28 สิงหาคม 2567 เรียกว่าทำเอาแฟนๆ ถึงกับฮือฮาเมื่อได้เห็นแฟชั่นเซทของศิลปินสาวชื่อดังก้องโลก 'ลิซ่า' ลลิษา มโนบาล ที่ได้ขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นระดับโลก โว้ก ประเทศญี่ปุ่น ฉบับเดือนตุลาคม 2567 ในธีมซอฟต์ พาวเวอร์ สะท้อนถึงพลังอันอ่อนโยนแต่ทรงพลัง และที่สร้างความฮือฮาไปกว่านั้นคือการที่เธอเลือกสวมใส่ชุดจากแบรนด์ไทย วร สุกัณศีล (VVON SUGUNNASIL)ขึ้นปกในครั้งนี้อีกด้วย 

นอกจากชุดที่สวยสะกดทุกสายตาแล้ว ลิซ่ายังสวมใส่นาฬิกาสุดหรูที่เธอออกแบบร่วมกับ Bvlgariและเครื่องประดับเพชรล้ำค่า ซึ่งรวมมูลค่าแล้วสูงกว่า 1.5 ล้านบาทในลุคเดียว สะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมอันหรูหราและฐานะแฟชั่นไอคอนระดับโลก

การขึ้นปก โว้ก เจแปน ในครั้งนี้ของลิซ่า ไม่ใช่เพียงแค่ความสำเร็จส่วนบุคคลของเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้แบรนด์ไทยอย่างแบรนด์ VVON SUGUNNASILได้เฉิดฉายไปทั่วโลกอีกต่างหาก ซึ่งฮอปเปอร์ เอช เอช ดับเบิลยู บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ยังเปิดเผยว่า ลิซ่าเป็นศิลปินเคป๊อปที่มีรายได้จากอินสตาแกรมสูงที่สุด โดยแต่ละโพสต์สามารถทำเงินได้ถึง 21 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงอิทธิพลอันมหาศาลของเธอที่มีต่อแฟนๆ ทั่วโลก

โดยรูปแฟชั่นเซทนี้ของ'ลิซ่า'จะเห็นภาพรอยสักดอกไม้แสนสวยอยู่ที่บริเวณแผ่นหลังของเธอ ซึ่งรอยสักของลิซ่าที่เห็นนั้น จะเป็นดอกเอเดลไวส์ ดอกไม้ชนิดหนึ่ง ที่ได้รับฉายาว่าเป็น ราชินีแห่งเทือกเขาแอลป์ ความหมายของดอกไม้นี้คือ รักแท้ เพราะเชื่อกันว่าชายใดหากมอบดอกไม้นี้แก่หญิงสาว นั่นหมายถึง เขามีความมั่นคง มีความพยายาม เนื่องจากดอกไม้นี้จะบานเพียงปีละ 3 ครั้ง อีกทั้งว่ากันว่าหากเด็ดดอก Edelweiss มาแล้วรูปร่างของดอกจะไม่เปลี่ยนแปลง หรือเหี่ยวเฉา

อย่างไรก็ตามข้อมูลระบุว่า ดอกเอเดลไวส์ มีชื่อเรียกหลากหลาย แต่ชื่อของ เอเดลไวส์ นั้นมาจากภาษาเยอรมันที่แปลว่า สูงศักด์ (edel) และขาว (weiss) เรียกได้ว่ารอยสักบนแผ่นหลังของลิซ่านั้นทั้งสวยและความหมายดีอีกด้วย