จาการ์ตา (เอเอฟพี/รอยเตอร์) – มีผู้เสียชีวิตเป็นรายที่สองแล้วจากเหตุประท้วงต่อต้านการปฏิรูปกฎหมายต่อต้านการปฏิรูปกฎหมายในอินโดนีเซียในสัปดาห์นี้ ที่มีผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน จุดกระแสเรียกร้องให้เปิดการสอบสวนเรื่องตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วง
โดยผู้เสียชีวิตรายที่สองเป็นนักศึกษาวิศวกรรมวัย 19 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเมืองเคนดารี บนเกาะสุลาเวสีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลระบุว่า สาเหตุเกิดจากศีรษะได้รับบาดเจ็บจากการกระแทกอย่างรุนแรงระหว่างเกิดเหตุจลาจลเมื่อวันศุกร์ขณะที่ครอบครัวยืนยันการเสียชีวิตในเช้าวันนี้และต้องการทราบสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นส่วนเมื่อวานนี้นักศึกษาวัย 21 ปี ในเมืองเดียวกันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะได้รับบาดเจ็บที่หน้าอก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์ผู้รักษาคนแรกเผยว่า พบรอยกระสุน แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นกระสุนจริงหรือกระสุนยาง ล่าสุดแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพยืนยันหลายครั้งในวันนี้ว่า เขาเสียชีวิตเพราะถูกยิงด้วยกระสุนจริง ตำรวจอินโดนีเซียยืนยันว่า กำลังพลที่ส่งไปยุติเหตุจลาจลเมื่อวันศุกร์ที่มีการวางเพลิงอาคารสภานิติบัญญัติท้องถิ่นไม่มีทั้งกระสุนจริงและกระสุนยาง
เหตุไม่สงบในสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดขึ้นหลังจากมีการเสนอร่างแก้ไขกฎหมายหลายฉบับ เช่น การลงโทษผู้มีเพศสัมพันธ์นอกสมรส การควบคุมการจำหน่ายยาคุม
กำเนิด ไปจนถึงการห้ามดูหมิ่นประธานาธิบดี และเข้มงวดกฎหมายดูหมิ่นศาสนา ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด สั่งเลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายออกไปเป็นเดือนหน้า นอกจากนี้ยังมีกระแสไม่พอใจการแก้ไขกฎหมายกำกับดูแลหน่วยงานปราบปรามการทุจริตที่เกรงว่าจะลดประสิทธิภาพของหน่วยงานนี้ลง การประท้วงครั้งนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่นักศึกษาเป็นแกนนำขับไล่ประธานาธิบดีซูฮาร์โตในปี 2541 และมีขึ้นก่อนที่ประธานาธิบดีวิโดโดจะเริ่มการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองในเดือนหน้าหลังจากชนะเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี