สภาฯพม่าเทเสียงหนุน

‘ถิ่นจอ’ประธานาธิบดี

พลเรือนคนแรกใน50ปี

ย้ำเป็นชัยชนะของ‘ซูจี’

กระบวนการประชาธิปไตยในประเทศเมียนมาหรือพม่า ก้าวเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งการผลัดใบอย่างเต็มรูปแบบ ภายหลังสภาแห่งสหภาพเมียนมา ได้ลงมติเลือก นายถิ่น จอ ตัวแทนจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) และเป็นคนสนิทของ นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคเอ็นแอลดี ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ โดยจะมีพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายนนี้

โดยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ซึ่งมีการประชุมสภาแห่งสหภาพเมียนมา โดยมีวาระสำคัญ คือ การหยั่งเสียงเพื่อเลือกประธานาธิบดี ผลปรากฏว่า นายถิ่น จอ ตัวแทนจากฝั่งสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถูกเสนอชื่อโดยพรรคเอ็นแอลดี ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 360 เสียง จากทั้งหมด 652 เสียง ขณะที่ผู้ได้รับการเสนอชื่ออีก 2 ราย คือ พล.ท.มยินต์ ส่วย นายทหารเกษียณอายุราชการ คนสนิทของ พล.อ.อาวุโส ตานฉ่วย อดีตผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งสมาชิกสายทหารเป็นผู้เสนอชื่อ ได้รับเสียงสนับสนุน 213 เสียง และ นายเฮนรี วาน ฮตี ยู วุฒิสมาชิกจากพรรคเอ็นแอลดี ซึ่งมีเชื้อสายกลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐชิน ทางตะวันตกของประเทศ และเป็นตัวแทนที่ได้รับการเสนอชื่อจากสภาชนชาติ หรือสภาสูง ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 79 เสียง

“ผมขอประกาศว่า ถิ่น จอ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ด้วยคะแนนเสียงมากที่สุด” นายมาน วิน ข่าย ถั่น ประธานรัฐสภา ประกาศขึ้นอย่างเป็นทางการภายหลังขั้นตอนการนับคะแนนด้วยมือที่ใช้เวลานานสิ้นสุดลง ท่ามกลางเสียงปรบมือแสดงความยินดีของสมาชิกจำนวนมากในสภา

นายถิ่นจอ กล่าวว่า ถือเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของเมียนมา เป็นชัยชนะของประชาชนชาวเมียนมาและนางอองซาน ซูจี ซึ่งเป็นเหมือนพี่สาวของเขา โดยเขาจะทำหน้าที่เพื่อชาวเมียนมาทุกคนให้ดีที่สุด

สำหรับ นายถิ่น จอ วัย 70 ปี เป็นคนใกล้ชิดที่ นางซูจี ไว้วางใจ จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ และกลับมารับราชการที่กระทรวงต่างประเทศอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะลาออกมาเข้าร่วมกับพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี สมรสกับ นางซู ซู ลวิน ซึ่งเป็น ส.ส. ของพรรคเอ็นแอลดี โดย นายถิ่น จอ ถือเป็นประธานาธิบดีพลเรือนคนแรกของเมียนมาในรอบกว่า 50 ปี และเป็นประธานาธิบดีพลเรือนคนแรกของเมียนมาที่มาจากการเลือกตั้ง โดยคาดว่าเขารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 1 เมษายนนี้ หลังจากประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ผู้นำคนปัจจุบัน พ้นจากเก้าอี้ในวันที่ 31 มีนาคม

สำหรับสาเหตุที่ นางซูจี ผลักดัน นายถิ่น จอ เป็นประธานาธิบดี เนื่องจากตัวเธอมีบุตรถือสัญชาติอังกฤษ ขณะที่รัฐธรรมนูญมีเนื้อหาห้ามมิให้บุคคลที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นชาวต่างชาติดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ ซึ่งแม้พรรคเอ็นแอลดีจะใช้ความพยายามหลายสัปดาห์ แต่ก็ไม่อาจโน้มน้าวให้กองทัพเปลี่ยนใจ แก้ไขเนื้อหาที่สกัดกั้นนางซูจีในการนั่งแท่นผู้นำประเทศได้

อย่างไรก็ตาม นางซูจี ได้กล่าวเสมอว่า แม้เธอจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ แต่ก็จะเป็นผู้บริหารประเทศ ผ่านประธานาธิบดีตัวแทนของเธอ สำหรับภารกิจต่อไปของพรรคเอ็นแอลดีก็คือการเริ่มกระบวนการจัดตั้งคณะรัฐบาล ก่อนเริ่มงานบริหารประเทศในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของ นายถิ่น จอ ว่า เป็นประชามติของประชาชนจากการเลือกตั้งตามกฎหมาย ความสัมพันธ์ไทย-เมียนมาดีอยู่แล้ว เนื่องจากประเทศในอาเซียนจะความสัมพันธ์ผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1.ผ่านรัฐบาล ซึ่งจะเป็นรัฐบาลเลือกตั้งหรืออะไรก็แล้วแต่ และ 2.คือความสัมพันธ์ของกองทัพ ซึ่งทั้ง 2 ทางก็ดีอยู่แล้ว จึงต้องขอแสดงความยินดีกับ นายถิ่น จอ