โลกยังไม่พ้นวิกฤติ
210ประเทศป่วยทะลุ4ล้านคน
สหรัฐตายเกือบ8หมื่น
ทรัมป์บอกไม่มีปัญหา
‘อังกฤษ’ให้เข้าเมือง
แต่ต้องถูกกักตัว14วัน
ยอดผู้ป่วยติดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกทะลุ 4 ล้าน ตาย2.7 แสนราย เฉพาะสหรัฐดับไปเกือบ 8 หมื่น แต่ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังวางใจไม่มีปัญหาแม้ลูกน้องในทำเนียบป่วยกันระนาว อังกฤษ เปิดทางต่างชาติเข้าเมือง แต่มีข้อแม้ต้องโดนกักตัว 14 วัน ด้านบราซิลดับวันเดียว 751 ศพ
เมื่อเย็นวันที่ 9 พฤษภาคม สื่อต่างประเทศรายงานสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 4,026,543 ราย เสียชีวิต 276,484 รายรักษาหาย 1,394,289 ราย โดยสหรัฐมีผู้ป่วย 1,322,146 ราย เสียชีวิต 78,616 ราย สเปน มีผู้ป่วย 260,117 ราย เสียชีวิต 26,299 ราย อิตาลี มีผู้ป่วย 217,185 ราย เสียชีวิต 30,201 ราย อังกฤษ มีผู้ป่วย211,364 ราย เสียชีวิต 31,241 ราย
สำหรับสถานการณ์ระบาดในประเทศต่างๆ ที่สหรัฐ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเผยว่า ไม่ห่วงเรื่องโรคโควิด-19 แพร่ในทำเนียบขาว หลังจากประกาศต่อสาธารณะว่านางเคที มิลเลอร์ โฆษกส่วนตัวรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ติดเชื้อเป็นรายล่าสุด ด้านทำเนียบขาวเผยว่า เตรียมเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยให้เคร่งครัดขึ้น นางมิลเลอร์ทำงานใกล้ชิดกับรองประธานาธิบดีเพนซ์ แต่ไม่ได้ใกล้ชิดประธานาธิบดีทรัมป์ เจ้าหน้าที่หกคนที่ใกล้ชิดกับเธอถูกถอดออกจากรายชื่อผู้ที่จะขึ้นเครื่องบินไปรัฐไอโอวาพร้อมกับรองประธานาธิบดีก่อนกำหนดการไม่กี่ชั่วโมง และรับการตรวจหาเชื้อในเวลาต่อมา ผลตรวจออกมาเป็นลบ ขณะที่สามีของเธอคือนายสตีเฟน มิลเลอร์ เป็นที่ปรึกษาคนหนึ่งของทรัมป์ ทำเนียบขาวไม่ได้เผยว่าเขารับการตรวจหาเชื้อแล้วหรือไม่หรือยังทำงานอยู่
ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน ทำเนียบขาวยืนยันว่า ทหารนายหนึ่งที่เป็นเจ้าหน้าที่รับใช้ของประธานาธิบดีตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เลขาส่วนตัวของนางอิวังกา ทรัมป์ บุตรีสาวของทรัมป์ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาระดับสูงในทำเนียบขาวก็ป่วยเป็นโควิด-19 แต่อิวังกาไม่ได้พบกับเลขาส่วนตัวคนนี้มานานหลายสัปดาห์แล้ว เนื่องจากทั้งสองต่างทำงานอยู่กับบ้าน ขณะเดียวกัน กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ ยืนยันว่า ตำรวจลับจากหน่วยงานที่เรียกว่า ซีเคร็ท เซอร์วิส ของสหรัฐป่วยเป็นโควิด19 เพิ่มอีก 11 คน โดยตรวจพบเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนหน้านี้ ก็มีตำรวจลับติดเชื้อไปแล้ว 23 คน แต่ตอนนี้หายป่วยแล้ว
ส่วนสถานการณ์ในยุโรป สื่อหลายสำนักในอังกฤษรายงานว่า อังกฤษเตรียมใช้มาตรการบังคับกักตัว 14 วันกับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคนทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ ยกเว้นผู้เดินทางมาจากไอร์แลนด์ ผู้ฝ่าฝืนอาจมีโทษปรับสูงสุด 1,000 ปอนด์ (ราว 39,560 บาท) หรือถูกเนรเทศออกจากอังกฤษ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันจะประกาศเรื่องนี้ในวันอาทิตย์ ด้านบรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี อ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลและแอร์ไลน์สยูเค สมาคมสายการบินที่จดทะเบียนในสหราชอาณาจักรว่า ทางการเตรียมใช้ระเบียบกักตัว 14 วันในสิ้นเดือนนี้ ก่อนหน้านี้รัฐบาลอังกฤษเตือนว่า อย่าเพิ่งคาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เรื่องมาตรการปิดเมืองทั่วประเทศ ขณะที่รัฐบาลเวลส์ซึ่งร่วมอยู่ในสหราชอาณาจักรประกาศว่า จะเปิดสวนสาธารณะและห้องสมุดอีกครั้ง แต่มาตรการอื่น ๆ จะยังคงใช้ต่อไปอีกสามสัปดาห์ อังกฤษมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สะสมแล้ว 212,629 คน มากเป็นอันดับ 4 ของโลก เสียชีวิต 31,315 คน มากเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐ
เช่นเดียวกับสถานการณ์ระบาดในรัสเซียที่ยังคงรุนแรง ล่าสุด ศูนย์รับมือวิกฤติโควิด-19 ของรัฐบาลรัสเซียรายงานว่าเมื่อวันศุกร์ พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 10,669 คน ทำให้จำนวนรวมผู้ติดเชื้อสะสมในรัสเซีย อยู่ที่ 187,859 คน สูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก และนับเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ที่รัสเซียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 10,000 คน ส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในรัสเซียเพิ่มขึ้น 98 คนเมื่อวันศุกร์ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในรัสเซียอยู่ที่ 1,723 คน ที่กรุงมอสโก ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ในรัสเซีย โดยมีทั้งยอดผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อสะสม เกินกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ ได้ประกาศขยายมาตรการล็อคดาวน์กรุงมอสโก ให้ประชาชนอยู่กับบ้านต่อไป จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ หลังจากที่พบว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังเพิ่มขึ้นทุกวัน
ส่วนในอเมริกาใต้ กระทรวงสาธารณสุขบราซิลแจ้งเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ยอดผู้เสียชีวิตรายวันทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่ 751 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมเกือบ 10,000 คน และมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 10,222 คนในช่วง 24 ชั่วโมง ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมเกิน 145,000 คน ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ตัวเลขที่แท้จริงสูงกว่านี้มากเพราะบราซิลมีการตรวจหาเชื้อน้อยมาก รัฐเซาเปาโลที่มีประชากรมากที่สุดในบราซิล 45.9 ล้านคน มีผู้ป่วยไม่ต่ำกว่า 41,000 คน เสียชีวิต 3,416 คน ทางการปิดโรงเรียนและธุรกิจที่ไม่จำเป็นตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม และขยายคำสั่งอยู่บ้านไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร วิจารณ์มาตรการปิดเมืองว่าทำให้เศรษฐกิจเสียหายโดยไม่จำเป็น ขณะที่นายเปาโล เกเดส รัฐมนตรีเศรษฐกิจเตือนว่า บราซิลอาจล้มละลายทางเศรษฐกิจภายในหนึ่งเดือน เพราะขาดแคลนอาหารและเกิดความวุ่นวายทางสังคม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี