ทั้งเผา-ทั้งทุบ-ต้าน‘ทรัมป์’
โอเรกอนเดือด!
ตะลุมบอนตร.-จับแล้ว29
ปชช.ยังลุกฮือต่อเนื่อง
ว่าที่ประธานาธิบดีโวย
จวกแหลกม็อบจัดตั้ง
จ่อดันคนสนิทนั่งเก้าอี้
กลุ่มผู้ประท้วงคัดค้านไม่ให้ นายโดนัลด์ทรัมป์ ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ยังคงออกมาชุมนุมกันตามท้องถนนในหลายเมือง เช่น ฟิลาเดลเฟีย พอร์ตแลนด์ บัลติมอร์ ดัลลัส และแกรนด์ แรปิดส์ แม้ว่าจำนวนผู้มาร่วมชุมนุมจะลดลงกว่าคืนแรกอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ นายทรัมป์โวยมีแต่ม็อบจัดตั้ง ไม่ทันไรก็ออกมาประท้วงถือเป็นเรื่องไม่ยุติธรรม
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วง ยังคงออกมาชุมนุมกันตามท้องถนนในหลายเมือง โดยส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษาและวัยรุ่นพากันออกไปชุมนุมตามท้องถนนเป็นวันที่ 2 ในคืนพฤหัสบดี เช่นที่นครซานฟรานซิสโก นักเรียนนักศึกษาราว 1,000 คน เดินขบวนผ่านย่านธุรกิจ ไปยังศาลาว่าการพร้อมตะโกนว่า นายทรัมป์ไม่ใช่ประธานาธิบดีของพวกเขา ผู้ประท้วงคนหนึ่งกล่าวว่า พวกเขาต้องการลุกขึ้นปกป้องสิทธิ พร้อมทั้งกล่าวหาว่า นายทรัมป์เป็นพวกเหยียดเชื้อชาติ เนื่องจากต่อต้านผู้อพยพและชาวมุสลิม ส่วนที่นครลอสแองเจลิส นักเรียนนักศึกษาหลายร้อยคนเดินขบวนที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย-ลอสแองเจลลิส(ยูซีแอลเอ) ชูป้ายต่อต้านนายทรัมป์ ด้านนครนิวยอร์ค ผู้ประท้วงราว 200 คน รวมตัวกันที่จตุรัสวอชิงตัน สแควร์ ปาร์ค ในย่านแมนฮัตตัน ส่วนที่เมืองบัลติมอร์ รัฐวอชิงตัน ผู้ชุมนุมราว 600 คนเดินขบวนไปตามท้องถนนอย่างสงบ ขณะที่เมืองมินนีแอโพลิส ผู้ประท้วงปิดทางหลวงที่เชื่อมระหว่างรัฐเป็นเวลาสั้นๆ
โอเรกอนเดือด-รวบผู้ชุมนุม29ราย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า มีผู้ประท้วงกลุ่มเล็กรวมตัวกันที่หน้าตึกทรัมป์ ทาวเวอร์ในนครชิคาโก แต่ถูกผู้ที่ขับรถผ่านมารายหนึ่งตะโกนใส่ว่า “หุบปากและยอมรับประชาธิปไตยซะ” ส่วนการชุมนุมประท้วงที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอนกลายเป็นเหตุจลาจลและความรุนแรง เมื่อผู้ประท้วงหลายพันคนซึ่งชุมนุมย่านใจกลางเมือง พากันทุบทำลายกระจกอาคารร้านค้าริมถนน และทุบทำลายรถยนต์หลายคัน รวมถึงจุดไฟเผาถังขยะและยางรถยนต์ และขว้างปาวัตถุเข้าใส่ตำรวจปราบจลาจล เจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม มีผู้ถูกจับกุมตัวไปอย่างน้อย 29 คน
ภาพรวมผู้ประท้วงน้อยกว่าคืนแรก
ก่อนหน้านี้ มีประชาชนประมาณ 6,000 คน ปิดถนนในเมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยกลุ่มผู้ประท้วงขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในชุดปราบจลาจล เผาถังขยะกลางสี่แยก จุดประทัด และทุบทำลายร้านค้าต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยการยิงแก็สน้ำตาเข้าใส่ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 คน และรถยนต์ตำรวจเสียหาย 2 คัน อย่างไรก็ดี ภาพรวมของการประท้วงถือว่าสงบเรียบร้อย และมีผู้ออกมาชุมนุมประท้วงน้อยกว่าคืนวันพุธซึ่งเป็นคืนแรกหลังทราบผลการเลือกตั้ง
“ทรัมป์”หยันม็อบจัดตั้ง-ไม่ยุติธรรม
ด้านนายทรัมป์ทวีตข้อความตำหนิกลุ่มผู้ประท้วงว่า ตัวเขาเพิ่งจะผ่านการเลือกตั้งที่เปิดกว้างโปร่งใสและชนะมาด้วยคะแนนท่วมท้น แต่ไม่ทันไร บรรดาผู้ประท้วงมืออาชีพซึ่งถูกสื่อปลุกปั่นยุยง และเป็นเพียงม็อบจัดตั้งกลุ่มเล็กๆ ต่างก็ออกมาคัดค้านเขาเสียแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
ทรัมป์ยันทำให้ชาวอเมริกันประทับใจ
ส่วนความคืบหน้าของนายทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ เผยหลังการเข้าพบหารือกับ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐที่ทำเนียบขาว, นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกัน และนายมิทช์ แม็กคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาว่า หลังการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี วันที่ 20 มกราคม 2017 เขาจะเร่งทำงานแก้ปัญหาต่างๆ เช่นหลักประกันสุขภาพและการอพยพเข้าเมือง รัฐบาลจะลดภาษีอย่างที่ทราบก่อนหน้านี้ และจะสร้างความประทับใจอย่างเต็มที่สำหรับชาวอเมริกัน
สื่อมะกันเปิดโผ“ครม.ทรัมป์”
ขณะที่สื่อสหรัฐฯ เปิดเผยรายชื่อของกลุ่มบุคคลที่มีความเป็นไปได้ที่นายทรัมป์จะแต่งตั้งเข้ารับตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล เริ่มจากนายเจฟ เซสชันส์ ส.ว.รัฐแอละแบมา หนึ่งในกลุ่มผู้ที่สนับสนุนนายทรัมป์อย่างเหนียวแน่น อาจได้นั่งตำแหน่ง รมต.กลาโหม ขณะที่ ไมเคิล ฟลีนน์ อดีต ผอ.สำนักงานข่าวกรองกลาโหม ที่มีบทบาทสำคัญในการหาเสียง อาจได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ นอกจากนี้ นายนิวต์ กิงกริช อดีต ส.ส. และบ็อบ คอร์เกอร์ ส.ว.รัฐเทนเนสซี ก็อยู่ในข่ายอาจได้ดำรงตำแหน่ง รมต.ต่างประเทศ
รองปธ.รีพับลิกันส่อนั่งโฆษกฯ
แหล่งข่าวยังเผยด้วยว่า นายไรน์ซ พรีบัส ประธานกรรมาธิการแห่งชาติของพรรครีพับลิกน ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่ทรัมป์ให้ความไว้วางใจ อาจได้รับการแต่งตั้งให้รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ส่วนนายฌอง สปีเซอร์ รองประธานพรรครีพับลิกัน อาจได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกทำเนียบขาว นอกจากนี้ ยังมีนางเคลลีแอนน์ คอนเวย์ ผู้จัดการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง น่าจะได้ตำแหน่งที่ปรึกษาระดับสูงในทำเนียบขาวเช่นกัน ส่วนเบน คาร์สัน ศัลยแพทย์ทางประสาท อาจได้รับตำแหน่ง รมต.ศึกษาธิการ
เปิดเว็บ-ทวิตเตอร์ติดตามผลงาน
ด้าน นายริชาร์ด เกรเนลล์ อดีตโฆษกสหประชาชาติ(ยูเอ็น) มีลุ้นได้รับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูอ็น ส่วนผู้สนับสนุนคนอื่นๆ ที่ถูกอ้างชื่อในสื่อว่าอาจได้รับตำแหน่ง รมต. เช่นนางซาราห์ แพลิน อดีตผู้สมัครรองประธานาธิบดี, นายไมค์ ฮัคคาบี อดีตผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอส์ และนายคริส คริสตี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี ทั้งนี้ สื่อสหรัฐฯ รายงานด้วยว่า ทีมงานถ่ายรับถ่ายโอนอำนาจบริหารประเทศของนายทรัมป์ได้จัดทำเว็บไซต์ https://www.greatagain.gov/ และทวิตเตอร์ (@transition2017) เพื่อให้ติดตามแผนการบริหารประเทศ
สั่งห้ามบินเหนือ”ทรัมป์ ทาวเวอร์”
ขณะเดียวกัน สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ(เอฟเอเอ ) ออกแถลงการณ์ประกาศเขตห้ามบินในระดับต่ำกว่า 3,000 ฟุต ในรัศมี 2 ไมล์ จากอาคาร ทรัมป์ ทาวเวอร์ ในย่านฟิฟธ์ แอเวนิว ใจกลางของเขตแมนฮัตตัน ในนครนิวยอร์ค ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่พำนักของนายทรัมป์ โดยมีผลบังคับใช้จนกว่าจะผ่านพ้นวันที่ 21 มกราคม 2017 หรือ 1 วันหลังทรัมป์เข้าทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี
บิ๊กตู่เผยมีแผนรับนโยบายสหรัฐฯ
ในส่วนของประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเตรียมรับมือความผันผวนจากนโยบายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า ได้เตรียมการมานานแล้ว และต้องไปดูว่าสิ่งที่ประธานาธิบดีคนใหม่ได้พูดถึงนโยบายไว้ซึ่งหลักๆ มี 4 ข้อ เราก็เตรียมมาตรการรองรับสิ่งเหล่านี้อยู่ เพราะเราไปบังคับใครไม่ได้ แต่เราเองได้ตั้งหลักมานานพอสมควรแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย ตอนนี้อย่าไปตกใจกับเขา ที่ผ่านมาเราไม่ได้ค้าขายกับเขาแค่ประเทศเดียว เราต้องกล้าที่จะคิดและเตรียมการ ถ้ากลัวทุกอย่าง เราก็แตกตื่นกันไปหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี