24 ก.ย. 2562 สำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์ เสนอรายงานพิเศษ “Thai activists risk murder, abduction in fight for land rights” ว่าด้วยชะตากรรมของนักต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชนในประเทศไทย ที่มีโอกาสเสี่ยงถูกข่มขู่คุกคาม ทำร้ายร่างกายและลอบสังหาร โดยยกตัวอย่างหลายกรณี เช่น เอกชัย อิสระทะ (Eakachai Itsaratha) แกนนำกลุ่มผู้คัดค้านสัมปทานการทำเหมืองแร่ใน จ.พัทลุง ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 10 คน จับขึ้นรถไปกักตัวไว้ในสถานที่แห่งหนึ่ง ระหว่างเข้าไปสังเกตการณ์เวทีประชาพิจารณ์ในโครงการเหมืองดังกล่าว
เอกชัย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 5 ส.ค. 2562 ในเวลานั้นก็คิดว่าชีวิตของตนคงจบสิ้นแล้ว ซึ่งหลายปีที่ต่อสู้กับโครงการเหมืองแร่ ตนก็เตรียมตัวเตรียมใจมาตลอดหากสิ่งที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น โดยถูกพาไปกักตัวไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ห่างจากมัสยิดอันเป็นสถานที่จัดเวทีประชาพิจารณ์ราว 13 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามระหว่างถูกกักตัวไม่มีการใช้ผ้าปิดตาหรือมัดร่างกาย กระทั่งชายฉกรรจ์ได้ปล่อยตนออกมาในอีกหลายชั่วโมงให้หลัง เมื่อทราบว่าเวทีประชาพิจารณ์เสร็จสิ้นแล้ว พร้อมข่มขู่ไม่ให้ไปแจ้งตำรวจ
รายงานของอัลจาซีรา กล่าวถึงแรงจูงใจที่ทำให้ เอกชัย ออกมาต่อสู้ เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นผลกระทบจากอุตสาหกรรมการทำเหมืองต่อชุมชนบ้านเกิดของตนที่ จ.สงขลา ชาวบ้านกว่า 500 หลังคาเรือนมีปัญหาในการหายใจจากฝุ่นที่เกิดจากการระเบิดหิน ส่วนที่ จ.พัทลุง ตนทราบดีว่าชาวบ้านจำนวนมากคัดค้าน แต่ไม่กล้าที่จะแสดงออกและประท้วง ซึ่งเครือข่ายนักเคลื่อนไหวในประเด็นสิทธิมนุษยชน มองว่า การข่มขู่คุกคาม เอกชัย เป็นข้อบ่งชี้ถึงปัญหาที่กว้างขวางของนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ในปี 2558 มีกรณีของ ใช่ บุญทองเล็ก (Chai Bunthonglek) แกนนำชุมชนคลองไทรพัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี ถูกฆาตกรรมโดยคนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงถึง 6 นัด กระสุนเข้าที่หน้าอกและศีรษะ หลังนำชาวบ้านลุกขึ้นต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิทำกินในเขตป่าสงวนที่รัฐบาลเคยให้บริษัทเอกชนเช่าทำสวนปาล์มน้ำมันจนหมดสัญญาและไม่ได้ต่อสัญญาให้อีก จึงต้องการให้ภาครัฐนำมาจัดสรรให้ชาวบ้านที่เป็นคนยากจนได้ใช้ประโยชน์
แต่คดีที่โด่งดังที่สุด ณ เวลานี้คือกรณีของ “บิลลี่” พอละจี รักจงเจริญ (Por Cha Lee “Billy” Rakchongcharoen) แกนนำชาวกะเหรี่ยงที่หายสาบสูญไปตั้งแต่ปี 2557 กระทั่งเวลาผ่านไป 5 ปี จึงพบศพอยู่ในถังน้ำมันซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นการนำศพมาเผาเพื่ออำพรางคดี ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเป็นวิธีที่ใช้กันมาหลายทศวรรษ ทั้งนี้ องค์กร Working Group on Enforced or Involuntary Disappearances (WGEID) เคยทำรายงานเสนอต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ไทยเป็นอันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่มีปัญหาการบังคับบุคคลให้สูญหาย
อังคณา นีละไพจิตร (Angkhana Neelapaijit) อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และภรรยาของ สมชาย นีละไพจิตร (Somchai Neelapaijit) ทนายความผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวมุสลิมในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทย ซึ่งถูกทำให้หายสาบสูญไปตั้งแต่ปี 2547 กล่าวว่า หลายชุมชนหวาดกลัวเนื่องจากการอุ้มหายและการฆาตกรรมอยู่ในประวัติศาสตร์มายาวนาน ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่หากไม่เป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นก็มักจะเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่รัฐ และหลายกรณีตำรวจและอัยการเลือกที่จะยอมแพ้ จนไม่มีใครถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (Prayuth Chan-o-cha) นายกรัฐมนตรีของไทย เคยรับปากว่าจะดูแลนักเคลื่อนไหวและสื่อมวลชน แต่ ปรานม สมวงษ์ (Pranom Somwong) ตัวแทนองค์กร PI (Protection International) กล่าวว่า ปัญหาการคุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยทวีความรุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะโดยการอุ้มหาย การลอบสังหาร หรือการใช้กระบวนการทางศาลมาฟ้องปิดปาก เพราะบรรดานายทุนต่างๆ นั้นมองเห็นผลกำไรมากกว่าชีวิตของผู้คน อีกทั้งยังขาดกลไกที่มีประสิทธิภาพในการนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
อนึ่ง รายงานจากองค์กร Global Witness ที่เผยแพร่ในเดือน ก.ค. 2562 ระบุว่า กว่า 1 ใน 3 ของคดีฆาตกรรมนักต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชนทั้งหมด 164 คดีทั่วโลกในปี 2561 เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ขณะที่ เอกชัย กล่าวทิ้งท้ายกับอัลจาซีรา ว่าตำรวจพัทลุงใช้มาตรการต่างๆ เท่าที่มีภายใต้ทรัพยากรที่จำกัด ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ตนรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น ถึงกระนั้นตนก็จะต่อสู้ต่อไปแม้ยอมรับว่ากลัว
“สังคมไม่ควรปล่อยให้การข่มขู่คุกคาม การลักพาตัวและการฆาตกรรมที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ดำรงอยู่ต่อไป ไม่เช่นนั้นคงไม่อาจแก้ปัญหาได้” เอกชัย กล่าวในท้ายที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
*แกนนำNGOสงขลาร้องตร.ภาค9 เร่งคดีโดนอุ้มโยงเวทีสัมปทานเหมืองเอกชนพัทลุง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี