“บอม ธนิน” หลังหายหน้าหายตานานหลายปี วันนี้พร้อมเผยสาเหตุ ทำไมตัดสินใจไม่ต่อสัญญา อัปเดตหลังเข้าผ่าตัดข้อเท้าที่อันตรายถึงชีวิต ไม่งั้นพิการ หรือตัดขาทิ้ง ย้อนเล่าชีวิตในวงการถูกดราม่าจนสร้างบาดแผลเป็นปมในใจ ถึงขั้นต้องปรึกษาจิตแพทย์ ล่าสุดถูกคอมเมนต์แซะแรง เป็นพระเอกตกสวรรค์
ตอนนี้ฟรีแลนซ์?
“ครับ หมดสัญญา 4 ปีแล้วครับ”
สาเหตุไม่ต่อสัญญาเกิดจากอะไร?
“ผมไม่ลงดีเทลลึกแล้วกัน เหมือนมีบางอย่าง เราคุยกันแล้วตกลงกันไม่ได้นิดหน่อย แต่ไม่ได้ทะเลาะกันนะ ก็คือโอเค ไม่บาดหมาง”
จบด้วยดี ต่างคนต่างแยกย้าย?
“ใช่ ไม่มีจิกหัวกัน (หัวเราะ)”
หมดสัญญานานแล้ว หายหน้าไปทำอะไร?
“ตอนนี้เป็นหุ้นส่วน Throwback เป็นร้านกึ่งผับกึ่งบาร์ แล้วมีสอนเทนนิส ค่อนข้างเยอะพอสมควร ถ้าทำเป็นประจำก็ราชกรีฑาสโมสร บีเอสซี สอนตั้งแต่เด็ก 4-6 ขวบ คนสูงวัยก็มีมาเล่นครับ อยู่ที่อยากได้อะไร ผมจัดให้ได้หมดครับ ที่เหลือใครรับจ้างให้ทำอะไร ผมก็ทำทุกอย่าง”
เจ็บข้อเท้าทำให้พักงาน สาเหตุเกิดจากอะไร?
“มันสะสมตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ช่วงนั้นผมเรียนเสร็จก็เข้าโรงยิม มีเล่นเทนนิส เล่นบาส เล่นบาสบ่อยจนขาพลิก ครั้งแรกเป็นช่วง 3 ทุ่ม เจ้าหน้าที่บอกว่าหมดเวลาเล่นแล้ว แต่ผมยังดื้อเล่น เขาก็ปิดไฟ แต่ผมยังติดพันอยู่ เล่นปุ๊บก็ไปขัดขาเพื่อน ผมก็พลิก นั่นคือครั้งแรก เจ็บมาก ทรมานสุดๆ คืนนั้นรถแอมบูแลนซ์ไปส่งรพ. คุณหมอเอกซเรย์บอกว่าต้องพักเลยนะ 2 เดือน ตอนนั้นเหมือนจะฟัง (หัวเราะ) เราเป็นวัยรุ่น พอผ่านไป 6-7 วัน ก็รู้สึกว่าเฮ้ย เดินได้แล้วนิ ลองวิ่งดู ก็วิ่งได้นี่ ก็เจอกันคืนนี้ ไปเล่นอีก ก็เจ็บซ้ำอีก ก็วนลูปเดิม ไม่ไปหาหมอแล้ว คิดว่าแป๊บเดียวก็หาย รุ่นพี่บอกว่าไปแช่น้ำแข็ง ผมก็เอาน้ำแข็งประคบ ไม่เกิน 10 วันก็กลับมาตลอด วนอยู่อย่างนี้ มีปีนึงที่ขาพลิกเกือบๆ 10 ครั้ง มันไม่ควรทำแบบนี้ครับ หลังๆ ผมมารู้ว่าพอเราบาดเจ็บถึงแม้เราเดินได้ แต่ข้างในยังไม่หายร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณหมอผู้เชี่ยวชาญเขาจะรู้ ที่ให้ 2 เดือนเพื่อนให้ทุกอย่างมันร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อน”
ความดื้อซ้ำๆ จนวันนึงไม่ไหว หาหมอจริงจัง คำพูดที่หมอพูดมา เราตกใจเลย?
“เป็นครั้งแรกที่ผมเข้าใจความรู้สึกว่า ความรู้สึกตกไปอยู่ตาตุ่ม ของแท้ มีวันนึงผมไปถ่ายละครกับผู้ช่วย จะลงไปซื้อของแป๊บเดียว พอเขาจอด ผมวิ่งลงไป จังหวะวิ่ง ทำไมเจ็บจังวะ ไม่ได้ขาพลิกด้วยนะ ซื้อของกลับมาก็บ่นว่าเจ็บว่ะ จนกลับห้องมา ถอดรองเท้าเดินในบ้าน รู้สึกมันเจ็บๆ ใส่รองเท้าไปวิ่งรู้สึกวิ่งไม่ได้แล้ว เจ็บมาก เลยลองไปหาคุณหมอดู คุณหมอให้เอ็มอาร์ไอสแกนดูกล้ามเนื้อข้างในทั้งหมด ก็ส่งให้รุ่นพี่ที่สนิทกันดู รุ่นพี่บอกว่ากูรักมึงมากนะ บอกเลยมีหมอสองท่านในไทยที่เอาอยู่ ที่เหลือเอาไม่อยู่หรอก หาคุณหมอให้ได้ แล้วให้คุณหมอท่านบอกเองดีกว่า ซึ่งเราดูฟิล์มเราไม่รู้ ก็หาทางติดต่อจนได้ ได้คิวไปหาคุณหมอท่าน ท่านดูฟิล์มเกือบ 5 นาที แล้วหันมามองนิ่งๆ แล้วถามว่าคุณอยู่กับมันมาได้ยังไง สภาพข้อเท้าคุณไม่เหลือแล้วนะ เอ็นคุณขาด 2 ฝั่ง กระดูกงอกเต็มเลย ปัญหาหนักคือข้อเท้าเสื่อมแล้ว คุณหมออธิบายว่าพอเอ็นขาด กระดูกก็ชนกันบ้าง ทำให้ข้างในเริ่มแตก จาก 100 เปอร์เซ็นต์ที่มี มันหายไป 25 ที่คุณเจ็บเพราะเส้นประสาทอยู่ใกล้แล้ว”
กระดูกเหมือนคนวัยเท่าไหร่?
“60 บวกครับ (หัวเราะ) ตอนแรกผมฟังก็ช็อกแล้ว แต่พอผ่าตัดเสร็จทุกอย่าง ได้ยามาทาน เนื่องจากมันว่าง หยิบกล่องยามาอ่าน ทุกยาที่ทาน สำหรับคน 60+ หมดเลย ตอนนั้นมันใกล้จะพิการแล้ว ต้องผ่าครับ”
คนอื่นเอ็นขาดเดินไม่ได้แล้วนะ แสดงว่าอดทน?
“ตอนเอ็นขาด น่าจะเป็นจังหวะที่มันพลิก แล้วค่อยๆ ขาดเรื่อยๆ ปีนึงพลิกบ่อยๆ ไปซ้ำจนมันขาด ข้อเท้าผมถ้าเทียบสองฝั่ง ฝั่งนี้ต่อให้ไม่พลิก ก็จะบวมค้าง ก็เอาไปโชว์พี่ๆ นักแสดงว่าพี่ๆ ดูสิ ข้อเท้าผมบวมค้าง (หัวเราะ) ผมไม่รู้ว่ามันหนักไง”
หมอบอกว่าถ้าผ่ามีอาการติดเชื้อต้องตัดขา?
“ครับ เนื่องจากอาการเยอะมาก เอ็นขาด กระดูกงอก กระดูกเสื่อม เขาเรกคอมเมนต์ว่าให้ทำแค่ฝั่งเดียว แล้วจะเลาะกระดูกงอก ซ่อมกระดูกเสื่อมให้ วิธีนี้จะทำ 5-6 ชม. แต่ถ้าอยากฟื้นฟูทั้งหมด เอ็นสองฝั่ง กระดูกงอก กระดูกเสื่อมเขาเคลียร์ให้หมด แต่เสี่ยงติดเชื้อนะ ก็เลยถามว่าถ้าติดเชื้อเป็นยังไง เขาบอกว่าตัดขาครับ สุดท้ายที่ออกมา ปรากฏว่าผ่าไปทั้งหมด 7 ชม. ฟิล์มที่ออกมากับตอนผ่าออกมาแล้ว ไม่เหมือนกัน ท่านบอกหน้างานเละกว่าในฟิล์มอีก รอบนี้พอผ่าไม่ดื้อแล้ว หมอบอกต้องให้เวลา 1 ปี และต้องทำตามที่คุณหมอบอกทุกอย่าง 1 ปีงดเล่นกีฬาเต็มๆ”
ไม่ได้รับงานเลย?
“มีงานเข้ามา แต่เราไปไหนไม่ได้ จะรับบทคนพิการมั้ยล่ะ (หัวเราะ) เดือนครึ่งก็ใช้ไม้เท้าพยุง จากเดือนครึ่งถึงสามเดือนใส่รองเท้าใหญ่ๆ มีฟื้นฟูโดยการเดินในน้ำครึ่งตัว วันละชม. เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อฝ่อมาก จริงๆ มีภาพ แต่ผมว่ามันอี๋ มันน่ากลัวมาก ผมถ่ายไว้เป็นที่ระลึก คิดว่าคนดูคงอ้วก”
ผ่าตรงไหนยังไง?
“มีแผลเต็มเลยตรงข้อเท้า เหลือแค่บริเวณเอ็นฝั่งด้านในที่ไม่ได้ผ่า เขาเปิดเกือบหมดเลยครับ”
คนเลยคิดว่าออกจากวงการ?
“ตอนนั้นเล่นละครไม่ได้ ไปไหนไม่ได้ ปีนี้เป็นปีที่ 3 หลังผ่า”
ตัดสินใจทำอาหารออนไลน์?
“ปกติอาหารผมก็ทำมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว ตอนนั้นที่ขายๆ เป็นอาหารญี่ปุ่น มีช่วงนึงทำเฉพาะออนไลน์อย่างเดียว และมีช่วงนึงเริ่มไปขายตามตลาด ผมชอบเกี๊ยวซ่าที่ผมทำ ทำไส้เองทั้งหมด ที่เลิกทำผมขอไม่ลงดีเทล แต่คิดว่าตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่ทำต่อ มันมีปัญหานิดหน่อย แต่ร้านผมขายดีมากเลยนะ”
มีข่าวเม้าธ์ตกสวรรค์แล้วเหรอ ไม่มีงานแล้วเหรอ ฟังแล้วเศร้ามั้ย?
“(หัวเราะ) ตอนนี้ฟังแล้วเฉยๆ ผมว่าแต่ละคนก็มีความคิดเห็นส่วนตัว ตอนแรกๆ ที่ฟังผมจำได้ว่าเรารู้สึกไม่ดีก่อนเลย ก็โทรปรึกษาพี่ๆ ผู้ใหญ่ว่าทำยังไงดี เขาก็ให้คำปรึกษาว่าให้หายใจลึกๆ เรามีโอกาสอยู่ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ผู้ใหญ่ยังให้โอกาส ผมโชคดีแหละ ถึงเจอคอมเมนต์ไม่ดี แต่มีผู้ใหญ่รอบตัวดีๆ ทำให้ไม่ออกไปนอกลู่นอกทาง”
เรื่องการแสดงโดนคอมเมนต์หนัก ได้ฉายาอะไร?
“เยอะเลย พระเอกโรบอต มีอันนึงเป็นคู่จิ้นหินแกรนิต มันแข็งโป้กเลยไง อะไรไม่ดีถาโถมมาหมดเลย”
คนแนะนำให้เปลี่ยนจนงงไปหมด?
“ด้วยความที่ผมก็ไม่ใช่คนแข็งแกร่งต่อโลก เราก็พยายามฟังทุกท่าน แต่ทุกท่านก็ให้คำปรึกษา หวังดีทุกอย่าง ผมเข้าใจ แต่ผมปรับใช้ไม่เป็นเอง ผมเป็นทุกอย่างให้ทุกคน สิ่งที่ได้มาผมรู้สึกว่าไม่ทำให้ทุกคนดีขึ้น ผมก็ไม่รู้สึกดี กลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ผมรู้สึกว่าตอนนั้นผมเป็นคนไม่ดี เราควรต้องเป็นอย่างอื่น ก็เลยปรึกษา และทำตามเขา เราทำตามแบบทื่อๆ โง่ๆ”
ยุคนี้อยากทำอะไรก็ทำ แต่เมื่อก่อนไม่ได้จริงๆ ภาพที่คนมอง บอมเหมือนคนแข็งแกร่ง แต่ข้างในอ่อนไหว?
“ใช่ครับ ผมมีร้องไห้ แต่ก็กลับไปร้องไห้ที่ห้องนอน ตอนกลางคืนเป็นความรู้สึกที่พอหลับตา เหมือนรันสิ่งที่ผมเก็บไว้ เป็นภาวะเบื้องต้นของซึมเศร้า หน้างานเราเจออะไรเราห้ามพูด หลายๆ อย่างเราเก็บไว้ จนกลางคืนมันอยู่ข้างใน เราไม่ได้เอามันออก ก็ต้องสู้ต่อไป”
ทำไมเลือกเก็บ ระบายกับคนรอบข้างบ้างมั้ย?
“จริงๆ มีระบายบ้าง แต่ไม่ใช่ทางออก เราเล่นละครออนแอร์ปุ๊บก็ไม่ได้รับคำชม มีแต่คำก่นด่า เราก็ทำยังไงดี ผู้ใหญ่ท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร ยังมีคนให้โอกาสอยู่ ให้มองไปข้างหน้า สู้ต่อไป พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ คุณแม่ก็บอก ผมก็พยายาม แต่ลึกๆ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจ”
มีคนบอกไม่ต้องอ่านคอมเมนต์?
“บางคนติเพื่อก่อ เรารับไว้ และพัฒนาตัวเอง แต่บางคนมาด่าเอามันส์ พวกนี้พอเราอ่านผ่านๆ แม้เราไม่สนใจ แม้มันเล็กน้อย แต่ถึงจุดนึงก็ตัดสินใจไปพบนักจิตบำบัด ปรึกษาพี่ที่เขาจบด้านวิทยา เป็นหมอ เขาก็พูดคุยเบื้องต้น สุดท้ายคุยยาวเลย เขาบอกว่าตอนนี้เหมือนมีภาวะเบื้องต้นของซึมเศร้า แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่บอมทำแล้วมีความสุขบ้าง อย่างกีฬา เล่นเกม แฮงก์เฮ้าส์เพื่อนๆ สิ่งนี้ทำดีท็อกซ์สิ่งไม่ดีออกไปบ้าง”
จัดการความรู้สึกยังไง นอกจากเล่นกีฬา?
“ถ้าระหว่างทำงาน เราก็พยายามคุมอารมณ์ แม้มีเครียดบ้าง นอกจากเล่นเกม คนรอบข้างก็สำคัญ”
เพื่อนสาวเป็นกำลังใจให้ อย่างน้องมินต์?
“มีหลายคน (หัวเราะ) เพื่อนๆ ทีมงานผม คุณพ่อคุณแม่ ก็จะเห็นแหละ ช่วงที่เราโดนเหมือนทุกอย่างทุบลงมา ใครไม่ทิ้งเรา เขาอยู่กับเราเสมอ”
ทำให้เล่นโซเชียลน้อยลงเลยมั้ย?
“เหมือนค่อยๆ เป็นไปเอง มันมีช่วงนึงเรารู้ว่าเราจะอิกนอร์ความคิดเห็นทุกคนไม่ได้หรอก เราอยู่ตรงนี้ มันเป็นสาธารณะ เราต้องรับฟังความคิดเห็นว่าทุกคนรู้สึกยังไงกับเรา แต่พอเราอ่านเยอะๆ เนกาทีฟมันเยอะมาก จนตัวเราเองลึกๆ คงสู้ไม่ไหว มันก็เลยเริ่มๆ อ่านน้อยลงเอง ปัจจุบันก็ไปอ่านอยู่บ้าง”
อะไรทำให้เป็นปมในใจถึงตอนนี้ มีลูกค้าหรือผู้ใหญ่หลายท่านพูดว่าไม่ชอบบอม?
“จริงครับ เคสนึงเพื่อนผมเลย เขาก็ทำงานติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ลูกค้าหานักแสดง แล้วโปรไฟล์ผมค่อนข้างเข้าเกณฑ์ ก็พยายามเสนอชื่อให้ทีมการตลาด ทุกคนเห็นด้วย ซัปพอร์ตหมดเลย ไปเสนอให้ซีอีโอ หัวหน้าบอกว่าลูกค้าแหละไม่อยากได้ คำที่เขาปัดตกออกมาคือเขาไม่ชอบจากข่าวเมื่อก่อน ผมก็ฟังแล้วไม่เป็นไร ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ซัปพอร์ต เขาไม่ชอบก็ไม่ต้องร่วมงานกันดีแล้ว เอาที่สบายใจ ผมไม่คิดมากนะ โอเค ในเมื่อพี่เขาเป็นเจ้าของเงิน เขาเป็นลูกค้า เขามีสิทธิ์เลือกอะไรที่เขาพอใจ ในเมื่อเขาไม่ชอบเรา ก็เป็นเรื่องที่ดีที่ผมไม่ต้องโดนบังคับให้ไปร่วมงานกับเขา เพราะเขาคงจ่ายเงินแบบไม่สะดวกใจ ก็ไม่เป็นไร เอาไว้ท่านไปจ่ายเงินกับคนที่ท่านรู้สึกดีดีกว่า ผมก็ไม่เป็นไร ผมเสียหนึ่งงาน ผมก็มีงานอื่น ไว้วาสนาตรงกัน ก็ค่อยมาร่วมงานกัน”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เรียนรู้ชีวิตว่าคนรอบข้างคนไหนอยู่ข้างเราจริงๆ วันที่เราเจ็บ วันที่เราล้ม?
“มีหลายคนตั้งแต่เกิดเรื่องต่างๆ ทุกอย่าง เขาคอยซัปพอร์ตเราเสมอ คอยเช็กอัปว่าเป็นยังไงบ้าง มิ้นต์ ชาลิดา ก็เป็นอีกคนนึงแต่ผมไม่ชอบพูดอะไรซึ้งๆ พูดตรงๆ เขาก็รู้แหละ บ้านเขาอยากนอนก็นอนได้เลย เขาเป็นบ้านที่อบอุ่น เวลคัมมากๆ บ้านนั้นรับแขกบ่อย บางมีม่อน (น้องมิ้นต์) ก็พาเพื่อนๆ มา เวลคัมหมด”
ช่วงเจอมรสุม มิ้นต์ให้กำลังใจเรายังไง?
“เขาก็โทรมาถาม เป็นไงบ้างแก แต่หลายปีหลังก็เจอน้อยลงแล้ว ช่วงแรกๆ เขาเป็นห่วงเป็นพิเศษ โอเคมั้ย บางทีไปถามจากผู้จัดการหรือผู้ช่วยว่าผมเป็นยังไงบ้าง”
ถ้ามิ้นต์ดูอยู่ อยากบอกอะไร?
“ขอบคุณแหละ ที่ไม่เคยทิ้งกัน ไว้กลับมาแล้วสอนเทนนิสให้ ไม่อยากพูด (หัวเราะ)”
อยากบอกอะไรคนให้กำลังใจเรา?
“จริงๆ อยากขอบคุณมากๆ (ยกมือไหว้) ทั้งครอบครัว เพื่อนๆ แฟนคลับทีมงานผม หลายท่านๆ ที่ยังคอยซัปพอร์ต ให้กำลังใจ ผมรู้มันมีค่ามากๆ ช่วงผมอ่านคอมเมนต์แย่ๆ คำเหล่านี้ที่เจอระหว่างทาง ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น ผมผ่านมาได้จากตรงนั้นเพราะการซัปพอร์ตจากทุกคนด้วยครับ”
อายุ 30 แล้ว โสดหรือเปล่า?
“ไม่โสดครับ (หัวเราะ)”
คนในหรือนอกวงการ?
“เขาทำหลายๆ อย่าง มีงานในวงการบ้างเล็กๆ น้อยๆ”
เปิดตัวมั้ย?
“ไปไหนกับเขาตลอดนะ ไม่ได้เปิด แล้วก็ไม่ได้ปิด”
คบนานหรือยัง?
“ปีนี้เป็นปีที่ 3 ไปไหนไปกับเขาตลอด เจอก็ทักทายได้ เขาไปร้านผมด้วยนะ”
ทำไมไม่โพสต์ลงโซเชียล?
“ผมเล่นโซเชียลน้อย ก็ไม่มีเหตุผลเลยนะ แต่ผมก็ไปกับเขาตลอด คนเจอเยอะแยะมากมาย”
เขาเป็นคนยังไง ทำให้อยู่แล้วอบอุ่นหัวใจ?
“จริงๆ หลังๆ ไม่ได้วางสเปกแล้ว (เขิน) อายุก็มากขึ้นเรื่อยๆ หลักๆ คือคนเข้าใจ คำเดียวเลย สำคัญมากๆ เข้าใจกันและกัน พอคบไปเรื่อยๆ มีนั่นมีนี่ เรียนรู้ข้อดีไม่เท่าไหร่ แต่ข้อเสียแต่ละคนก็ค่อยๆ เรียนรู้กันไป”
มีสรรพนามเรียกกันมั้ย?
“มีเรียก..เขินนะเนี่ย วันนี้แฟนไปไหนเปล่า (หัวเราะเขิน) เขาก็เรียกเหมือนกันๆ แหละ แฟนไปไหนเปล่า เขางานเยอะ ชอบทำงาน”
เขินจนมือบิดหมดแล้วพอพูดถึงแฟน ตอนนี้กลับมารับงานหรือยัง?
“กลับมารับงานแล้วครับ ใครติดต่ออะไรก็ได้แล้วครับ เล่นละครที่ไหนก็ได้ อิสระแล้ว ตอนนี้เล่นบทอะไรก็ได้ จะให้ถอดขาเหลือข้างเดียว ผมก็ไปให้ได้ (หัวเราะ) พร้อมทำงานมากครับ”
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ : https://youtu.be/1-llh3uA-Dk?si=3NM1SA6SnrDIJeNQ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี