ลูกหลงเขื่อนลาว‘แตก’

เขมรหนีตาย

น้ำทะลักจม4เมืองใหญ่

สูงพรวด11ม.-5พันหลังมิด

นายกฯลาวชี้แรงสุดรอบ10ปี

สั่งตั้งกก.สอบเรียกค่าเสียหาย

ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยสปป.ลาว รัฐบาลแม่งานหลักนำภาครัฐ-เอกชน เปิดรับบริจาคสิ่งของ-เงิน-เครื่องอุปโภคบริโภคส่งซับน้ำตาเหยื่อเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก “บิ๊กตู่” ย้ำพร้อมช่วยทุกด้าน ห่วงระยะฟื้นฟู “วิษณุ”เผยลาวร้องขอเรือไปใช้บรรเทาทุกข์ แจงส่งเงิน-ทหารลงพื้นที่แล้ว ด้านทีมกู้ภัยไทยเริ่มภารกิจค้นหาผู้สูญหาย ขณะที่ผู้นำลาวชี้รุนแรงสุดในรอบ 10 ปี ตั้งกรรมการฯสอบหาสาเหตุ เพื่อเรียกค่าเสียหาย ด้านเขมรผวาลูกหลง!มวลน้ำจากเขื่อนเซเปียนฯทะลักท่วมจังหวัดสตรึงแตรง อพยพหนีตายจ้าละหวั่น ทุกภาคส่วนระดมส่งความช่วยเหลือรัฐบาลและประชาชนชาวสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) หลังเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก ส่งผลให้มวลน้ำมหาศาลทะลักท่วมถล่มเมืองสนามไชย แขวงอัตตะปือ ตอนใต้ขอสปป.ลาว ทำให้มีชาวบ้านสูญหาย ไร้ที่อยู่ เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

ยันพร้อมช่วยลาวทุกด้าน-ห่วงฟื้นฟู

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากเหตุการณ์เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตกว่า รัฐบาลมอบเงินช่วยเหลือไปก้อนหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ รวมถึงภาคเอกชน ซึ่งตนได้พูดคุยกับนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวแล้ว นายกฯลาวดีใจและตื้นตันใจ เรื่องนี้อย่ามองแค่ไทยหรือลาวเกิดภัยพิบัติ แต่ให้เรียกว่าเป็นการสร้างวัฒนธรรมอาเซียน การอยู่กันอย่างพหุสังคม ทุกประเทศต้องรักกัน ถึงเวลาเราเดือดร้อนก็ต้องมาช่วยกัน

“ผมได้ขอบคุณลาวที่ส่งทีมกู้ภัยมาช่วยเหลือทีมหมูป่าเป็นประเทศแรก ซึ่งการช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องตอบแทน แต่ใครเดือดร้อนก็ต้องดูแล อย่ามองแค่ในประเทศ”นายกฯกล่าว และว่า ปัญหาน่าจะเริ่มคลี่คลายเร็วนี้ แต่จะลำบากเรื่องการฟื้นฟูและความเป็นอยู่ ซึ่งไทยจะเข้าไปช่วยทุกด้าน ทั้งการทำถนน สร้างบ้านพักอาศัย ขณะที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีก็ได้เปิดบัญชีรับบริจาค รวมถึงเอกชน ซึ่งเป็นการช่วยระยะแรก แต่ต่อไปเงินในการช่วยเหลือจะต้องเพิ่มมากขึ้น เพราะต้องนำไปสร้างที่อยู่อาศัย

ลาวร้องขอเรือใช้บรรเทาทุกข์

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางช่วยเหลือสปป.ลาวว่า มี 3 ส่วนด้วยกัน 1.กระทรวงการต่างประเทศประสานไปว่าลาวต้องการอะไรบ้าง เบื้องต้นทราบว่า รัฐบาลลาวต้องการเรือ เพื่อนำไปช่วยภารกิจบรรเทาทุกข์ เพราะการลงพื้นที่ลำบาก 2.เราส่งทหารทุกเหล่าทัพ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว และ3.ส่งเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 5 ล้านบาท เพื่อเอาไปใช้บรรเทาปัญหาเร่งด่วนตามที่เขาต้องการ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องอาหารแห้งที่จะส่งไปช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน ยังเปิดช่องทางรับบริจาค โดยสำนักนายกรัฐมนตรี และ อสมท

มท.เร่งเปิดรับบริจาคเน้นของแห้ง

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเปิดรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือชาวลาวว่า สิ่งของที่ประชาชนจะร่วมบริจาคนั้น กระทรวงมหาดไทยจะลงสำรวจพื้นที่ แต่อยากขอร้องประชาชนว่าควรเป็นของแห้งและสิ่งของอุปโภคจะดีกว่า หลังจากนี้จะมอบหมายให้นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประชาสัมพันธ์ว่าพื้นที่ใดบ้าง ต้องการรับสิ่งของบริจาคประเภทไหน ซึ่งของที่ต้องการรับบริจาคขณะนี้คือ ของที่สามารถใช้ได้เลย เช่น อาหาร น้ำดื่ม เสื้อผ้า และสิ่งของจำเป็น

สธ.เปิดศูนย์-ส่งแพทย์ช่วยเหยื่อเขื่อนแตก

อีกด้านหนึ่ง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สั่งเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) ให้การสนับสนุนช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีสันเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก ซึ่งวันเดียวกันนี้ ศูนย์ EOC ส่งทีมประเมินสถานการณ์ ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ( MCATT) เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยาชุดน้ำท่วม 5,000 ชุด ตามการประสานงานจากหัวหน้าแผนกสาธารณสุขแขวงจำปาสัก เพื่อช่วยสนับสนุนเติมเต็มในการช่วยเหลือประชาชน

สภาสตรีฯมอบ1ล้านซับน้ำตา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากรัฐบาล โดยสำนักนายกรัฐมนตรี และอสมท ร่วมเปิดศูนย์รับบริจาคแล้ว ยังมีอีกหลายหน่วยในภาคเอกชน เปิดรับบริจาคทั้งเป็นเงินและสิ่งของ เช่น สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดยดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีฯเผยว่า วันที่ 27 กรกฎาคมตนพร้อมคณะกรรมการฯ จะเดินทางไปกรุงเวียงจันทน์ เพื่อมอบเงินส่วนตัวผ่านรัฐบาลสปป.ลาวก่อน 1 ล้านบาท เพื่อนำไปบรรเทาทุกข์เบื้องต้น ผ่านศูนย์กลางสหพันธ์แม่หญิงลาว นำโดย ดร. อินลาวัน แก้วบุญพัน ประธานศูนย์กลางสหพันธ์แม่หญิงลาว จากนั้น สภาสตรีฯจะเป็นแม่งานเปิดรับบริจาคสิ่งของ หรือสามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีรับบริจาค ธนาคารธนชาต สาขาสำนักสวนมะลิ ชื่อบัญชี “กองทุนฟื้นฟูผู้ประสบภัย” เลขที่บัญชี 789-6-39297-6 พร้อมกันนี้ขอเชิญคนไทยร่วมบริจาคสิ่งของจำเป็น อาทิ น้ำดื่ม ยารักษาโรค ได้ที่บ้านมนังคศิลา ถนนหลานหลวง เขตดุสิต กรุงเทพฯ

หนองคายระดมบริจาค

เช่นเดียวกับ ที่จ.หนองคาย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานรับบริจาคจากส่วนราชการ ภาคเอกชน และชาวหนองคายในการช่วยเหลือคนสปป.ลาว โดยเปิดรับทั้งเงินสด สิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยกันบริจาคอย่างต่อเนื่อง โดยนายรณชัยกล่าวว่า จังหวัดได้ประสานสถานทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์เพื่อส่งต่อสิ่งของและเงินไปแจกจ่ายต่อให้ประชาชน สปป.ลาว

นายกฯลาวชี้รุนแรงสุดรอบ10ปี

ส่วนสถานการณ์ในเขตสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ ที่ตั้งเขื่อนผลิตผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน – เซน้ำน้อยที่ทรกตัวและพังส่งผลให้มวลน้ำจำนวนมหาศาลไหลท่วมหมู่บ้านอย่างน้อย 7 แห่ง ชาวบ้านนับพันครัวเรือนเดือดร้อน ด้านนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีของลาวแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า สาเหตุที่เขื่อนแตก เพราะฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ประกอบกับสันเขื่อนทรุดตัว เหตุดังกล่าวถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี

ตั้งกก.หาสาเหตุลุยเรียกค่าเสียหาย

นายทองลุนยังแถลงถึงตัวเลขผู้สูญหายอยู่ที่ 131 ราย และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน ซึ่งขณะนี้บางพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว ทิ้งซากโคลนทับถมบ้านเรือนชาวบ้านเสียหายจำนวนมาก แต่ยังมีอีกหลายหมู่บ้านน้ำท่วมสูงอยู่ พร้อมระบุว่า ได้ตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาเพื่อรับมือกับสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ขณะที่เตรียมสืบสวนหาสาเหตุสันเขื่อนแตกดังกล่าวเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป ขณะเดียวกัน ขอขอบคุณทุกความช่วยเหลือด้านต่างๆ จากมิตรประเทศ

ทีมกู้ภัยไทยเริ่มภารกิจค้นหาผู้สูญหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ ทีมกู้ภัยของไทย ซึ่งประกอบด้วย หน่วยกู้ภัย ฮุก31 นครราชสีมา สยามนนท์ อัลฟาร์ เมตตาธรรม พนมเวช ประชุมวางแผนแบ่งภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุกภัยที่แขวงอัตตะปือร่วมกับผู้บัญชาการหน่วยกู้ภัยสปป.ลาว โดยแบ่งเป็น 2 ภารกิจหลักคือ ค้นหาผู้ประสบภัย 15 ชีวิตที่สูญหาย บริเวณบ้านไซดอนโขง แขวงอัตตะปือ ภารกิจที่ 2 คือ การเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อีกประมาณ 700 คน ที่ติดอยู่บริเวณบ้านตำมะหยอด แขวงจำปาสัก ที่รอการช่วยเหลือจากทางการ เบื้องต้น มีการร้องขออาหาร น้ำดื่มและเครื่องนุ่งห่ม เนื่องจากมีฝนตกลงมาตลอดทั้งวันและสภาพอากาศเย็น

เขมรผวา!น้ำจากลาวทะลักท่วม

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ ซึ่งติดตามสถานการณ์น้ำหลังเขื่อนแตกในลาวต่อเนื่อง รายงานว่า เจ้าหน้าที่จังหวัดสตึงแตรง (Stung Treng) ต้องออกปฎิบัติการกู้ภัยฉุกเฉิน เพื่ออพยพประชาชนประมาณ 1,200 ครัวเรือนไปอยู่ในที่ปลอดภัย สืบเนื่องจากเขื่อนในลาวแตก ส่งผลกระทบให้หลายหมู่บ้านในกัมพูชา ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งแม่น้ำเซกอง ส่วนปลายน้ำของแม่น้ำสายเดียวกันที่ชื่อแม่น้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ที่ส่งน้ำป้อนให้เขื่อนพลังน้ำในลาวที่แตก ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน ระดับน้ำยังเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง บางพื้นที่ของกัมพูชาสูงถึง 11.5 เมตร ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านจมอยู่ใต้น้ำทั้งหลัง

โฆษกประจำจังหวัดสตึงแตรง เมน กงแถลงว่า มีประชาชนประมาณ 1,200 ครอบครัวจาก 17 หมู่บ้านใน 4 ชุมชนของอำเภอเสียมปางต้องอพยพออกนอกพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

อพยพ5พันครอบครัวใน4เมือง

ต่อมาโฆษกคณะกรรมการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของกัมพูชา (NCDM)แถลงผลกระทบจากเขื่อนแตกในลาวว่า มากกว่า 5,000 ครอบครัวที่อาศัยอยู่ในสี่เมืองทางเหนือของกัมพูชาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เจ้าหน้าที่ของเราได้อพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย แต่ไม่มีรายงานการเสียชีวิต