อนามัยโลกไฟเขียว
ใช้ยา‘แพกซ์โลวิด’กลุ่มเสี่ยงสูง
ทั่วโลกป่วย507ล้าน/ตาย6.2ล้าน
โควิดทั่วโลกยังหนัก ติดเชื้อแล้วกว่า 507 ล้านราย ตายสะสมทะลุ 6.2 ล้านศพ สหรัฐฯนำโด่ง ตายกว่า 1 ล้านศพ ส่วนโซนยุโรป เยอรมนี-ฝรั่งเศส ป่วยเกินแสน ขณะที่เอเชีย เกาหลีใต้ติดเชื้อ 9 หมื่นราย ทางองค์การอนามัยโลก หนุนใช้ “ยาแพกซ์โลวิด” ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง ชี้ผลทดลองช่วยลดอัตราการเข้ารักษาใน รพ.
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ทั่วโลก ว่ามีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 507,607,832 ราย เพิ่มขึ้น 782,203 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 6,235,319 ราย เพิ่มขึ้น 3,219 ราย หายป่วยสะสม 459,876,864 ราย โดยหายป่วยเพิ่มขึ้น 909,314 ราย ซึ่งในรอบ 24 ชั่วโมง สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดอยู่ที่ 45,204 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 82,553,058 ราย และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 299 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมสูงถึง 1,017,609รายมากที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน
ขณะที่หลายประเทศในทวีปยุโรป พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเยอรมนี มีผู้ติดเชื้อใหม่ 139,849ราย ฝรั่งเศส 104,007ราย อิตาลี 75,020 รายและรัสเซีย 8,875 ราย ส่วนทวีปอเมริกาใต้ เริ่มลดลง โดยบราซิล อยู่ในอันดับ 3 ที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,660 ราย ชิลี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,309 ราย
สำหรับในทวีปเอเชีย ปรากฏว่าเกาหลีใต้ มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง โดยมีผู้ติดเชื้อ90,825 ราย ญี่ปุ่น 47,460ราย และตุรกี 3,354 ราย ขณะที่กลุ่มประเทศอาเซียน พบว่า เวียดนาม มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12,029 ราย ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 10,533,164 ราย มากที่สุดในภูมิภาค และมียอดผู้เสียชีสิตอยู่ที่ 42,991 ราย ส่วนอินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดัน 2โดยมียอดติดเชื้อสะสม 6,042,595 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 585 ราย แต่ยอดเสียชีวิตสะสมสูงสุดภูมิภาค อยู่ที่156,015 ราย
องค์การอนามัยโลก(WHO)ออกแถลงการณ์สนับสนุนการใช้ยาแพกซ์โลวิด ในการรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งมติของWHO มาจากผลการทดสอบทางคลินิกกับคนไข้อาสาสมัครเกือบ 3,100 คน โดยผลปรากฏว่าช่วยลดความเสี่ยงต่อการต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้สูงถึง 85%อย่างไรก็ดี การใช้ยารักษาไม่ใช่กระบวนการที่จะมาแทนที่วัคซีน แต่คือหนึ่งในทางเลือกสำหรับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง และยังงดเว้นกับหญิงมีครรภ์ และหญิงที่อยู่ระหว่างให้นมบุตร
อนึ่ง คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA)มีมติเมื่อเดือนธันวาคม 2564 รับรองการใช้ยาแพกซ์โลวิด เป็นกรณีฉุกเฉินกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปี และผู้สูงอายุที่มีน้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 40 กิโลกรัม ซึ่งติดเชื้อแล้วมีแนวโน้มป่วยหนัก โดยต้องรับประทานทุก 12 ชั่วโมง ต่อเนื่อง 5 วัน นับตั้งแต่ติดเชื้อ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการของนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน แจ้งผ่านบัญชีวีแชทว่าการดำเนินชีวิตจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในอีกไม่นาน ตราบใดที่ประชาชนยังยึดมั่นต่อระเบียบการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ซึ่งเป้าหมายของทางการคือควบคุมไวรัสโควิด-19 ในชุมชนให้เป็นศูนย์ และจะเริ่มมาตรการใหญ่ 9 ประการ รอบใหม่ เช่นตรวจหาเชื้อทั้งเมืองเร่งลำเลียงผู้ติดเชื้อไปยังศูนย์กักโรค ลดการเดินทางของประชาชน ตรวจตราการบังคับใช้ระเบียบควบคุมการแพร่ระบาด
ทางการนครเซี่ยงไฮ้ แจ้งด้วยว่าพบผู้ติดเชื้อในชุมชนรายใหม่ที่ไม่แสดงอาการ 15,698ราย ลดลงจาก 15,861ราย เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่แสดงอาการ 1,931ราย ลดลงจาก 2,634ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 250ราย อยู่นอกเขตกักโรค ซึ่งการทำให้ผู้ติดเชื้อนอกเขตกักโรคเป็นศูนย์เป็นเกณฑ์ที่นครเซี่ยงไฮ้จะใช้ในการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แต่ละพื้นที่ ตามอย่างเมืองใหญ่อื่นๆ
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตนั้น นับตั้งแต่นครเซี่ยงไฮ้เริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยอดรวมเป็น 36รายแล้วในช่วง 5 วันที่ผ่านมา เฉพาะเมื่อวันที่ 21 เมษายน มีผู้เสียชีวิต 11ราย
วันเดียวกัน ศูนย์ข้อมูลและการศึกษาเพื่อสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขลาว เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวทุกคนที่จะเดินทางเข้าประเทศลาวผ่านท่าอากาศยานนานาชาติวัดได นครหลวงเวียงจันทน์ ต้องเข้ารับตรวจสอบพีซีอาร์ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางและเมื่อเดินทาวมาถึงต้องเข้ารับการทดสอบแบบรวดเร็ว ตรวจวัดอุณหภูมิและแสดงเอกสารที่จำเป็นต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษคณะแพทย์จากมหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ ลอนดอนและมูลนิธิเอ็นเอชเอสกายส์แอนด์เซนต์โทมัส เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นานที่สุดในโลก โดยเป็นผู้ป่วยคนหนึ่งที่เข้ารับการรักษาแล้ว แต่ยังคงตรวจพบเชื้อในตัวนานถึง 505 วันซึ่งผู้ป่วยรายนี้มีโรคประจำตัวที่ทำให้ระบบภูมิต้านทานอ่อนแออย่างมาก ติดเชื้อครั้งแรกเมื่อต้นปี 2563 เข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้งเพื่อรักษาและตรวจร่างกาย โดยผลการตรวจหาเชื้อที่ลำคอในแต่ละครั้งได้ผลเป็นบวก รวมทั้งหมดประมาณ 50 ครั้ง กระทั่งผู้ป่วยเสียชีวิตในโรงพยาบาลเมื่อปี 2564
ขณะที่ผลการจัดลำดับพันธุกรรมเชื้อไวรัสในห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเป็นการติดเชื้อเดิมต่อเนื่อง ไม่ใช่การติดเชื้อใหม่ แสดงว่าผู้ป่วยไม่สามารถหายจากการติดเชื้อแม้ว่าจะได้รับยาต้านไวรัส แตกต่างจากอาการ “ลองโควิด” ที่ผู้ป่วยตรวจไม่พบเชื้อไวรัสแล้วแต่ยังคงมีอาการอยู่ทั้งนี้ คณะแพทย์ระบุว่าการติดเชื้อยาวนานเป็นเรื่องที่พบไม่บ่อยและเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเปิดช่องให้เชื้อไวรัสปรับตัวในร่างกายผู้ป่วย และยังกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี