การทำงานเรื่องนี้กับนักแสดงน้องๆ หน้าใหม่?

แม้เป็นนักแสดงหน้าใหม่หลายคน และมากกว่าครึ่งเล่นซีรี่ส์กันเป็นครั้งแรก แต่น้องๆ ได้มีการ workshop มาก่อนกับทางครูต้า ผู้ฝึกสอนการแสดงของซีรี่ส์เรื่องนี้ และทำการบ้านอ่านบทมาล่วงหน้า พอมาหน้ากองแล้วก็ทำให้ทำงานเร็วขึ้น ในส่วนของผมก็จะคอยดูจังหวะการเล่น ความต่อเนื่องของอารมณ์และรายละเอียดการแสดง ถ้ายังไม่ได้ภาพที่ต้องการก็เรียกมาดูที่หน้าจอภาพและปรับกันครับ

ฉากฟินจิกหมอน มีการบรีฟอย่างไร?

คิดว่าพอได้นักแสดงที่คุ้นเคยกันมาเล่นด้วยกันก็จะได้ข้อดีที่พวกเขาสามารถเล่นได้เข้าขา ผมมีบอกความต้องการของผมในบางฉากก่อนบ้างส่วนฉากไหนง่าย ไม่น่ามีอะไรก็แค่บอกว่าพวกเขาต้องเล่นได้ (หัวเราะ) และผมชอบปล่อยนะ แม้บทจะจบไปแล้ว ยังไม่รีบสั่งคัท อยากดูพวกเขาเล่นเผื่อมีอะไรดีๆ มาไว้ใช้

ทำลงช่องใหญ่ ไม่มีเซ็นเซอร์ เงื่อนไขทำให้ผกก. กังวลอะไรมั้ย?

เรื่องการลงฉายช่อง 3 ผมก็ได้ประสบการณ์มาแล้วจากเรื่อง Hotel Stars สูตรรักนักการโรงแรม มีโดนตัดไปบ้าง (หัวเราะ) แต่จริงๆ ไม่ได้กังวลอะไรครับ ก็พยายามถ่ายทอดและกำกับตามบท พอส่งไปที่ช่อง เขาจะว่ายังไงก็ตามนั้นครับ วัดใจกัน

คิดวางแผน หรือว่าทำอะไรที่แปลกแวกตลาดใน Gen Y วัยรุ่นวุ่นYรัก?

ผมอยากให้ทุกคนลืมนักแสดงที่เคยรู้จักไปก่อน แล้วเริ่มต้นใหม่ ผมเชื่อว่าตัวละครมาร์ค (คิมม่อน-วโรดม) และกิจ (คอปเตอร์-ภาณุวัฒน์) จะทำให้ทุกคนสนุกและลุ้นไปกับเรื่องราว ส่วนตัวละครวายุ (บาส-สุรเดช) ผู้ชมจะได้ติดตามว่าเรื่องราวของคนนี้จะเป็นอย่างไรแน่ ครบรสครับ ทั้งฟินจิกเตียง (มากกว่าหมอน) เศร้า ร้องไห้ หมั่นไส้ก็มีนะครับ (หัวเราะ)

อยากให้เล่าถึงกองถ่ายเรื่องนี้?

ในกองถ่าย Gen Y วัยรุ่นวุ่นYรัก ก็วุ่นวายจริงๆ แหละ (หัวเราะ) นักแสดงขนมาเป็นกองทัพ ผมว่าด้วยความที่นักแสดงและทีมงานส่วนใหญ่ร่วมงานกันมาแล้ว พอเรื่องนี้สนิทสนุกคุยกันเยอะขึ้น ขอบคุณนักแสดงและทีมงานที่ทำงานกันหนัก ทำให้ซีรี่ส์จบลงสวยงาม ขอบคุณพี่โอ๋ พี่เฟิร์ส ผู้จัดใจดีจากบริษัทสตาร์
ฮันเตอร์ด้วยที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี และขอบคุณแฟนคลับน้องๆ นักแสดงทุกคนที่ส่งอาหารมาเลี้ยงที่กองถ่ายทุกวันครับ และทุกคืนวันพุธ เวลา 22.50 น.
อย่าลืมกด ช่อง 3 กด 33 และดูออนไลน์พร้อมกันทั่วโลกเวลา 23.20 น.บนแอพ iQIYI หรือ iQ.com เท่านั้น!

คนดูจะได้รับอะไรจากเรื่องราวของเรื่องนี้บ้าง?

ผมถูกสอนมาว่า ไม่ว่าจะงานใดๆ ทั้งซีรี่ส์ หรือภาพยนตร์ ยังก่อให้เกิดปัญญา ไม่ใช่แค่ความบันเทิงเท่านั้น ผมจึงพยายามใส่ข้อคิดต่างๆ และเรื่องสร้างสรรค์สังคมลงในงานของผมเสมอ เพื่อส่งสารให้แก่ผู้ชมครับจากหนังสั้น หนัง Y ของโกโก้และมาล่าสุด คิดว่าทำไมเดินทางมาเป็นผกก.สาย Y หมด และพอได้ทำงานแล้ว สร้างแรงบันดาลใจมาจากจุดไหนยิ่งต้องมีไอเดียที่คิดต่างไม่ให้ซ้ำกับเรื่องอื่นๆ

มีซีรี่ส์แนวไหนที่อยากทำ แต่ยังไม่ได้ลองทำ หรืออยากจะหาโอกาสทำอีกบ้าง?

จริงๆ ผมมาจากสายบู๊ แอ๊กชั่น (หัวเราะ) โดนพี่โกโก้ (โกโก้-นิรุณ อดีตผู้จัดการดาราชื่อดัง) หลอกให้มากำกับหนังเรื่องสวีทบอย คราวนี้เลยหลุดเข้ามาสายวายยาวเลยครับ ถ้าถามแนวที่อยากทำก็คงต้องเป็นบู๊ แอ๊กชั่น จะเป็นวายบู๊ แอ๊กชั่นก็น่าสนใจนะครับ

มองตลาดซีรี่ส์ Y ในปีหน้าไว้อย่างไร?

เดิมซีรี่ส์วายอาจจะเป็นเรื่องของเฉพาะกลุ่ม แต่ตลาดซีรี่ส์วายตอนนี้เป็นกลุ่มตลาดใหญ่ตลาดหนึ่งไม่ใช่แค่ในไทย เป็นตลาดใหญ่ระดับเอเชียฝั่งตะวันออกนอกจากสปอนเซอร์มากมายที่สนใจเข้ามาสนับสนุนในซีรี่ส์แล้ว ยังดึงนักแสดงวายไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย และในฐานะผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ด้วย รู้ดีว่าตลาดต่างประเทศต้องการซื้อคอนเทนท์วายอยู่ครับ

ตั้งแต่เริ่มทำงานกำกับมา ถึงตอนนี้ คิดมั้ยว่าจะเดินมาสายผกก.?

ผมมีความฝันอยู่แล้วว่าอยากกำกับหนังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ครับ ตอนเรียนก็ทำหนังสั้นกับเพื่อน และด้วยที่มีพี่วิชช์ (วิชช์ เกาไศยนันท์)ญาติเป็นผู้กำกับหนังอยู่แล้ว ก็เลยได้มีโอกาสคุ้นเคยใช้ชีวิตในกองถ่ายมาเรื่อย

คนในวงการสนับสนุนทำให้ชีวิตหัน?

ถ้าคนที่ทำให้มาถึงจุดนี้คือ ครูบาอาจารย์โดยเฉพาะ ครูหนืด-นิมิต พิพิธกุล ซึ่งเป็นครูทางภาพยนตร์และการแสดงคนแรกของผม คนถัดมาคงเป็นญาติที่เหมือนเป็นพี่ชาย (พี่วิชช์ เกาไศยนันท์)ผู้กำกับไทยคนแรกในฮอลลีวู้ดที่ให้ประสบการณ์สอนทักษะ มุมมองต่างๆ สร้างโปรไฟล์เครดิตให้ผม

คนถัดมารุ่นพี่และเพื่อนสนิทอย่าง พี่โกโก้-นิรุณ ผมก็งงว่าสนิทกับแกได้ไง แต่ไปๆ มาๆ ก็รู้จักกว่าเป็น 10 ปีก่อนที่แกจะเสีย พี่โกโก้แกสร้างหนังเรื่อง“สวีทบอย” ซึ่งมาจากชีวิตของแก แกก็มาชวนให้ผมกำกับให้หน่อย ตอนแรกก็ปฏิเสธนะ เพราะไม่เคยทำแนววายไม่มีความคิดในหัวด้วยซ้ำ แต่พี่โกโก้บอกว่าต้องเป็นผมทำเท่านั้น เพราะผมเห็นแกมานาน รู้จักและเข้าใจแกมากที่สุด ก็เลยตกลง ดีใจที่แกแฮปปี้กับงาน

สุดท้ายขอพูดถึง พี่เป็ป-ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรมผู้จัดผมเอง พี่เขาวัยรุ่น หัวทันสมัย เปิดรับฟังความคิดต่างๆ เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพและเป็นกัลยาณมิตรที่ดี ต้องขอบคุณที่เชื่อมั่นในตัวผมครับ

งานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ให้อะไรกับตัวเองบ้าง?

มีความสุขนะเวลาไปกองถ่าย แม้จริงๆ แล้วไปกองถ่ายคือไปทำงาน ซึ่งก็มีความเครียด ความกดดันต่างๆ ทำงานกับคนจำนวนมาก แต่โชคดีที่มีโอกาสเรียนรู้ฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ก็เลยสบาย สามารถทำงานได้กับทุกคนด้วยความเป็นมืออาชีพ ผมว่างานทุกวันนี้ทำให้ผมได้พบกัลยาณมิตรที่ดีหลายคน ยกเว้นคนบางประเภทที่ไม่อยากให้เจอเลย (หัวเราะ)