14 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้นำเกาหลีใต้ขอให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องหาทางช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ที่ถูกแก๊งสแกมเมอร์ลักพาตัวไปทำงานในกัมพูชา เพื่อนำเหยื่อเหล่านี้กลับบ้านทันที หลังเกิดเหตุนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ถูกแก๊งสแกมเมอร์ทรมานจนเสียชีวิต เป็นข่าวใหญ่สร้างความตกใจไปทั่วประเทศ

สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า ประธานาธิบดีอี แจ มยอง เรียกร้องในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ขอให้กระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างช่องทางการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของสองประเทศ ผ่านการปรึกษาหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ขณะเดียวกันจะต้องเร่งหาตัวชาวเกาหลีใต้ที่ถูกลักพาตัวไปกัมพูชาและช่วยเหลือให้ได้โดยทันที และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และเด็ดขาดในการแก้ไขปัญหานี้ นอกจากนี้ยังต้องเข้มงวดมาตรการจำกัดการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีอัตราการก่ออาชญากรรมสูงโดยทันที

นายพัค มินโฮ นักศึกษาชาวเกาหลีใต้วัย 22 ปีถูกแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาทรมาน และเสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา การเสียชีวิตดังกล่าวทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และกัมพูชาตึงเครียดขึ้น ขณะที่คดีการลักพาตัวชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชาในช่วงไม่กี่เดือนมานี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้นายวี ซุง แล็ก ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติเสนอให้ตั้งชุดทำงานเฉพาะกิจฉุกเฉินเพื่อส่งตัวพลเมืองเกาหลีใต้กลับประเทศ โดยจะส่งตำรวจเกาหลีใต้เข้ามาทำงานร่วมกับตำรวจกัมพูชาโดยตรง แทนที่จะดำเนินการผ่านเจ้าหน้าที่ทูตทั้งสองฝ่าย ขณะที่นักการเมืองอาวุโสคนหนึ่งของเกาหลีใต้โพสต์ข้อความระบุว่า หากกัมพูชาไม่ตอบสนองอย่างเพียงพอเกาหลีใต้อาจจะพิจารณาแนวทางกดดันอื่นๆ รวมทั้งการใช้กำลังทหารเพื่อปกป้องชีวิตพลเมืองเกาหลีใต้

คดีการเสียชีวิตของนักศึกษาชาวเกาหลีใต้นำไปสู่การเปิดโปงข้อมูลการลักพาตัวชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา ข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า คดีลักพาตัวเพิ่มขึ้นเป็น 220 คดีเมื่อปีที่แล้ว จากที่เคยมีเพียง 17 คดีในปี 2566 และในปีนี้ข้อมูลจนถึงเดือนสิงหาคมพบว่าเพิ่มขึ้นเป็น 330 คดีแล้ว

รัฐบาลเกาหลีใต้มีคำเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมายังกัมพูชาโดยไม่มีเหตุจำเป็น โดยเฉพาะพื้นที่เมืองสีหนุวิลล์ และภูเขาโบกอร์ในจังหวัดกัมปอต ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นแหล่งก่ออาชญากรรมและการค้ามนุษย์ และเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ได้ยกระดับคำแนะนำการเดินทางไปกรุงพนมเปญของกัมพูชา จากระดับ 2 ที่ให้ใช้ความระมัดระวัง เป็นระดับพิเศษ หรือเท่ากับ 2.5 จากทั้งหมด 4 ระดับ ที่ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางหรือเดินทางออกมา ซึ่งเป็นระดับที่ใช้อยู่แล้วกับพื้นที่ทางใต้และพื้นที่ชายแดนกัมพูชาใกล้กับเวียดนาม

ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากลเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า มีแหล่งอาชญากรรมขนาดใหญ่อยู่ในกัมพูชาถึง 53 แห่ง และกล่าวหารัฐบาลกัมพูชาว่าปล่อยให้แก๊งอาชญากรรมกระทำความผิดโดยที่รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการปราบปรามใดๆ เลย