26 มิ.ย.62 เว็บไซต์ นสพ. Asian Nekkei Review ของญี่ปุ่น เสนอรายงานพิเศษ "Thai industrial developers reap spoils of US-China trade war" เมื่อ 26 มิ.ย.62 ระบุว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่ต่างฝ่ายต่างตั้งกำแพงภาษีเพื่อกีดกันการนำเข้าสินค้าของกันและกันนั้น อาจทำให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยเฉพาะไทยได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนจากจีน
อาทิ ในพื้นที่ จ.ระยอง ของประเทศไทย Holley Group บริษัทผลิตมิเตอร์ไฟฟ้าที่มีต้นกำเนิดในเมืองหังโจว (Hangzhou) ประเทศจีน ได้ตั้งโรงงาน ณ นิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของกลุ่มอมตะ (Amata) ในชื่อ Holley Group Electric Thailand โดยมีแผนส่งออกผลิตภัณฑ์บางส่วนไปยังสหรัฐ แคนาดาและยุโรป เช่นเดียวกับ Zhongce Rubber Group Thailand ได้ตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราเป็นยางมอเตอร์ไซค์ มีเป้าหมายส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ ยุโรป รวมถึงประเทศในกลุ่มอาเซียน
ข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ประเทศไทย ระบุว่า การลงทุนของจีนในไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 มีจำนวน 503 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 5.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าผลกระทบจากสงครามการค้าคือปัจจัยสำคัญ ขณะที่ วิบูลย์ กรมดิษฐ์ (Viboon Kromadit) ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการตลาดของนิคมอุตสาหกรรมอมตะ เปิดเผยว่า มีบริษัทจีนกว่า 100 แห่ง สนใจตั้งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมการยนต์และส่วนประกอบ
รายงานของสื่อญี่ปุ่น กล่าวต่อไปว่า ณ ปี 2561 นิคมอุตสาหกรรมอมตะขายที่ดินไปแล้วเกือบ 1.7 ล้านตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปี 2560 ในจำนวนนี้หลายแสนตารางเมตรขายให้กับนักลงทุนจีน อาทิ Zhenxiong Copper ผู้ผลิตลวด และ Delong ผู้ผลิตเหล็กกล้า แม้ทั้ง 2 บริษัทจะดำเนินการในไทยอยู่แล้ว แต่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนยิ่งกระตุ้นให้ขยายกิจการในไทยเพิ่มขึ้น เพราะลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐ
ทั้งนี้ ร้อยละ 36.5 ของบริษัทในนิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง เป็นบริษัทสัญชาติจีน มากกว่าบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมอมตะมายาวนาน ราคาที่ดินในนิคมเพิ่มสูงขึ้นจากตารางเมตรละ 5,300 บาทเป็น 6,900 บาท อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีแต่นิคมอุตสาหกรรมอมตะเท่านั้นทีได้ประโยชน์จากการหลั่งไหลเข้ามาของทุนจีน ยังมี WHA (WHA Industrial Development) ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมอีกรายหนึ่งที่ได้เช่นกัน
จรีพร จารุกรสกุล (Jareeporn Jarukornsakul) ซีอีโอของ WHA เปิดเผยว่า ในปี 2561 สามารถขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม WHA ได้ถึง 1.6 ล้านตารางเมตร ในจำนวนนี้ร้อยละ 40 เป็นบริษัทสัญชาติจีน และเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีนักลงทุนจีนเข้ามาเพิ่มอีก อาทิ Hong Kong-listed Prinx Chengshan Shandong Tire เริ่มก่อสร้างโรงงานที่ จ.ชลบุรี ตั้งเป้าหมายระยะแรกด้วยเงินลงทุน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อผลิตยางรถยนต์ให้ได้สำหรับรถยนต์ 4 ล้านคัน และสำหรับรถบรรทุกอีก 8 แสนคันต่อปี ตั้งแต่กลางปี 2563 เป็นต้นไป
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า การแห่ย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนจากจีนเพื่อหนีสงครามการค้าเข้ามายังประเทศไทย ทำให้ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (Somkid Jatusripitak) รองนายกรัฐมนตรีของไทย ตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาเพื่อดึงดูดทุนจากจีนอย่างจริงจัง
ขอบคุณเรื่องจาก : https://asia.nikkei.com/Economy/Trade-war/Thai-industrial-developers-reap-spoils-of-US-China-trade-war?fbclid=IwAR1IwpD9sMjtVUyqKnHJItJ3wWZfmK6MOuk86CDbTY9Pbx2AOnYXjlhKai4
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี