9 พ.ค. 2563 สำนักข่าว CGTN ของจีน เสนอข่าว “COVID-19 pandemic pushes Thais into mental health crisis” ระบุว่า วิกฤติไวรัสโควิด-19 นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้วยังรวมถึงปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของผู้คนด้วย เช่น ในประเทศไทย การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้คนจำนวนมากตกงาน ระบบตาข่ายป้องกันชีวิตลดลง และคนนับล้านร่วงหล่นสู่ความยากจน
Chorladda Chumseag อดีตพนักงานเก็บค่าโดยสารรถประจำทาง วันนี้นอกจากจะตกงานแล้วแม้กระทั่งไฟฟ้าที่บ้านก็ยังถูกตัด และกำลังจะถูกไล่ออกจากที่พักในอีกไม่นาน และดูเหมือนมองไปทางไหนจะไร้ทางออก เพราะแม้แต่เงินเยียวยา 154 เหรียญสหรัฐ หรือราว 5,000 บาทตามมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลก็ยังไม่ได้รับ โดยมาตรการช่วยเหลือซึ่งใช้งบประมาณราว 7.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2 แสนล้านบาท ไม่รวดเร็วพอช่วยคนไทยจำนวนมากที่กำลังต่อสู้กับคุณภาพชีวิตประจำวันที่แย่ลงจากการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ หยุดชะงัก
ทั้งนี้ มีผู้ยื่นขอรับความช่วยเหลือ 28.8 คน แต่ได้รับอนุมัติเพียง 13.4 ล้านคน วิกฤติที่มีมาก่อนหน้าบวกกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ กำลังนำพาประเทศไทยไปสู่วิกฤติด้านสุขภาพจิต โดยมีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเป็นข้อบ่งชี้สำคัญ ซึ่งเดิมก่อนจะเกิดวิกฤติไวรัสโควิด-19 ไทยก็มีอัตราการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 14.4 คนต่อประชากร 1 แสนคน สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) อยู่แล้ว
นพดล กรรณิกา (Noppadon Kannika) ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยว่า ความเครียดจากปัญหาเศรษฐกิจ การแยกตัวทางสังคม ความวิตกกังวล เชื่อมโยงกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยผลสำรวจพบกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 67 มีความเครียดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหากเปรียบเทียบกับพีระมิด ฐานล่างอันหมายถึงประชากรส่วนใหญ่มีความเปราะบาง เมื่อถูกกระแทกอย่างฉับพลัน คนเหล่านี้จึงรู้สึกว่าตนเองไม่มีทางออก ขณะที่ผู้ใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในเดือน มี.ค. 2563 มีผู้ใช้บริการ 600 ครั้ง เมื่อเทียบกับช่วงเวลา 2 เดือนก่อนหน้านั้น ที่มีผู้ใช้บริการ 20 และ 40 ครั้งตามลำดับ
ขณะที่ Kanpassorn Suriyasangpetch ผู้ก่อตั้งบริการแอพพลิเครชั่นบรรเทาปัญหาสุขภาพจิต OOCA กล่าวว่า มีนักบำบัดที่มีใบรับรองคุณวุฒิให้บริการกว่า 100 คน โดยหวังว่าจะเข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ต้องการขอความช่วยเหลือ ซึ่งไม่เฉพาะช่วงวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้เท่านั้น แต่ยังต้องการให้การพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาทำได้ง่ายขึ้น แก้ปัญหาเดิมทั้งการจองคิวที่ทำได้ยาก รวมถึงการถูกตีตราจากสังคมด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี