ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสาวสวยของเวทีมิสแกรนด์ เจ้าของมง มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ที่มีดีกรีทั้งความสวยและความสามารถมาเยอะมากๆ สำหรับเธอคนนี้ หลินมาลิน ชระอนันต์วัย ครั้งนี้เธอมาพร้อมกับความสดใสพร้อมกับเสียงหัวเราะ ที่ทำเอาพิธีรุ่นใหญ่อย่าง เจนนิเฟอร์คิ้มถึงกับขำไม่หยุด และยังเผยอีกมุมตำนานชุดห้าวกี บวกกับการพรีเซนต์สินค้าแบบจึ้งๆ ขายยังไงให้ได้เงินรางวัล จะสนุกขนาดไหนไปดูกันเลย
จากอินฟลูสู่เวทีมิสแกรนด์เราต้องรักษาลุคยังไงบ้าง
หลิน มาลิน : เอาจริงๆ หลังจากมงลงตัวหนูเองก็ไม่ได้รักษาลุคหรือปรับอะไรเลย ก็เราเป็นแบบนี้ของเราอยู่แล้ว ที่ผ่านมาองค์ประกอบที่ทำให้หนูมงก็อาจจะที่เพราะหนูเป็นตัวของตัวเองสูงมากๆ อย่างที่บอกค่ะ แปลกใหม่มากๆ เป็นตำนานบทใหม่ของนางงามเลยก็ว่าได้
ก่อนที่จะเป็นตำนานเราคือคนสู้คนนึง
หลิน มาลิน : หนูเป็นคนไม่สลด เชิดห้า เชิดสิบ 5555555
เหมือนจะเป็นคนที่ทำให้เป็นเรื่องได้ทุกเรื่องจริงมั๊ย
หลิน มาลิน : ซึ่งหนูก็ไม่ได้ตั้งใจด้วยนะแม่ คือชุดนั้นเป็นชุดเปิดตัววันแรกซึ่งเค้าให้ใช้ในผ้าไทย แต่ของหนูดันเป็นภาคใต้แล้วหนูมาจากภูเก็ต ชุดของหนูใช้ผ้าซาโนติค ลายสายแร่ของชาวภูเก็ตซึ่งเป็นลายผ้าที่จดลิขสิทธิ์เพื่อการนำมาใช้ประโยชน์หรือในทางการค้าให้ชาวภูเก็ต ซึ่งคนก็อาจจะไม่ค่อยเห็นมากนัก ดูไม่ค่อยเป็นผ้าไทย และคือทีมภูเก็ตจะมีความเป็น ไฮเเฟอึ้งสูงมาก หมายถึงไฮแฟชั่นอ่ะค่ะแม่ 55555 เค้าก็เลยเว้าชุดสูงขึ้นมาแบบนั้นเลยเป็นผ้าซาโนติคทั้งชุดเลยค่ะ ซึ่งชุดนั้นหนูก็เห็นแทบจะพร้อมกับทุกคน ซึ่งเห็นก่อนประกวดตอนเที่ยงคืน จังหว่ะนั้นคือต้องใส่ได้แล้วเดินได้เท่านั้น ไม่มีการแก้ไขชุดใดๆแล้ว และถ้าใส่ชุดนี้ต้องขอพูดถึงเรื่องหมออ้อยหน่อยค่ะ คือที่เก็บตัวอยู่ใกล้ๆห้วยขวางที่โกนก็คือมีขายตลอดมันเหมือนหนวดค่ะแม่ ขึ้นวันต่อวัน 55555
ตอนเห็นชุดนี้เราพูดว่าอะไร
หลิน มาลิน : พูดคำเดียวกับแม่เลย ห๊ะ!!! คือเสียงหลงเหมือนกัน คือ ณ เวลานั้นเราก็ทำอะไรไม่ได้
พอยืนแสงทุกแสงสาดส่องไปตรงนั้นเรารู้สึกยังไงบ้าง
หลิน มาลิน : เย็นสบาย ในขณะที่ผู้เข้าประกวดคนอื่นใส่ชุด สวยหรูหรายาวลากพื้น แต่ของหนูโล่ง
ตอนนั้นคิดมั๊ยต้องมีดราม่าแน่ๆ
หลิน มาลิน : ตอนนั้นไม่ได้คิดค่ะ แต่พอเดินเสร็จฉ่ำเลย นักข่าวรอรุมสัมภาษณ์ แต่หนูขอเปลี่ยนชุด ขอไม่สัมภาษณ์ชุดนั้น เผื่อมีมุมเสย หนูก็กลัวอยู่55555
ปกติเป็นคนกินเก่งมั๊ย
หลิน มาลิน : ปกติเป็นคนกินเก่งมากค่ะ แต่ว่าพอมาเป็นนางงามเลยต้องลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักไป10 กิโลค่ะแม่ จาก 56 เหลือ46ค่ะ
เราต้องเตรียมตัวยังไงเวลาเราเป็นนางงาม
หลิน มาลิน : อย่างแรกต้องไปเรียนเดินก่อนค่ะไปซื้อส้นสูง6นิ้ว และหาร้านเสื้อผ้าชุดราตรี คือเค้าต้องปักอะไรให้เราใหม่คือเราต้องใช้ในการประกวด ทุนที่ใช้ในการเข้ามาประกวดเราเป็นคนออกเอง หมดไปประมาณ 2แสนกว่าบาท แต่งหน้าก็ต้องหาช่างเอง
แล้วหน้าต้องทำอะไรเพิ่มมั๊ย
หลิน มาลิน : หนูไปทำตาเพิ่มค่ะ เพื่อให้เป็นสองชั้น คือนางงามตามันต้องโฮ่งค่ะ มันต้องจึ้ง จริงๆมันหนักตอนที่เรียนเดิน ซึ่งต้องเรียนถึง5 เดือน กว่าจะสวยขนาดนี้
อะไรที่จะสามารถปรับปรุงในตัวเราและทำคะแนนให้ใกล้เคียงกับคำว่ามงลง
หลิน มาลิน : จริตค่ะ มิสแกรนด์ คือจริต ซึ่งหนูเป็นอินฟลูมาอยู่แล้วแล้วนี่คือทางของหนู
ส่วนเรื่องขายของเราก็สร้างตำนานอีก
หลิน มาลิน : ส่วนมากเวลามีสปอนเซอร์ในกองแต่ละตัวก็ไม่เหมือนกัน หนูก็เลยต้องหาอะไรใหม่ๆ ส่วนมากหนูก็คิดสดหน้างานเอา ตอนนั้นหนูได้กางเกงยีนส์ Bearbeary ซึ่งตอนนั้นหนูก็นั่งดูเพื่อนๆ พรีเซนต์ แล้วจังหว่ะที่หนูนั่งไขว่ห้าง หนูก็เห้ยทำไมกางเกงมันไม่รัดต้องเป้า หนูก็ออกไปพรีเซนต์แบบนั้นเลย แล้วก็ได้เงินรางวัลเลย
ก่อนหน้านี้เคยมีแฟนมาก่อนมั๊ย
หลิน มาลิน : มีค่ะแต่ก็เลิกมีไปแล้วหนูจะโฟกัสได้ทีละอย่าง ส่วนเวลาหนูไปมู หนูก็ไม่เคยไปมูเรื่องความรักเลย เพราะว่าสิ่งที่หนูต้องการมากที่สุดคือเรื่องเงิน
แล้วทำไมไม่ขอผู้ชาย หล่อ รวย
หลิน มาลิน : หนูเคยคบกับผู้ชายรวยแล้วรู้สึกไม่โอเค ตอนนี้หนูโสดมา 4ปี หนูเองเป็นคนแมนๆพูดอะไรตรงๆ บางทีอาจจะดูขวานผ่าซากไปหน่อย แต่หนูแค่รู้สึกว่าพูดกันตรงๆ ดีกว่าพูดอ้อมๆ แล้วหนูก็อ้อนไม่เก่งและเอาแต่ใจด้วย
และเราขี้หึงขี้วีนมั๊ย
หลิน มาลิน : ไม่เลยค่ะ แทบจะไม่ถามเลย
ลักษณะผู้ชายที่จะมาเป็นแฟนเราเค้าต้องเป็นแบบไหน
หลิน มาลิน : ก่อนอื่นเลยเค้าต้องมีงานทำ แต่ถ้าหล่อด้วยก็ถือว่าเป็นโบนัสสําหรับอายุเท่าหนูแล้ว ถ้าบ้านรวยแต่ไม่ทำงานก็ไม่เอา ต้องเป็นคนฉลาด ต้องเป็นเด็กจบนอก ต้องพูดภาษาอังกฤษได้ พอเป็นเด็กจบนอกทัศนคติจะค่อนข้างตรงกันกับหนู เพราะหนูเป็นคนไม่จุกจิกมากเท่าไหร่
สเปคของหนูเป็นแบบไหน
หลิน มาลิน : ผิวเข้ม บางระจัน 55555 ประมาณพี่ปั้นจั่น
ตอนนี้มีคนมาทักในIG บ้างมั๊ย
หลิน มาลิน : ไม่มีเลยแม่ เป็นศูนย์ หนูงงมากเหมือนกัน นี่อุส่าห์ไปประกวดได้ตำแหน่งมาแล้วยังไม่มีคนมาจีบอีก
แล้วตอนนี้อยากมีแฟนมั๊ย
หลิน มาลิน : ตอนนี้ยังไม่อยากค่ะ และถ้าถึงวันนั้นไม่มีใครอยากเลี้ยงก็คงต้องเลี้ยงตัวเอง
ตอนเด็กเราถูกเลี้ยงมาแบบไหนถึงได้คิดว่ามันต้องขยัน มันต้องหาเงิน
หลิน มาลิน : คือคุณพ่อจะเน้นไปที่การศึกษา และที่บ้านจะเลี้ยงแบบประคบประหงมมาก คือคุณแม่จะห้ามออกจากบ้าน ห้ามล้ม คืออยากจะปั้นเป็นนางงามตั้งแต่เด็ก คืออยากเป็นแม่ดาราตั้งแต่เด็ก 55555
ตอนหนูเป็นอินฟลูคุณแม่ว่าไงบ้าง
หลิน มาลิน : คุณแม่ดีใจค่ะ แค่บางทีถ่ายรีวิวสินค้า คุณแม่คิดว่าขึ้นโฆษณาบิลบอร์ดแล้ว 55555 คุณแม่เล่นใหญ่ ตอนอยู่บ้านที่เชียงราย บ้านก็จะติดๆกัน แถวนั้นเค้าจะเรียกแม่หนูว่าแม่ดารา ไปไหนก็จะเรียกตัวเองว่าแม่ดารา คือแม่หนูเป็นคนชอบดาราอยู่แล้ว ถ้ารู้ว่าจะมาเจอพี่คิ้ม ก็จะรีบหยิบกล้องมาเซลฟี่เลยนะ
หนูอยากเป็นดารามั๊ย
หลิน มาลิน : หนูอยากเป็นดาราค่ะ เพราะคุณแม่จะได้พูดได้เต็มปากว่า คุณแม่ดาราค่ะ ส่วนผลงานที่ผ่านมามีแค่ละครคุณธรรมบ้านแกรนด์เฉยๆค่ะ มันพูดได้ไม่เต็มปากว่าเป็นดาราช่องนะ หนูอยากเล่นบทหนังผีเพราะหนูชอบฟังเรื่องผีมาก และก็บทโรคจิต และอีกหนึ่งอย่างที่หนูอยากทำ คือการเป็นนักร้อง จริงๆมันควรจะต้องเพิ่มมาแม้ว่าเราจะร้องไม่ดีก็ตาม
อยากให้พูดถึงพี่กระเทยที่ไม่เคยพอใจอะไรเลย
หลิน มาลิน : ก็เป็นนิสัยพื้นฐานของกะเทยค่ะ ถ้าเป็นคำแรงๆก็ไม่โกรธค่ะถ้าคํานั้นไม่อยู่ในแบบชั้นศาลหมายถึงว่าอยู่ในสมุดที่แบบว่าเป็นการที่จะทําให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ ถ้าด่าอะไรถึงจะโกรธ ด่าว่าอะไรจะโกรธเลย ถ้าคําหยาบบนโลกใบนี้มีทั้งหมดหนูก็ยังไม่เคยโกรธคําไหนเลย
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสาวสวยที่แม่คิ้มที่นั่งสัมภาษมาตลอดทั้งรายการถึงกับออกปากชม ว่าตั้งแต่นั่งคุยมาคือรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะตำหนิ หรือไม่มีอะไรจะสอนด้วย เพราะมันเป็นธรรมชาติ และยังเอ่ยอีกว่าเป็นหนึ่งในแขกรับเชิญตัวเล็กที่สร้างตำนานได้ สามารถรับชมความสนุกย้อนได้ตามลิ้งที่แนบค่ะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี